Dyson Lightcycle โคมไฟอัจฉริยะที่ใช้ได้นานถึง 60 ปี! ปรับแสงได้เองอัตโนมัติ นั่งพิมพ์งานทั้งวันไม่มีปวดตา ราคา 18,900 บาท! โคมไฟตัวนี้ถูกออกแบบภายใต้แนวคิด นาฬิกาชีวภาพ เนื่องจากวิศวกรผู้พัฒนาคือ Jake Dyson มองว่าแสงในช่วงเวลาต่าง ๆ ส่งผลโดยตรงต่อมนุษย์ การอยู่ในบ้านเป็นเวลานาน ๆ ห่างเหินจากแสงธรรมชาติของดวงอาทิตย์ จะทำให้นาฬิกาชีวภาพของเราผิดเพี้ยนไป อาจจะทำให้เกิดอาการง่วงผิดเวลา หรือนอนไม่หลับ

เขาจึงออกแบบให้โคมไฟตัวนี้ สามารถตรวจวัดเวลาท้องถิ่นหรือ Time Zone ได้ โคมไฟก็จะรู้ว่าในพื้นที่ที่เราอยู่ ดวงอาทิตย์ขึ้นและตกกี่โมง แล้วโคมไฟก็จะปรับอุณหภูมิสีและแสงสว่างอย่างต่อเนื่องตามแสงสว่างในเวลาท้องถิ่น เราจึงมีแสงสว่างที่เหมาะสมตามช่วงเวลาในแต่ละวัน สมชื่อ Dyson Lightcycle ค่ะ

ดีไซน์

ต้องบอกว่า Minimal และไม่เหมือนใครตามสไตล์ของ Dyson โดยเราสามารถปรับแต่งโคมไฟได้ง่าย ๆ ผ่าน 3 แกน คือ ซ้าย-ขวา, ขึ้น-ลง และหมุนรอบ 360 องศา ไม่ต้องมีตัวล็อก โคมไฟก็อยู่ในตำแหน่งที่เราต้องการได้

ส่วนการเปิด-ปิด ปรับแต่งแสงสว่าง และปรับแต่งอุณหภูมิสีก็มาในปุ่มระบบสัมผัสค่ะ แค่แตะเบา ๆ แบบนี้ ก็ปรับเปลี่ยนได้เลย หรือแตะแล้วเลื่อนนิ้วไปมาก็ได้ อันนี้แล้วแต่ความชอบเลยค่ะ โดยการปรับแต่งแต่ละครั้ง ไฟจะค่อย ๆ เปลี่ยนอย่างนิ่มนวล ไม่วูบวาบบาดตา อันนี้โคมไฟเขาไม่ได้หน่วงหรือช้านะคะ แต่เขาคิดมาแล้วว่าแบบนี้ดีกับสายตาของเรามากกว่าค่ะ

นอกเหนือจากปุ่มปรับแต่งแล้ว ที่ใต้โคมไฟยังมีเซนเซอร์อีก 2 จุด กับอีก 2 ปุ่ม

  • เซนเซอร์สำหรับการวัดแสงโดยรอบ เซนเซอร์ตัวนี้จะตรวจจับสภาพแสงภายในห้องที่เราอยู่ แล้วปรับให้แสงของโคมไฟให้อัตโนมัติ เพื่อให้เราได้แสงที่คงที่ ไม่เปลี่ยนแปลง เหมาะกับเวลานั่งทำงานนาน ๆ
  • เซนเซอร์อีกตัวคือ เซนเซอร์อินฟราเรดสำหรับตรวจจับการเคลื่อนไหว หากภายใน 2 นาที ไม่มีอะไรขยับในระยะเซนเซอร์ ไฟก็จะดับลง ช่วยประหยัดพลังงาน
  • ปุ่มถัดมาคือ ปุ่มซิงก์ เอาไว้ใช้เชื่อมต่อโคมไฟเข้ากับแอปพลิเคชัน Dyson Link ผ่าน WiFi เพื่อควบคุมการใช้งาน
  • ปุ่มสุดท้ายคือ ปุ่ม Bluetooth เอาไว้ใช้เชื่อมต่อโคมไฟเข้ากับแอปพลิเคชัน Dyson Link เหมือนกัน และช่องที่อยู่ข้าง ๆ กันคือ พอร์ต USB-C ที่สามารถชาร์จแบตให้สมาร์ตโฟนได้ด้วยค่ะ แต่ส่วนนี้ไม่มีข้อมูลว่าจ่ายไฟได้เท่าไร ใครรู้คอมเมนต์มาบอกกันหน่อยนะคะ

ในแอปพลิเคชัน Dyson Link จะมีโหมดพื้นฐานให้เลือก เช่น โหมดผ่อนคลาย โหมดอ่านหนังสือ หรือถ้ายังไม่ถูกใจ สามารถปรับแต่งเองได้

ส่วนใครที่ปรับไม่ค่อยเก่ง หรือปรับแล้วไม่ได้แสงสว่างที่ถูกใจสักที ก็สามารถตั้งค่า อายุผู้ใช้งาน เพื่อให้โคมไฟปรับแสงสว่างและอุณหภูมิสีให้เข้ากับอายุของเราได้ค่ะ สุดยอดไปเลย

สำหรับใครที่อยู่บ้านทั้งวัน ไม่ค่อยได้เจอแสงธรรมชาติ สามารถตั้งค่า Time Zone ผ่านแอป เพื่อซิงก์ให้โคมไฟปรับแสงสว่างและอุณหภูมิสีตามเวลาท้องถิ่นได้ด้วย นาฬิกาชีวภาพในร่างกายเราก็จะไม่ผิดเพี้ยน

สำหรับโหมดที่ #beartai ขอแนะนำมี 2 โหมดด้วยกัน คือ โหมด Auto โดยโหมดนี้เหมาะสำหรับนักเรียน นักศึกษาที่จดจ่อกับการอ่านหนังสือ หรือผู้ที่ทำงานหน้าคอมพิวเตอร์นาน ๆ เนื่องจากโหมดนี้จะซิงก์แสงสว่างและอุณหภูมิสีเข้ากับสภาวะแสงของห้องที่เรานั่งอยู่ แล้วรักษาระดับความสว่างและอุณหภูมิสีให้คงที่ ไม่ว่าแสงภายในห้องจะเปลี่ยนไปยังไง เราก็จะได้แสงสว่างเท่าเดิม ทำให้ไม่ปวดตาค่ะ

โหมดที่ 2 คือ โหมด Precision ในโหมดนี้ จะให้เรามองเห็นแสงสีที่ชัดเจนเหมือนมองด้วยแสงธรรมชาติ หมดปัญหาสีเพี้ยน เหมาะสำหรับคนที่ทำงานศิลปะ งาน DIY หรือสาว ๆ ที่ต้องการแสงเวลาแต่งหน้า

Dyson Lightcycle นอกจากจะช่วยให้แสงสว่างแล้ว ยังสามารถเฝ้าบ้านให้เราได้อีกด้วยค่ะ เวลาที่เราไม่อยู่บ้าน เราสามารถเปิดโหมด Away ซึ่งในโหมดนี้โคมไฟจะคำนวณการเปิด-ปิดหลอดไฟ เพื่อจำลองพฤติกรรมของมนุษย์ ทำให้เหมือนกับว่ามีคนอยู่ในบ้าน และกำลังเปิดไฟอยู่นั่นเอง สุดยอดไปเลย

Dyson Lightcycle ให้แสงสว่างโดยหลอดไฟ LED กำลังสูงทั้งหมด 6 หลอด แบ่งเป็นโทนอุ่น 3 หลอด และโทนเย็น 3 หลอด สามารถปรับความสว่างได้ตั้งแต่ 100 – 1,000 ลักซ์ และปรับอุณหภูมิของสีได้ตั้งแต่ 2,700 – 6,500 เคลวิน

โดยหลอดไฟ LED ของ Dyson Lightcycle แม้จะสว่างมากถึง 1,000 ลักซ์ แต่ก็ระบบป้องกันแสงสว่างจ้า และมีอัตราการกะพริบที่ต่ำมาก ทำให้ใช้ได้นาน ๆ โดยไม่เมื่อยล้าสายตา เหมาะกับการทำงานหน้าคอมนาน ๆ หรืออ่านหนังสือเรียนสุด ๆ

นอกจากนี้ Dyson Lightcycle ยังได้นำเทคโนโลยี Heat Pipe มาใช้ในโคมไฟ เพื่อช่วยจัดการกับความร้อนที่เกิดขึ้นจากหลอดไฟ LED กำลังสูงทั้ง 6 หลอด ทำให้โคมไฟนี้เย็นลง และช่วยยืดอายุการใช้งานของหลอดไฟไปได้นานถึง 60 ปี

เรามาดูข้อสังเกตกันบ้างดีกว่า

  • Dyson Lightcycle แม้จะปรับแต่งได้หลายอย่าง แต่ที่ปรับไม่ได้คือ องศาของหลอดไฟ โดยหลอดไฟจะคว่ำลงตลอดเวลา ใครอยากปรับหลอดไฟได้ เราแนะนำให้ดูรุ่น Dyson Lightcycle Morph ดีกว่า แต่ต้องบอกไว้ก่อนว่ารุ่นนี้ยังไม่เข้าเมืองไทยนะ
  • และนอกจากจะปรับองศาหลอดไฟไม่ได้แล้ว โคมไฟตัวนี้ยังเปลี่ยนหลอดไฟไม่ได้ด้วย ซึ่งจริง ๆ แล้ว เราไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนหลอดไฟก็ได้ เพราะหลอดไฟของ Dyson Lightcycle มีอายุการใช้งานยาวนานถึง 60 ปี แต่ในกรณีที่เราทำหลอดไฟแตก อาจจะต้องเปลี่ยนทั้งโคมไปเลยค่ะ
  • สำหรับดีไซน์ที่ Minimal สุด ๆ นั้น อาจจะถูกใจหลายคน แต่ก็อาจจะไม่เหมาะกับห้องที่มีพื้นที่จำกัดค่ะ เพราะการปรับแต่งตำแหน่งนั้น ตัวก้านต่าง ๆ ไม่มีการพับเก็บ แต่ยื่นออกมาแบบนี้ค่ะ แอบเกะกะอยู่เหมือนกันนะ
  • พอร์ต USB-C ที่ติดมากับโคมไฟค่ะ โดยพอร์ตนี้ไม่มีข้อมูลว่าจ่ายไฟได้เท่าไร แต่ที่แน่ ๆ คือไม่ใช่พอร์ตแบบ Fast Charge แน่นอนค่ะ

ราคา

Dyson Thailand ตั้งราคา Dyson Lightcycle Desk Light ไว้ที่ 18,900 บาท โดยวางจำหน่ายในประเทศไทยเพียง 1 สีเท่านั้นคือ สี White/Silver ค่ะ

ในส่วนของราคา เรียกว่าราคาสูงนำหน้าโคมไฟอื่น ๆ ในตลาดไปเยอะเลย แต่เราคิดว่าเขากล้าตั้งราคามาขนาดนี้ ส่วนหนึ่งมาจากเหตุผลที่เขากล้าเคลมว่าหลอดไฟของ Dyson Lightcycle มีอายุการใช้งานยาวนานถึง 60 ปี เรียกว่าใช้กันไปชั่วลูกชั่วหลานเลยทีเดียวค่ะ ถือว่าเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าค่ะ ส่วนใครทำแตกก่อนหมดอายุการใช้งาน ก็อาจจะไม่ค่อยคุ้มเท่าไรนะคะ

ใครที่อยากสัมผัส Dyson Lightcycle สามารถไปดูและจับจองได้ที่โชว์รูมของ Dyson Thailand ทั้ง 3 สาขา คือ ไอคอนสยาม, สยามพารากอน และเซ็นทรัลลาดพร้าว หรือเว็บไซต์ www.dyson.co.th ค่ะ

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส