วันนี้แบไต๋โดยต้า และน้องนาวลิ้ม ออกนอกสถานที่ มาเที่ยวย่านเมืองเก่า ชุมชนกุฎีจีน เพื่อรีวิวกล้องสุดเก๋าอย่าง Fujifilm X100V กล้องรุ่นที่ 5 สานต่อตำนานจากเจ้าคุณปู่ Fujifilm X100 ที่ออกเมื่อ 10 ปีก่อน เอาตรง ๆ คือแม้เราไม่รู้สเปก ไม่รู้ว่ากล้องนี้พิเศษยังไง แต่เรื่องความหล่อนั้นกินขาดครับ แค่ถือก็หล่อ ยิ่งเอามาส่องกับ Viewfinder ก็ยิ่งหล่อ


Fuji X100V เป็นกล้องที่เปลี่ยนเลนส์ไม่ได้นะครับ เราใช้ได้เพียงเลนส์ 23 mm f/2 ที่มีมุมภาพเทียบเท่าระยะ 35 mm บนกล้อง Full Frame ได้แค่นั้น อยากได้ภาพใกล้ ๆ ก็ต้องซูมเท้า เดินเข้าใกล้วัตถุเอา อยากเก็บภาพกว้าง ๆ ก็ต้องถอยไปจนสุด ซึ่งตรงนี้แหละที่เป็นจุดคัดผู้ใช้ของกล้องตัวนี้เลย


คือระยะ 35 mm มันจะแคบกว่าระยะ 28 mm ที่เราคุ้นเคยจากกล้องมือถือนะครับ สำหรับคนที่เพิ่งใช้กล้อง X100V ครั้งแรกจะรู้สึกว่ามุมภาพมันแคบ ยิ่งเวลาถ่ายรูปหมู่คือต้องถอยไกลหน่อย แต่ระยะ 35 mm ก็เป็นระยะที่ถ่ายรูปบุคคลได้สวย แล้วยิ่งเลนส์นี้เปิดรูรับแสงได้กว้างสุด f/2 ก็ยิ่งทำให้ฉากหลังละลายได้ละมุนมากเลย


ซึ่งเลนส์ของ X100V Fujifilm ได้ปรับปรุงโครงสร้างภายในใหม่จาก X100 รุ่นก่อนๆ ทำให้โฟกัสภาพใกล้ ๆ ได้คมขึ้นด้วยนะ ความเร็วในการโฟกัสก็ดีมากด้วย โฟกัสหาใบหน้าได้ไวมาก Fuji X100V นั้นเป็นกล้องแบบ Rangefinder นะครับ คือมีช่องมองภาพอยู่ตรงนี้ ซึ่งช่องมองภาพตัวนี้มันเทพมาก คุณสามารถมองภาพจริง ๆ ผ่านเลนส์ของช่องมองภาพหรือที่เรียกว่า OVF ก็ได้ หรือจะเลื่อนคันโยกตัวนี้เพื่อเปลี่ยนไปมองภาพจากจอหรือเป็นแบบ EVF หรือถ้าเลือกไม่ถูก จะมองทั้ง OVF และ EVF เลยก็ทำได้ครับ


ส่วนจอสัมผัสด้านหลังก็สามารถปรับมุมสำหรับก้ม-เงยได้นิดหน่อย แต่ยังไม่ใช่ระดับที่เอามาถ่าย Selfie ได้นะครับ การควบคุมกล้องก็เลียนแบบมาจากกล้องสมัยก่อน คือคุณสามารถควบคุมรูรับแสงได้ด้วยวงแหวนหน้าเลนส์ตรงนี้ หมุนความเร็วชัตเตอร์ได้จากแป้นหมุนด้านบน ซึ่งแป้นหมุนตัวนี้ยังกำหนดความไวแสงหรือ ISO ได้อีกด้วย นอกจากนี้ยังมีแป้น EV เอาไว้ปรับความมืดความสว่างได้ ถ้าไม่อยากหมุนเอง ก็เลือกเป็น A หรือให้กล้องคิดอัตโนมัติให้หมดเลยก็ได้ หรือใครไม่ชินการหมุนทีละจุดแบบนี้ ก็สามารถปรับกล้องให้หมุนด้วยวงแหวนหน้า-หลังกล้องได้เช่นกันครับ


เสน่ห์ของกล้องฟูจิคือโหมดสีต่าง ๆ ในกล้องที่เลียนแบบสีสันของฟิล์มชื่อดังในอดีตของฟูจิมา คือถ้าใช้กล้องฟูจิคล่อง ๆ จำโทนสีของแต่ละโหมดได้ แทบไม่ต้องไปแต่งโทนภาพต่อในแอปเลย ซึ่ง Fuji X100V มีให้เลือกมากถึง 11 โหมด โหมดเด่น ๆ ก็เช่น


  • Provia โหมดสีมาตรฐาน ให้ภาพสดใสเหมาะกับทุกสภาพ
  • Velvia สีสดพิเศษ สำหรับถ่ายธรรมชาติ
  • Classic Chrome สีจืด ๆ ให้ลุคฟิล์มเก่าสวย ๆ
  • Pro Negative สีเหมือนฟิล์มสีในยุคก่อน
  • นอกจากนี้ยังมีตัวเลือก Color Chrome สำหรับเร่งสีสันที่ส่วนที่สดอยู่แล้ว ให้เข้มขึ้นไปอีก ปรับท้องฟ้าให้เป็นสีน้ำเงินเข้มสวยเลยก็ได้

การถ่ายวีดีโอ

โหมดวิดีโอของ Fuji X100V นั้นทำได้ดีเกินคาดครับ สามารถถ่าย 4K 30 fps ได้เลย แถมสามารถเลือกโหมดสีให้วิดีโอได้ด้วย ซึ่งวิดีโอนี้เราถ่ายด้วยโหมดสี Eterna ครับ ก็ให้ภาพที่ดูนวลตา การโฟกัสก็ทำได้รวดเร็ว เพียงแต่ว่า X100V นั้นไม่มีกันสั่นที่ตัวกล้องเลยนะครับ เพราะฉะนั้นถ้าจะใช้ตัวกล้องถ่ายวิดีโอเพียว ๆ มันก็จะสั่นมากหน่อย ถ้ารักกันจริงต้องเอากล้องไปใส่ Gimbal แล้วถึงถ่ายครับ


ผมขอเอา Fujiflim X100V มาเทียบกับเพื่อนร่วมวงการอย่าง Ricoh GR III สักหน่อยนะครับ เพราะกล้องทั้ง 2 ตัวนี้เป็นกล้องคอมแพ็กต์เซนเซอร์ใหญ่น้อง ๆ ฟิล์มที่ใช้เลนส์ Fixed ที่ซูมไม่ได้ทั้งคู่ และเปลี่ยนเลนส์ไม่ได้ด้วยเหมือนกัน


สรุป

ถ้าคุณอยากได้กล้องหล่อ ๆ ชอบถ่ายภาพบุคคล ชอบสีสันภาพเหมือนฟิล์ม ชอบถ่ายภาพด้วยช่องมองภาพ ให้เลือก Fuji X100V ครับ ด้วยระยะเลนส์และโทนภาพมันใช่มากกว่า แต่คุณจะเหมาะกับ Ricoh GR III มากกว่าถ้าคุณอยากได้กล้องที่เล็กจริง ๆ ระดับพกใส่กระเป๋ากางเกงได้ น้ำหนักก็เบากว่า X100V ครึ่งหนึ่ง แต่คุณภาพภาพไม่ได้ยิ่งหย่อนไปกว่ากันเลย ชอบมุมมองภาพที่กว้างกว่า ชอบมุมภาพเดียวกับมือถือคือ 28 mm ที่ถ่ายภาพมุมกว้างได้ง่ายกว่า แถมมีกันสั่นในตัวกล้องด้วยนะ ใช้ Ricoh GR III ไปเลย ไม่ผิดหวัง


ราคา

  • Fuji X100V นั้นเปิดตัวอยู่ที่ 48,990 บาทครับ
  • Ricoh GR III นั้นเปิดตัวที่ 32,990 บาทครับ

และขอขอบคุณ World Camera สำหรับกล้องในวันนี้ ซึ่งสามารถซื้อทั้ง 2 รุ่นนี้ได้ที่ร้าน World Camera เลยนะ

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส