ข่าวรอบโลก

เรามาเริ่มที่ข่าวอัปเดตอาการของผู้นำประเทศสหรัฐอเมริกาที่ถูกพบว่าติดเชื้อ COVID-19 กันค่ะ ซึ่งในขณะนี้ประธานานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ได้เดินทางออกจากศูนย์การแพทย์ทหารแห่งชาติ วอลเตอร์ รีด ภายหลังจากที่ได้พักรักษาตัวเป็นระยะเวลา 3 คืน

ทั้งนี้ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ได้เดินออกจากประตูหน้าของโรงพยาบาลในเวลา 18.38 น. ของวันจันทร์ที่ 5 ตุลาคม 2020 ตามเวลาท้องถิ่น ซึ่งตรงกับประเทศไทยเวลา 05.38 น. เช้าวันอังคารที่ 6 ตุลาคมนี้เอง

ทันทีที่กลับมาถึงทำเนียบขาว ประธานาธิบดี โดนนัลด์ ทรัมป์ ก็ได้ปรากฏตัวที่ระเบียงพร้อมกับถอดหน้ากากอนามัยออกมาเก็บใส่กระเป๋าเสื้อ และซูนิ้วโป้งขึ้น 2 นิ้ว เพื่อแสดงตัวเขายังคงสบายดี

ก่อนหน้านี้ไม่นานได้มีรายงานว่าประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ต้องการออกจากโรงพยายาลให้เร็วที่สุดค่ะ เพราะไม่ต้องการให้ภาพลักษณ์ออกมาดูอ่อนแอเลยล่ะค่ะ

สนามบินชางกี (Changi Airport) ของประเทศสิงคโปร์ ซี่งได้รับการโหวตให้เห็นสนามบินที่ดีที่สุดในโลก 8 ปีติดต่อกันได้ออกมาเตือนเกี่ยวกับช่วงเวลาอันยากลำบากที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคต เพราะสถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 นั้น ยังคงทวีความรุนแรงอย่างต่อเนื่องค่ะ

ในตอนนี้นะคะ สนามบินชางกีได้สั่งระงับการให้บริการอาคารผู้โดยสารไปถึง 2 แห่งด้วยกัน เนื่องจากเที่ยวบินต่าง ๆ ได้ลดลงต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ นอกจากนี้ยังได้ระงับการก่อสร้างอาคารผู้โดยสารแห่งที่ 5 ไปอีกอย่างน้อย 2 ปีด้วยค่ะ

ทาง Changi Airport Group ได้กล่าวในรายงานผลประกอบการประจำปีว่า การต่อสู้กับ COVID-19 เพิ่งจะเริ่มต้นขึ้นเท่านั้น อนาคตของเรายังคงมืดมนด้วยสถานการณ์ที่ยังไม่มีสัญญาณว่าจะทุเลาลง

แม้ว่าในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมานี้จะมีการแพร่ระบาดของเชื้่อไวรัส COVID-19 เกิดขึ้นทั่วโลก และส่งผลกระทบต่อธุรกิจหลายภาคส่วน แต่ในขณะเดียวกันก็ได้เกิดการซื้อและควบรวมกิจการกันสูงเป็นประวัติการณ์เลยก็ว่าได้

บริษัทเทคโนโลยีการเงิน Refinitiv ได้รายงานข้อมูลว่า ในไตรมาสที่ 3 ระหว่างเดือนกรกฎาคมและกันยายน 2020 ที่ผ่านมานั้น ได้มีดีล การซื้อและควบรวมกิจการที่มีมูลค่า 5,000 ล้านเหรียญ เกิดขึ้นถึง 37 ดีลด้วยกัน คิดเป็นมูลค่าทั้งสิ้น 496,000 ล้านเหรียญ ซึ่งถือได้ว่าเป็นไตรมาสที่ 3 ที่ดีที่สุดนับตั้งแต่ยุค 1970 เป็นต้นมา และเมื่อรวมกับดีลเล็ก ๆ ที่เกิดขึ้นท้ั้งหมด ก็คิดเป็นมูลค่าสูงกว่า 1 ล้านล้านเหรียญเลยทีเดียวค่ะ

โดยในเดือนกันยายนที่ผ่านมานั้น มีดีลเกิดขึ้นมากที่สุด ซึ่งเมื่อเทียบกับเดือนกันยายน 2019 แล้วนั้น จะเห็นได้ว่ามีดีลสูงขึ้นถึง 107% เลย Guillermo Baygual (กิลเลอโม เบย์กอล) หัวหน้าฝ่ายการควบรวมและซื้อกิจการของ JP Morgan Chase ประจำยุโรป ตะวันออกกลาง และแอฟริกา ได้กล่าวว่า ภายหลังจากผ่านพื้นช่วงล็อกดาวน์เมื่อซัมเมอร์ที่ผ่านมานั้น บริษัทต่าง ๆ ก็เริ่มมั่นใจในถานะของตน และเล็งเห็นโอกาสในการดำเนินธุรกิจที่จะสร้างความมั่นคงได้มากขึ้น จึงทำให้บริษัทเหล่านั้นเริ่มกลยุทธ์ทางการตลาดต่าง ๆ เพื่อสร้างจุดยืนที่แข็งแกร่งในวงจรเศรษฐกิจรูปแบบใหม่ที่กำลังจะเกิดขึ้นต่อไปค่ะ

เรายังคงอยู่กับสถานการณ์ COVID-19 นะคะ ซึ่งยังคงแพร่ระบาดอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะแถบยุโรป ซึ่งหนึ่งในนั้นคือประเทศฝรั่งเศสที่ได้ยกระดับการแจ้งเตือน COVID-19 ขึ้นสูงสุด เนื่องจากมีอัตราการติดเขื้อพุ่งสูงขึ้นกว่า 250 คน ต่อประชากร 100,000 คน โดยเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ทางฝรั่งเศสได้รายงานว่ามีผู้ติดเชื้อ COVID-19 มากถึง 12,565 ราย ซึ่งผู้มีผู้แพร่เชื้อจำนวน 203 คน ในแถบกรุงปารีสด้วย

นั่นส่งผลทำให้กรุงปารีส จะสั่งปิดบาร์ท้้งหมดโดยเด็ดขาดในวันอังคารนี้ ซึ่งตรงกับวันพุธที่ 7 กันยายน ของประเทศไทย เนื่องจากมีอัตราการติดเชื้อเพิ่มสูงขึ้น

นอกจากนี้ ท้้งสระว่ายน้ำ และยิมต่าง ๆ ก็จะถูกปิดเป็นระยะเวลา 2 สัปดาห์ เพื่อลดการแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 แต่ร้านอาหารจะยังคงเปิดได้อยู่ ซึ่งต้องมีมาตรฐานด้านสุขอนามัยที่เข้มงวดด้วยค่ะ

อีกหนึ่งประเทศที่ประประสบปัญหาเศรษฐกิจมาก ๆ ในช่วงการแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 นี้นะคะ ก็คือญี่ปุ่น ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้กล่าวถึงแนวทางการพลิกวิกฤติให้เป็นโอกาสค่ะ

นายโยชิฮิเดะ ซูงะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ได้ประกาศว่าจะพิจารณาลดอัตราดอกเบี้ย เพื่อดึงดูดนักธุรกิจและนักลงทุนจากต่างประเทศให้มาที่กรุงโตเกียวมากยิ่งขึ้น เพื่อเปลี่ยนให้เมืองหลวงแห่งนี้กลายเป็นศูนย์กลางทางการเงินระดับโลก

นอกจากนี้ นายโยชิฮิเดะ ซูงะ ยังได้ให้คำมั่นว่าจะส่งเสริมการปฏิรูปการบริหารการจัดการบริษัทที่มีประสิทธิภาพ เพื่อให้ผู้หญิงและชาวต่างชาติได้ทำงานในตำแหน่งบริหารระดับสูงได้มากขึ้น ซึ่งจะเป็นหนทางพลิกฟื้นวิกฤติทางเศรษฐกิจที่ญี่ปุ่นได้เผชิญในช่วงวิกฤติ COVID-19

ทั้งนี้ หน่วยงานให้บริการด้านการเงินของญี่ปุ่น และตลาดหลักทรัพย์ของกรุงโตเกียว จะเริ่มหารือกันภายในปีงบประมาณ 2020 นี้ เพื่อให้มีการแก้ไขกฏหมายการกำกับดูแลกิจการในปี 2021

ได้มีการพบซากสิ่งมีชีวิติทางทะเลจำนวนมากถูกซัดขึ้นมาบนชายหาดของดินแดนคัมชัตคา (Kamchatka) ซึ่งอยู่บนมหาสมุทรแปซิฟิก ทางตะวันออกไกลสุดของรัสเซีย ทั้งนี้ได้มีการโพสต์ภาพและวิดีโอจำนวนมากลงบนสื่อโซเชียล ซึ่งเผยให้เห็นภาพของปลาหมึกยักษ์ แมวน้ำ และสัตว์ทะเลอื่นจำนวนมากที่เสียชีวิต รวมถึงภาพของมหาสุทรกำลังเปลี่ยนสีเป็นวงกว้างอีกด้วย

นอกจากนี้ ผู้คนที่อาศัยอยู่แถบชายหาดทะเลแปซิฟิกยังได้ออกมาร้องเรียนว่า พวกเขามีอาการคลื่นไส้ อาเจียน เป็นไข้ และมีผื่นคัน ซึ่งจากการตรวจสอบวิเคราะห์ในเบื้องต้นนั้น ได้พบมีผลิตภัณฑ์น้ำมันและฟีนอลอยู่ในน้ำทะเล

เรามาดูด้านดีการค้นพบทางการแพทย์ที่ส่งผลต่อการรักษาโรคในอนาคตกันบ้างค่ะ โดยรางวัลโนเบลสาขาการแพทย์หรือสรีรวิทยา ประจำปี 2020 นี้ ได้มอบให้แก่ Michael Houghton (ไมเคิล ฮอฟตัน) นักวิทยาศาสตร์ชาวอังกฤษ, Harvey Alter (ฮาร์วีย์ อัลเทอร์) และ Charles Rice (ชาร์ลส์ ไรซ์) นักวิจัยชาวอเมริกัน ผู้ซึ่งค้นพบไวรัสตับอักเสบ ซี

ไวรัสตับอักเสบ ซีนี้ เป็นสาเหตุของมะเร็งตับ ซึ่งทำให้ผู้คนมากมายต้องทำการปลูกถ่ายตับ โดยในปัจจุบันมีผู้ที่ติดไวรัสตับอักเสบ ซี กว่า 70 ล้านคน และได้คร่าชีวิตผู้คนไปราว 400,000 คนต่อปีเลยทีเดียวค่ะ

คณะกรรมการรางวัลโนเบลได้กล่าวนะคะว่า นี่เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่โรคดังกล่าวนั้นได้รับการรักษา และยิ่งเพิ่มโอกาสที่เราจะกำจัดไวรัสตับอักเสบ ซี ให้หมดไปจากโลกได้อีกด้วยค่ะ

ข่าวไอที

ข่าวดีสำหรับคนที่ยังคง Work From Home หรือต้องใช้โปรแกรมประชุมออน ไลน์อย่าง Google Meet ในการทำงาน เพราะเขาขยายเวลาการคิดค่าบริการออกไปเป็น มีนาคมปีหน้าเลยค่ะ

โดยการขยายบริการนี้คือ บริการแบบไม่จำกัดเวลาการประชุมซึ่งปกติเราจะต้องเสียค่าบริการแบบรายเดือน ซึ่งจากเดิม Google ตั้งใจหยุดให้บริการฟรีในวันที่ 30 กันยายนที่ผ่านมา แต่เขาก็ได้ประกาศขยายเวลาออกไปเป็น 31 มีนาคมปีหน้าแทน เพื่อช่วยเหลือกลุ่มผู้ทำงานที่ยังคงประสบปัญหา COVID-19 ณ เวลานี้นั่นเองค่ะ

เรียกว่าทาง Google ก็ใจดีเหมือนกันนะคะเนี่ย แต่ถ้าเรามาฟังข่าวนี้เราอาจจะเปลี่ยนความคิดจากข่าวเมื่อซักครู่ไปเลย เพราะปีหน้า Google จะบังคับทุกแอปคิดเงินผ่าน Play Store เพื่อหักรายได้ 30% ค่ะ

ซึ่งทาง Google ได้ระบุว่าปัจจุบันแอปต่าง ๆ ใน Play Store ตอนนี้มีเพียง 3% เท่านั้น ที่ยังไม่ได้ใช้ระบบชำระเงินของ Play Store ซึ่งถือว่าขัดกับนโยบายที่กำหนดไว้ ดังนั้น Google จึงได้ให้เวลาแอปต่าง ๆ เหล่านั้นเปลี่ยนมาใช้ระบบชำระเงินของ Google ภายในวันที่ 30 กันยายนปีหน้า ยกตัวอย่างก็มี Netflix และ Spotify ที่มีระบบเรียกชำระเงินจากผู้ใช้โดยตรง เป็นต้น ก็ถือว่าเป็นการกึ่งบังคับผู้พัฒนาแบบกลาย ๆ ว่า “ถ้าใครไม่อยากจ่ายก็ เชิญสโตร์อื่นค่ะ!”

เพราะว่าระบบ Android ไม่ได้จำกัดว่าเราต้องโหลดแอปผ่าน Google Play Store เท่านั้นนะคะ แต่เราสามารถเลือกโหลดผ่านช่องทางอื่น ๆ ได้เยอะเลยค่ะ ก็ไม่รู้ว่าทำแบบนี้จะเป็นผลดีกับ Google ในระยะยาวหรือไม่ ต้องติดตามกันต่อไป

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส