สรุปฟังก์ชันที่คุณต้องใช้ใน iOS 14 ที่แค่อัปก็เปลี่ยน iPhone เครื่องเก่าของคุณให้เหมือน Android! จะมีอะไรบ้างนะ
- ความสามารถแรกที่จะเปลี่ยน iPhone ของคุณให้กลายเป็น Android คือ Widget ครับ เราจะไม่บอกนะว่าแอนดรอยด์มีความสามารถนี้มาร่วม 10 ปีแล้ว แต่ Widget ของ iOS ก็ถือว่าออกแบบมาสวยและใช้งานได้จริงเลย วิธีเพิ่ม Widget นั้นทำง่ายมากครับ กดไอคอนอะไรก็ได้ที่หน้าโฮมค้างไว้ แล้วเลือกเข้าโหมด Edit Home Screen และกด + ด้านบนเพื่อเพิ่มเข้าไปได้เลย ซึ่ง Widget ของ iOS จะมี 3 ขนาดครับ คือขนาดเล็กที่กินพื้นที่ไป 2 x 2 ไอคอน, กลาง กินไป 4 x 2 ไอคอน และใหญ่ที่กินพื้นที่ไป 4 x 4 ไอคอน นอกจากนี้ยังมี Widget แบบ Stack ที่รวมหลาย Widget ในกรอบเดียวได้อีกด้วย
- และถ้า iPhone ของคุณยังเป็น Android ไม่พอ ต้องเจอ App Library ครับ แหล่งรวมแอปทั้งหมดของเครื่อง ที่มีการจัดระบบ ระเบียบแยกกลุ่มให้อัตโนมัติ ถึงแม้มันจะดูคล้าย App Drawer ของ Android แต่ก็ต้องยอมรับว่าแอปเปิ้ลทำออกมาน่าใช้กว่า และต่อไปชาว iOS ไม่ต้องลงแอปหลาย ๆ หน้าให้เลื่อนจนปวดหัวแล้ว เอาแอปลงหน้าโฮมเฉพาะที่ใช้บ่อย ๆ พอ ที่เหลือให้เครื่องมันจัดเองใน App Library
- อีกหนึ่งฟีเจอร์ที่คุณจะได้ใช้กันคือ Picture in Picture ที่ก็มีใน Android มาสัก 2-3 ปีแล้ว คราวนี้คุณสามารถเปิดวิดีโอค้างในหน้าจอเล็ก ๆ แล้วไปทำอย่างอื่นต่อได้ หรือจะใช้ facetime แบบหน้าจอเล็กก็ได้ ซึ่งอะไรเล็กๆ นี้ไม่ใช่มีแค่ PIP ครับ หน้าสายเรียกเข้า เวลาคนโทรเข้า หรือเวลาโทรเข้าผ่านแอป ก็จะขึ้นเป็นแบนเนอร์เล็ก ๆ ด้านบนนี้แทนการขึ้นถมทั้งหน้า ทำให้เราสามารถจัดการงานที่กำลังทำอยู่ได้ ก่อนที่จะกดรับสาย
- ความสามารถของ Message มีเพียบครับ ทั้งพินแชตที่ใช้บ่อย ๆ ใส่รูปเป็นโลโก้ให้กรุ๊ปแชต คำสั่ง Mention หรือการตอบกลับในบรรทัด แต่เราจะไม่ลงรายละเอียดมาก เพราะเชื่อว่าคนไทยปิด iMessages ไปหมดแล้ว จากปัญหาสแปมที่แอปเปิ้ลแก้ให้ไม่ได้สักทีครับ
- มาดูเครื่องมืออื่น ๆ ที่น่าสนใจกันบ้างครับอย่าง Translate ที่ในที่สุด iOS ก็มีเครื่องมือแปลภาษาของตัวเอง ที่สามารถพิมพ์แปลภาษา หรือฟังจากเสียงพูดก็ได้ แถมโหลดมาทำงาน Offline แบบไม่ต้องต่อเน็ตได้ ลองแปลดูก็อ่านเข้าใจนะครับ โดยรองรับภาษาหลักๆ อย่างภาษาอังกฤษ, ญี่ปุ่น, จีน, เกาหลี, ฝรั่งเศส, อราบิก และอื่น ๆ แต่ไม่มีภาษาไทยจ้า ชาวไทยใช้ Google Translate ไปก่อนนะ
- นอกจากนี้ Voice Recorder เครื่องมือบันทึกเสียงนี้ก็มีความสามารถปรับปรุงเสียงที่บันทึกให้ดีขึ้นได้ในตัว ไม่ต้องลงแอปอื่น
แล้วสังเกตเวลาบันทึกเสียงนะครับ จะมีจุดสีส้มๆ อยู่ตรงนี้ นี่คือลัญลักษณ์บอกให้ผู้ใช้รู้ว่ากำลังบันทึกเสียงอยู่ครับ ซึ่งทุกแอปที่มีการบันทึกเสียง ระบบจะขึ้นจุดสีส้ม ๆ นี้หมด ทำให้เรารู้ว่าแอปไหนแอบบันทึกเสียงเราบ้าง และไม่ใช่แค่เสียงอย่างเดียว เรื่องกล้อง iOS 14 ก็เตือนเป็นจุดสีเขียวตรงนี้ครับ ถ้าแอปไหนแอบเปิดกล้อง เราก็จะรู้ทันทีจากจุดสีเขียวนี้ นอกจากนี้ถ้ามีการอ่านข้อมูลจาก Clipboard ระบบก็จะขึ้นแบนเนอร์เตือนทันทีด้วย
- ใน Safari ยังมีหน้า Tracking Report เพื่อแสดงการจัดการความเป็นส่วนตัวของเว็บนั้นๆ นอกจากนี้ผู้ใช้ยังสามารถเลือกแชร์ตำแหน่งของเราให้แอปแบบคร่าวๆ ได้ แอปไม่ต้องรู้ละเอียดว่าเราอยู่ตำแหน่งไหน รู้แค่อยู่ย่านไหนก็พอ และที่เจ๋งมากคือใน iOS 14 เราสามารถเลือกเฉพาะบางรูปเพื่อให้แอปนั้น ๆ ใช้ โดยที่แอปไม่มีสิทธิ์เข้าถึงอัลบั้มรูปทั้งหมดก็ได้ เช่นให้เฟซบุ๊กเข้าถึงรูปที่เราจะอัปเท่านั้น แต่ไม่สามารถอ่านรูปทั้งหมดของเครื่องเราได้ เรียกว่าเรื่อง Privacy ไว้ใจระบบของแอปเปิ้ลได้เลย
- Sound Recognition ก็เป็นความสามารถใหม่ที่แอปเปิ้ลเอาใจใส่ผู้ที่อาจมีปัญหาทางการได้ยินครับ โดย iPhone จะฟังเสียงที่เราเลือกไว้ให้ เช่นเสียงแมวร้อง เสียงไซเรน เสียงแตรรถ เสียงเคาะประตู แล้วขึ้นแจ้งเตือนขึ้นมาบนจอให้รับรู้
- ความสามารถเล็กๆ ที่น่าสนใจคือในหน้าจอเลือก Emoji เราสามารถพิมพ์ค้นหา Emoji ที่ต้องการได้แล้วนะ พิมพ์ภาษาไทยลงไปได้เลย เช่น “เงินหมด” , “รัก” , “โกรธ” ทำให้ค้นหาอารมณ์ได้ง่ายขึ้นเยอะ
- ส่วนความสามารถที่เราโชว์ให้ดูวันนี้ไม่ได้ก็มีอย่าง การตั้งค่าแอปพื้นฐาน ที่ใน iOS 14 จะสามารถเลือก Browser ให้เป็นแอปอื่นนอกจาก Safari ได้ หรือเปลี่ยนแอปเมลพื้นฐานจาก Mail เป็นอื่น ๆ เช่น Gmail ได้ ซึ่งตรงนี้ต้องรอนักพัฒนาทำแอปให้รองรับก่อน
- หรือความสามารถอย่าง App Clips ที่เปิดโอกาสให้นักพัฒนาสามารถทำแอปเล็กๆ ให้ผู้ใช้สแกนแล้วเปิดใช้งานได้ทันทีจากหน้างานเลย เช่นไปถึงจุดจอดรถก็เอามือถือแปะ แล้วแอปเล็ก ๆ ก็จะโหลดขึ้นมาเพื่อรับชำระค่าจอดรถ หรือไปถึงสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า ก็สแกนแล้ว App Clips ก็จะทำงานเพื่อเช่ารถไปใช้ได้เลย
- iPhone ที่ใช้ iOS 14 ก็สามารถทำตัวเป็นกุญแจรถได้อีกนะครับ ซึ่งสามารถปั้มกุญแจรถส่งทาง Message ให้คนอื่นใช้รถเราตามเงื่อนไขที่เรากำหนดได้ด้วย แถมเวลาแบต iPhone หมดก็ยังใช้ iPhone เป็นกุญแจต่อได้อีก 5 ชั่วโมงด้วย (แน่นอนว่ารถคุณก็ต้องรองรับ เอ้า ซื้อรถใหม่
- แล้วก็ความสามารถ Back Tap ซึ่งทำให้เราสามารถเคาะด้านหลังของ iPhone 2 ที หรือ 3 ที เพื่อทำคำสั่งที่กำหนดได้ เช่นเคาะ 2 ที แคปหน้าจอ หรือเคาะ 3 ทีเปิดไฟฉายได้ ซึ่งสามารถเช็ตให้ทำงานกับ Siri Shortcut ที่เรากำหนดไว้ได้ด้วย ซึ่งคำสั่งนี้จะอยู่ใน Settings > Accessibility -> Touch แต่ iPhone 7 ของเราไม่มี สงสัยอดใช้แน่ ๆ
iOS 14 สามารถอัปได้ตั้งแต่ iPhone 6s ขึ้นไป รวม iPhone SE ทั้ง 2 รุ่นด้วย iPod Touch Gen 7 ก็อัปได้ รู้ความสามารถเจ๋ง ๆ แบบนี้แล้วจะรออะไร เมื่ออัปได้ก็รีบไปอัปกันเถอะ
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส