แกะกล่อง

ในกล่องมีแต่สายไฟกับเครื่องนะครับ คุณต้องมีจอ, คีย์บอร์ด, เมาส์ และสาย HDMI อยู่แล้วนะ
ซึ่งเมาส์ใช้อะไรก็ได้ ใช้เมาส์สายก็ได้ ไม่ต้องใช้ Magic Mouse หรอก แพงและจับไม่ถนัด
แต่คีย์บอร์ดแนะนำของ Apple อย่าง Magic Keyboard ราคา 3,290 บาทหรือคีย์บอร์ดที่ดีไซน์มาเพื่อแมค จะได้ไม่งงปุ่ม

สเปก

เครื่องนี้ก็คือรุ่นพื้นฐานราคาถูกที่สุดของ Mac Mini เลยคือแรม 8 GB พร้อม SSD 256 GB ราคา 22,900 บาท ซื้อโดยบัตรพี่หนุ่ยเหมือนเดิม

โชว์ตัวเครื่อง แล้วบอกว่าคือดีไซน์เดิมของ Mac Mini นั้นแหละ คิดว่า Mac Mini มันจะตัวเล็กกว่านี้ คือเราคุ้นเคยกับคอมเล็ก ๆ อย่าง Intel NUC พอเห็น Mac Mini มันไม่น่าเรียกว่า Mac Mini เลยนะ แต่มันควรเรียกว่าอะไร คิดไม่ออกเหมือนกัน

แล้วคือไปดูคลิปที่เค้าแกะในเครื่องออกมา ส่วนประกอบของรุ่นนี้มันน้อยมาก พื้นที่ในกล่องสี่เหลี่ยมนี้มีที่ว่างเพียบ ถือว่า Mac Mini รุ่นนี้เป็นรุ่นทดลองชิปใหม่ เดี๋ยวมีเวลา แอปเปิ้ลคงออกแบบเคสใส่ให้ตัวเล็กลงกว่านี้ เหมาะสมสำหรับชิป Apple Silicon ที่กินไฟน้อย ร้อนน้อยกว่าเดิม ก็ไม่ต้องใช้เคสใหญ่ ๆ ก็ได้
แต่ที่แน่ ๆ คือ Mac Mini ที่ใช้ Apple Silicon นี้คุณอัปเกรดอะไรไม่ได้แล้วนะครับ RAM กับ SSD ฝังลงมาในบอร์ดหมดแล้ว จะหาการ์ด M.2 มาเสียบก็ไม่ได้นะ เวลาสั่งก็ต้องสั่งเผื่ออนาคตมาเลย แต่เดี๋ยวผมโชว์ให้ดูว่า RAM 8 GB พื้นฐานนี้มันใช้งานพอไหม

พอร์ตการเชื่อมต่อ

ปุ่มเปิดก็อยู่หลังเครื่อง แล้วมีพอร์ต USB-A 3.1 Gen 2 ความเร็ว 10Gbps ที่อยู่หลังเครื่องนั้นน้อยไปหน่อยมี 2 พอร์ตเอง สมมุติเสียบเมาส์สายกับเสียบลำโพงแบบ USB พอร์ตก็หมดแล้ว ยังไม่ทันต่อ Webcam เลยพอร์ต USB น่าจะมีด้านหน้าบ้าง แต่ก็คงเป็นดีไซน์ที่ยากลำบากของแอปเปิ้ล ขนาด iMac เรายังต้องคล้ำ ๆ เวลาจะหาพอร์ตเลย แล้วก็มีช่องหูฟัง 3.5 mm มี HDMI 2.0 ให้ 1 พอร์ต และพอร์ต Thunderbolt 3 / USB 4 ให้ 2 พอร์ต แล้วก็พอร์ตแลนแบบ Gigabit ซึ่ง Mac Mini รุ่นชิป M1 นี้สามารถต่อจอได้ 2 จอ โดยต่อผ่าน HDMI ช่องหนึ่ง และช่อง Thunderbolt อีกช่อง พอร์ต HDMI 2.0 รองรับความละเอียดสูงสุด 4K 60 Hz
พอร์ต Thunderbolt รองรับความละเอียด 6K 60 Hz

นี่ทีมงานเราถึงจะแซะแอปเปิ้ลบ่อยแต่ก็งัดเอา Apple Wireless Keyboard รุ่นปี 2009 มาใช้คู่กับ Magic Trackpad รุ่นแรกด้วย ถือเป็นการใช้อุปกรณ์ที่ดูร่วมสมัยดีจัง

เปิดเครื่อง ก็ต้องบอกว่าเร็วดี แต่เปิดเครื่องแบบนี้จะไม่ได้เร็วปรู๊ดมากมาย ต้องดูความเร็วในการ Sleep แล้วปลุกเครื่องเข้ามาใหม่

ทดสอบประสิทธิภาพ

เทสต์ความเร็วของ SSD ในเครื่องหน่อยด้วย Blackmagic Disk Speed Test ได้ความเร็วอ่านประมาณ 2800 MB/s เขียนประมาณ 2200 MB/s ก็แรง แต่ไม่ใช่แรงสุด เพราะทุกวันนี้หาการ์ด m.2 แรงระดับ 3000 MB/s ได้ในราคาไม่กี่พัน อยากรู้อะไรอีก ผมลองเปิด Chrome ตัวล่าสุดที่รองรับ Apple Silicon เรียบร้อย แล้วเปิดหน้าเว็บหลาย ๆ หน้าสลับไปสลับมาให้ดูว่าลื่นไหม สรุป ลื่นครับ ลื่นกว่า Macbook อินเทลที่เคยใช้อย่างเห็นได้ชัด เริ่มชอบแล้วสิแบบนี้

แล้วโปรแกรมล่ะ ถ้าไม่ใช้โปรแกรมที่ทำมาเพื่อ Apple Silicon จะใช้ได้ไหม ลองเปิด Word ดูดีกว่า ก็ใช้งานได้ดีครับ เห็นเปิดโปรแกรมแบบนี้ น่าจะดูไม่ออกเลยว่าว่าโปรแกรมไหนมันทำมาเพื่อ Apple Silicon แล้วโปรแกรมไหนเป็นโปรแกรมแบบเดิมบ้าง ลองดูในโปรแกรม Activity Monitor ครับ จะเห็นชัดเจนเลยว่าโปรแกรมไหนยังเป็นรูปแบบเก่าอยู่บ้าง ซึ่งโปรแกรมแบบ Intel เดิม การเปิดครั้งแรกจะนานหน่อย เพราะ Rosetta 2 ต้องแปลงโปรแกรมทั้งหมดให้รองรับกับ Apple Silicon ก่อน แต่หลังจากนั้นก็เปิดได้รวดเร็วแล้ว ก็ถือว่า Apple ทำงานดีมากสำหรับ Rosetta 2