ปัจจุบันทุกองค์กรต่างมี “ข้อมูลสำคัญ” ของตัวเองอยู่ ซึ่งข้อมูลเหล่านี้ก็มีทั้งข้อมูลของบริษัท และข้อมูลต่าง ๆ ของลูกค้าซึ่งทั้งคู่ถือว่าเป็นความลับที่สำคัญมาก จึงต้องมีระบบรักษาข้อมูลที่มีประสิทธิภาพ แต่ปัญหาก็คือ แม้เราจะป้องกันเอาไว้ดีแค่ไหน Ransomware ก็ถือว่าเป็นภัยคุกคามที่ทวีความน่ากลัวขึ้นทุกวันครับ อย่างเคสล่าสุดที่ทาง Garmin บริษัทผู้ผลิต Smartwatch ชื่อดังได้ประสบปัญหา ถูกโจมตี Server ของบริษัท ทำให้เขาจำเป็นที่จะต้องสูญเงินกว่า 10 ล้านเหรียญสหรัฐเพื่อไถ่ข้อมูลกลับมา ถือว่าเป็นหนึ่งใน Case Study ที่สำคัญมาก
เราจะทำยังไงถ้าเกิดเราโดนโจมตีโดย Ransomware ?
วันนี้ผมมีตัวช่วยที่จะสามารถปกป้องข้อมูลของบริษัทคุณไม่ให้สูญหายจาก การโดน Ransomware โจมตีได้ ด้วย Veritas NetBackup ทุกบริษัทก็คงจะทราบถึงความสำคัญของการ Backup ข้อมูลต่าง ๆ ของบริษัทกันดีอยู่แล้วใช่ไหมครับ ไม่ว่าจะเป็นการ Backup ลงใน Server อีกชุดหนึ่งของบริษัท โดยให้ทาง System Engineer ของบริษัทคอยตั้งค่าควบคุมในการบันทึกข้อมูลอย่างเป็นระบบ
ฟังดูก็น่าจะปลอดภัยพอแล้วใช่ไหมครับ แล้วถ้าเกิด Hacker เขาเล็งโจมตี Backup Server ก่อนล่ะ? ก็งานเข้าสิครับ ข้อมูลที่ควรจะสำรองเอาไว้เพื่อใช้งาน กลายเป็นว่าไม่สามารถเรียกกลับมาใช้งานได้อย่างที่ควรจะเป็น
ซึ่งระบบ NetBackup นั้นจะมาพร้อมความสามารถในการต่อกรกับ Ransomware โดยจะทำการ Hardening หรือป้องกันข้อมูลที่สำรองอยู่ไม่ให้ถูกเขียนทับ จึงป้องกันไม่ให้ Ransomware สามารถเข้ามาโจมตีข้อมูลสำรองตรงนี้ได้
NetBackup
NetBackup นี้นอกจากความสามารถในการปกป้องข้อมูลแล้ว เขายังออกแบบ WebUI Interface ให้สามารถใช้งานได้ง่าย ไม่ยุ่งยาก สามารถควบคุม Server ทั้ง Cloud Server และ Private Server ได้ในหน้าเดียว แถมยังมาพร้อมฟังก์ชัน MSDP Cloud (Deduplication บน Cloud) ที่ทำให้ประหยัดเนื้อที่การสำรองข้อมูลและเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานบนคลาวด์ได้เป็นอย่างดีอีกด้วย
โดยปัจจุบัน NetBackup ได้ถูกอัปเดตมาเป็นรุ่น 8.3 แล้ว บอกได้ว่ารุ่นนี้ได้มีการออกแบบระบบมาให้เราสามารถควบคุมดูแลได้ง่ายมากครับ ซึ่งเขาจะรวบรวมข้อมูลทุกอย่างเอาไว้ที่นี่ ทำให้เราเห็นหมดว่า ปัจจุบันระบบมีเนื้อที่อยู่เท่าไหร่ มีการ Backup ข้อมูลล่าสุดวันไหน และมีเหตการณ์อะไรผิดปกติเกิดขึ้นที่ไหนบ้าง เราก็จะรู้ได้ทันที
ซึ่งระบบ NetBackup นี้ยังถูกออกแบบให้สามารถเชื่อมต่อ Infrastructure ได้ทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น Private Server, Private Cloud Server หรือว่าจะเป็น Public Cloud Server ก็ทำงานร่วมกันได้ทั้งหมดในที่เดียว
แถมเขายังมี API เสริมมากกว่า 400 ตัวที่ถูกออกแบบมาให้คุณ สามามารถนำไป Develops เพื่อใช้งานเพิ่มเติมได้ด้วยตัวเอง ทำให้ไม่ว่าคุณจะมี Infrastructure แบบใด Server จะใช้ระบบ Database แบบไหน หรือใช้ Cloud Service Provider เจ้าใดก็มี API ให้คุณเลือกใช้อย่างแน่นอน
นอกจากนี้ NetBackup ยังถูกออกแบบมาให้รองรับระบบ Workload ปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็น Microsoft SQL, Oracle Real Application Clusters (RAC) และ Application ต่าง ๆ รวมไปถึงระบบ Workload ใหม่ ๆ Big Data, Docker ที่จะมีขึ้นในอนาคตได้อย่างแน่นอน ทำให้การ Backup หรือ Restore ข้อมูลทำได้อย่าง Seamless และรวดเร็วยิ่งขึ้นครับ
โดยที่ระบบได้ถูกออกแบบมาโดยยึดหลัก A P I ที่ย่อมาจาก
- Availability ระบบที่ใช้จะต้องสามารถรองรับการทำงานได้ตลอดเวลา 24/7 ถ้าระบบล่ม ก็จะต้องสามารถกู้กลับมาทำงานได้ในทันที
- Protection ระบบการปกป้องข้อมูลได้อย่างสมบูรณ์ และรองรับการขยายข้อมูลได้โดยไม่ติดขัด
- Insights สามารถเข้าถึงข้อมูลต่าง ๆ เพื่อรับรู้ถึกสถานการณ์ปัจจุบันของ Server ได้อย่างรวดเร็ว
ซึ่ง Veritas NetBackup เป็นบริษัทที่ได้รับการยอมรับจากบริษัทยักษ์ใหญ่ชั้นนำทั่วโลกมาแล้วกว่า 30 ปี และยังเป็นผู้นำในด้านการปกป้องข้อมูลมาแล้วกว่า 15 ปี มีบริษัทยักษ์ใหญ่มากกว่า 30,000 รายที่ยอมรับและใช้งานอยู่จนถึงปัจจุบัน
สรุปง่าย ๆ ว่า ถ้าคุณเป็นบริษัทที่มีข้อมูลสำคัญที่ต้องมีการอัปเดต เคลื่อนไหวตลอดเวลา มีการเชื่อมต่อหลากหลายที่ และต้องการ สำรองข้อมูลได้อย่างปลอดภัยแบบ 100% เต็ม NetBackup ตัวนี้ก็น่าจะตอบโจทย์คุณได้อย่างแน่นอนครับ แต่อย่างไรก็ตาม NetBackup ไม่ได้ถูกออกแบบมาให้ปกป้องการโจมตี Server โดยตรงครับ เรายังคงต้องใช้ระบบ Cybersecurity Solution ต่าง ๆ อยู่ดีครับ
รีวิวที่ดีต้องมี “ราคา”
Veritas NetBackup วางราคาระบบป้องกันข้อมูลเอาไว้เริ่มต้นที่ 899,000 บาท! โดยราคานี้มาพร้อมกับ NetBackup License ขนาด 3TB พร้อม Veritas Flex5150 ตัวที่อยู่หน้าผมนี้ ซึ่งบรรจุฮาร์ดดิสเอาไว้ถึง 15 TB สำหรับ Backup ข้อมูลของคุณ โดยไม่คิดค่าติดตั้งเพิ่มเติมครับ
ถ้าใครสนใจก็สามารถติดต่อได้ที่เว็บไซต์ https://www.veritasth.com/ เพราะ beartai คือสื่อเพื่อการกระ
ตุ้นเศรษกิจ!