ก่อนหน้านี้ #beartai ได้รีวิว Vivo V20 Pro 5G รุ่นใหญ่ ไปแล้วคราวนี้ เอิร์นขอรีวิวรุ่นเล็กอย่าง Vivo V20 กันบ้าง เห็นฝาหลังวิบวับแบบนี้ น่าสนใจใช่ไหมล่ะ สีที่เราได้มารีวิวนี้คือ สีน้ำเงิน Sunset Melody ที่เมื่อสะท้อนกับแสง ก็จะไล่เฉดเหมือนชายหาดตอนพระอาทิตย์ตก เอิร์นชอบมากเลยค่ะ ส่วนอีกสีที่ไล่เฉดสวยไม่แพ้กันก็คือสีดำ Midnight Jazz สำหรับวัสดุของฝาหลังก็เป็น AG Matte Glass หรือกระจกพ่นทรายให้ผิวสัมผัสลื่นมือ ดูหรูหรา และลดการติดของรอยนิ้วมือด้วยนะ!
ดีไซน์
ด้านดีไซน์ตัวกล้องนั้นเป็นแบบ 2 ชั้นซ้อนกันบาง ๆ คือมีแฟลชตรงนี้ยกขึ้นมาเป็นชั้นที่ 1 แล้วกล้อง 3 ตัวก็ยกซ้อนขึ้นไปเป็นชั้นที่ 2 รวมแล้วกล้องไม่ได้ปูดจากฝาหลังมากมาย ใส่เคสแล้วป้องกันตัวเลนส์ได้หายห่วง
อีกจุดที่เอิร์นชอบก็คือความบางของ Vivo V20 ค่ะ รุ่นนี้หนาแค่ 7.48 มม. เท่านั้นเอง และหนักเพียง 172 กรัม จับถือสบายมือมากค่ะ
พอร์ตชาร์จของ Vivo V20 เป็น USB-C ที่รองรับการชาร์จเร็ว 33W ใช้เวลา 30 นาทีในการชาร์จ 0-65% โดยแบตเตอรี่มีความจุอยู่ที่ 4,000 mAh ที่เพียงพอต่อการใช้งานทั้งวัน นอกจากนี้ยังมีพอร์ตหูฟัง 3.5 มม. พร้อมหูฟังให้พร้อมใช้ทันที ส่วนลำโพง เราเปิดฟังเพลงผ่าน Spotify แล้วให้เสียงดังและแน่นใช้ได้เลยนะคะ เพียงแต่ว่าไม่ใช่ลำโพงสตอริโอค่ะ เสียงออกลำโพงด้านล่างนี้อย่างเดียว
พลิกกลับมาดูที่หน้าจอกันบ้าง Vivo V20 ใช้หน้าจอ ขนาด 6.44 นิ้ว เป็นจอ AMOLED ความละเอียด Full HD+ ที่รองรับการเล่นแบบ HDR บน YouTube แต่บน Netflix ยังไม่รองรับนะคะ
นอกจากนี้บนหน้าจอยังมีเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือที่ทำงานได้รวดเร็วเลย ส่วนรอยบากด้านบนเป็นตำแหน่งของกล้องหน้าที่ถ่ายรูปได้สวยแซ่บมาก!
กล้องหน้า
กล้องตัวนี้มีความละเอียดอยู่ที่ 44 ล้านพิกเซล รูรับแสง F2.0 ซึ่งมาพร้อม Eye Auto-Focus คือโฟกัสดวงตาระหว่างการถ่ายได้ทั้งตาซ้ายและตาขวาไกลสุด 15 ซม. บนโหมดถ่ายภาพนิ่งรวมถึงการถ่ายแบบวิดีโอ ข้อดีของการที่มีฟีเจอร์ Eye Auto-Focus ก็คือช่วยให้ทุกการถ่ายภาพของเราเห็นดวงตาที่เป็นหน้าต่างของดวงใจชัด ทำให้ภาพสื่ออารมณ์ได้ดีเลยค่ะ
คุณภาพที่ได้ก็ถูกใจสาย Selfie มาก ๆ สีผิวถ่ายทอดออกมาดูดีตามสุขภาพคนถูกถ่าย และสามารถปรับแต่งรายละเอียดได้หลากหลาย เช่น โหมด Portrait light effect สำหรับปรับแสงใน Selfie เหมือนถ่ายในสตูดิโอ หรือจะถ่ายให้ฉากหลังเป็นขาว-ดำ แต่หน้าคนยังเป็นสีอยู่ก็ได้
หรือถ้าสลับไปถ่ายด้วยโหมด Portrait ก็จะได้ความสามารถเพิ่มขึ้นมาค่ะ อย่าง Bokeh การถ่ายละลายฉากหลังที่เลือกรูปแบบได้
นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์ Face Beauty ที่แต่งหน้าให้สวยได้ทันทีไม่ง้อ Make UP และยังมีฟีเจอร์ Slim ที่ช่วยทำให้หุ่นเพรียวบางได้ขณะถ่ายด้วยกล้องหน้า แถมด้วยฟีเจอร์ Style ที่ช่วยแต่งภาพสวย ๆ ให้ถ่ายภาพออกมาเหมือนอยู่ในยุค 80s หรือถ่ายเหมือนภาพชิก ๆ จากญี่ปุ่น และอีกฟีเจอร์ที่เอิร์นชอบมากก็คือ Posture ที่ช่วยไกด์ท่าถ่ายรูปคูล ๆ สำหรับคนคิดท่าไม่ออก
การถ่าย Selfie ยามค่ำคืนก็ทำได้สวยงามเพราะว่ามีโหมด Selfie Softlight Band ที่เปิดแฟลชหน้าจอเพื่อช่วยให้ใบหน้าสว่าง และมี AI ช่วยลบนอยซ์บนภาพถ่าย
สำหรับการเซลฟีแบบ Video ก็มีความละเอียดถึง 4K 30 fps และยังสามารถถ่ายรูปพร้อมกับอัดวิดีโอได้ด้วย โดยคุณภาพที่ได้ก็คมชัด สีผิวก็สวยใสตามสไตล์ Vivo
ส่วนใครที่เป็นสาย Vlog เดินถ่ายเรื่อย ๆ ก็ไม่ต้องกลัวภาพสั่น เพราะว่ามีโหมดลดการสั่นไหว Steadiface เข้ามาช่วยเสริมได้อีก เพียงแต่โหมดนี้จะมีการครอปภาพทำให้มุมมองภาพแคบลงไปอีกค่ะ
นอกจากนี้ยังมีโหมด Dual-View ที่เป็นการถ่ายวิดีโอพร้อมกันทั้งกล้องหน้าและกล้องหลังทำให้เห็นเหตุการพร้อม ๆ กัน ไม่ต้องไปตัดต่อทีหลัง
ด้านโหมด Art portrait ก็สามารถทำเอฟเฟกต์ฉากหลังได้ จะตัดสีฉากหลังออกทำให้ตัวเราเด่นขึ้นมา หรือจำละลายฉากหลังขณะถ่ายวิดีโอก็นะคะ แต่การเปิดทั้งสองโหมดจะรองรับคุณภาพความละเอียดที่ 1080p เท่านั้นค่ะ
นอกจากนี้กล้องหน้าตัวนี้ยังถ่าย Slo-mo Selfie ได้ด้วยเฟรมเรตสูงสุด 240 fps หรือภาพช้าลง 8 เท่า ที่ความละเอียด 720p และช้าลง 4 เท่าที่เฟรมเรต 120 fps ที่ความละเอียด 1080p ค่ะ ก็ได้วิดีโอออกมาเก๋ ๆ แบบนี้เลย เอาไปอัปลง IG หรือ Tiktok ก็ดูดีไปอีกแบบค่ะ
กล้องหลัง
มาถึงกล้องหลังกันบ้างค่ะ ประกอบไปด้วยเลนส์ 3 ตัว เลนส์หลักคือเลนส์ตัวใหญ่ตัวบนนี้ ความละเอียดอยู่ที่ 64 ล้านพิกเซล รูรับแสง F1.89 ส่วนกล้องตัวถัดมาคือกล้องมุมกว้างพิเศษ Super Ultra Wide Angle ที่เป็นถ่ายมาโครได้ ความละเอียดอยู่ที่ 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง F2.2 และกล้องตัวสุดท้ายเป็นกล้องขาวดำความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง F2.4 เอาไว้สนับสนุนการถ่ายภาพค่ะ
ภาพที่ได้จากกล้องหลักของ Vivo V20 นั้นให้สีสันสดใส ให้ภาพออกมาดีมากในทุกสภาพแสง ส่วนการถ่ายในที่แสงน้อยก็ยังเก็บรายละเอียดภาพออกมาได้ชัดเจน และถ้าถ่ายในที่แสงน้อยมาก ๆ ก็สามารถใช้ Night Mode เพิ่มความสว่างของภาพได้อีก แถมเลือกสไลต์ได้ 4 โหมดคือ Black & Gold, Blue Ice, Green Orange สุดท้าย Cyberpunk ค่ะ
ส่วนกล้องมุมกว้างก็กว้างมาก! เก็บภาพวิวทิวทัศน์ได้สบาย ๆ และยังมีการแก้ไขภาพบิดเบี้ยว ทำให้ขอบภาพไม่ได้ดูโค้งป่อง แถมกล้องมุมกว้างยังถ่ายใกล้แบบมาโครได้ในระยะ 2.5 cm ซึ่งใกล้มาก ๆ แต่ถึงอย่างนั้นกล้องมุมกว้างนี้ก็แพ้แสงน้อยค่ะ ภาพจะไม่ค่อยชัดเท่าไร แต่ก็แก้ไขได้ด้วย Night Mode
โหมด Portrait ของ Vivo V20 ถือว่าถ่ายออกมาได้ดีเลยค่ะ ค่าพื้นฐานจะมีการแต่งหน้าให้สวยอยู่แล้ว แต่ถ้าไม่ชอบก็สามารถปรับเพิ่มเติมได้เลย ส่วนฉากหลังเบลอก็ตัดขอบได้เนียนสวยงามดีค่ะ
เรื่องการซูมก็ซูมได้ 2 เท่าจากความสามารถของกล้องหลัก 64 ล้านพิกเซล แต่ถ้าเลยจากนั้นถึง 10 เท่าก็จะเป็นการซูมดิจิทัล
การถ่ายวิดีโอ
พูดถึงเรื่องการถ่ายวิดีโอของกล้องหลังกันบ้าง กล้องตัวนี้ถ่ายวิดีโอได้สูงสุดอยู่ที่ 4K 30 fps แต่ถ้าถ่ายด้วยกล้องมุมกว้างพิเศษความละเอียดจะอยู่ที่ 1080p 50fps แต่ถ้าต้องการให้วิดีโอนิ่งกว่านี้ก็สามารถเปิดโหมด Ultra Stable ที่จะมีการครอปภาพมากขึ้น แต่วิดีโอก็จะนิ่งมากขึ้นอีกค่ะ นอกจากนี้เราสามารถเปิดโหมด Motion Autofocus แล้วแตะ ๆ เพื่อให้กล้องโฟกัสแทร็กตามวัตถุได้เลย เหมาะมากสำหรับการถ่ายวิดีโอสัตว์เลี้ยงหรือเด็ก ๆ ที่เคลื่อนไหวเร็ว ๆ ค่ะ ทำให้โฟกัสจดจ่อได้นิ่งขึ้น และยังมีโหมด Art Portrait Video ที่สามารถถ่ายวิดีโอหน้าชัดหลังเบลอ หรือวิดีโอฉากหลังขาว-ดำได้เลย
แต่สำหรับใครที่มาดูภาพถ่ายทีหลังแล้วยังไม่พอใจก็สามารถปรับแต่งได้ มีเครื่องมือที่หลากหลาย แถมยังมี AI Image Matting ช่วยแยกคนออกจากฉากหลังแล้วเอามาใส่ลูกเล่นเพิ่มได้ แถมยังมี คำสั่ง HD Restoration เพื่อปรับปรุงภาพเก่าให้ชัดขึ้นได้ในตัว โดยไม่ต้องโหลดแอปเพิ่ม
ประสิทธิภาพเครื่อง
ด้านประสิทธิภาพถือว่าดีเลยค่ะ ใช้ชิปเซ็ต Snapdragon 720G พร้อมแรม 8 GB และหน่วยความจำภายใน 128 GB จากผลทดสอบด้วยโปรแกรม Geekbench 5 ก็ได้คะแนน Multicore อยู่ที่ 1695 คะแนน ส่วน 3Dmark ชุด Slingshot Extreme ได้ไป 2566 คะแนน ด้านการเล่นเกมก็ลื่นไหลเลยค่ะ Genshin Impact ปรับคุณภาพสูง แบบ 60 fps ลื่น ๆ และ ROV ก็ยังคงได้ 60 fps ตลอดเกมค่ะ
ข้อสังเกต
Vivo V20 มีอยู่หนึ่งเรื่องคือฟีเจอร์พิเศษต่าง ๆ ในการถ่ายวิดีโอ จะเปิดพร้อมกันไม่ได้ ต้องเปิดทีละโหมดเท่านั้นค่ะ เช่น ถ้าจะเปิดกันสั่นก็จะใช้ฟิลเตอร์ไม่ได้เป็นต้น
ส่วนใครที่สงสัยว่ารุ่นพี่อย่าง Vivo V20 Pro 5G ที่แบไต๋รีวิวไปก่อนหน้านี้ ต่างกันตรงไหนบ้าง คำตอบคือ มีกล้องหน้าที่ดีกว่า เป็นกล้องหน้าคู่ 44 ล้านพิกเซล กับกล้องมุมกว้าง 8MP ค่ะ ทำให้เซลฟีได้กว้างมากขึ้น ส่วนชิปเซ็ตก็ใช้ Snapdragon 765G ที่แรงกว่า แล้วก็รองรับ 5G ด้วยนะคะ
รีวิวที่ดีก็ต้องมีราคา
Vivo V20 กล้องหน้าสุดแซ่บรุ่นนี้เปิดตัวที่ราคา 11,999 บาท ใครเป็นสาย Selfie คุ้มแน่ แต่ถ้ายังไม่พอก็จัดรุ่น Vivo V20 Pro 5G ที่ราคามากว่า 3,000 บาท ชอบรุ่นไหนก็ไปเลือกดูที่หน้าร้านได้เลยนะคะ หรือกดลิงก์ที่แคปชันได้เลยค่ะ!
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส