เชื่อว่าตอนนี้ถ้าจะหาซื้อหูฟังไร้สายที่แท้ทรู หรือหูฟังแบบ TWS หลายคนน่าจะมึนแน่ ๆ เพราะมีตัวเลือกเยอะมาก น่าจะมีเป็นร้อยรุ่นที่ขายกันอยู่ตอนนี้ วันนี้แบไต๋นำเสนอให้ดูกันอีกรุ่นคือ 1MORE ComfoBuds Pro หูฟัง True Wireless ตัวท็อปสุดของแบรนด์ 1MORE เลย ในราคาแค่ 3 พันนิด ๆ เท่านั้นเอง

1MORE เป็นแบรนด์จากจีนที่จริงจังเรื่องการพัฒนาหูฟังมานาน หูฟัง in-ear อย่าง 1More Triple Driver In-Ear ก็ได้รับการยอมรับในเรื่องคุณภาพเสียงที่ดีเกินราคา แถมยังได้ Jay Chou ศิลปินชื่อดังชาวไต้หวันมาเป็น CCO หรือ Chief Creative Officer เพื่อร่วมกันพัฒนาหูฟังให้ตรงใจศิลปินมากขึ้น

ดีไซน์

มาดู 1MORE ComfoBuds Pro กันชัด ๆ ก็มีให้เลือกซื้อ 2 สีคือสีดำไทเทเนียม และสีขาวไมก้า ซึ่งตัวเคสกับหูฟังก็จะมีสีเข้ากันทั้งหมด ก็เลือกได้ตามชอบเลย

ดีไซน์เคสของหูฟังรุ่นนี้ค่อนข้างเล็กกระทัดรัดเลย แทบจะกำหายไปในมือได้ พกพาง่าย น้ำหนักเบาแค่ 50 กรัม ถ้ากลัวเคสจะเป็นรอย ในกล่องก็มีซิลิโคนแถมเพื่อป้องกันเคสอีก เรียกว่าคิดมาจบจริง ๆ

ที่เคสเล็กได้แบบนี้เพราะดีไซน์การวางหูฟังในกล่องครับ ที่วางหู 2 ข้างให้ไขว้กัน ทำให้ประหยัดพื้นที่ ซึ่งการเปิดฝากล่องคือการเปิดหูฟังให้เชื่อมต่อกับอุปกรณ์ทันที แต่ถ้าต้องการเชื่อมกับอุปกรณ์ใหม่ ให้กดปุ่มเชื่อมต่อที่อยู่ด้านในเคสนี้ 3 ครั้ง ก็จะเข้าโหมด pairing เราก็เข้าหน้า Bluetooth ในมือถือเพื่อเชื่อมได้เลย แต่เราสามารถเชื่อมอุปกรณ์กับหูฟังได้ทีละตัวเท่านั้น ตัวนี้ไม่มีเทคโนโลยี Multipoint ที่รองรับการเชื่อมต่อ 2 อุปกรณ์พร้อมกัน

การหยิบหูฟังออกจากกล่องก็ทำได้ง่ายดีครับ เราหยิบที่ตัวหูฟังตรง ๆ แบบนี้ก็ได้ เค้าเจาะร่องไว้แล้ว หรือจะกดที่หางของหูฟังให้หัวกระดกขึ้นมา แล้วค่อยหยิบก็ง่ายดี คือหยิบใช้ง่ายทุกสถานการณ์แม้ว่ามือจะลื่นก็ไม่หวั่น

ดูที่ตัวหูฟังกันบ้าง ดีไซน์แตกต่างจากหูฟัง TWS รุ่นอื่น ๆ ในท้องตลาด คือเป็นทรงเหมือนหยดน้ำยาว ๆ ที่ปลายก้านตรงนี้ก็มีไฟซ่อนอยู่ภายในให้เห็นสถานะการเชื่อมต่อเวลาเปิดกล่องออกมา แล้วก็มีไมโครโฟนข้างละ 3 ตัว มีไมค์ตรงปลายก้านรับเสียงพูด แล้วก็มีไมค์ด้านนอกตัวหูฟังกับด้านในเพื่อนำมาประมวลผลการตัดเสียงรบกวน

รูปแบบการใช้งาน

ที่ตัวหูฟังนี้ไม่มีปุ่มใด ๆ การสั่งงานหูฟังจะใช้ระบบสัมผัสทั้งหมด ค่ามาตรฐานคือแตะ 2 ครั้งเพื่อเล่นหรือหยุดเพลง หรือใช้รับสาย-ตัดสาย, แตะ 3 ครั้งเพื่อเรียก Siri หรือ Google Assistent และแตะค้างเพื่อเปลี่ยนโหมดตัดเสียงรบกวน ซึ่งเราก็สามารถปรับรูปแบบการสั่งงานได้จากแอป 1More ในมือถือ แล้วถ้าเอาหูฟังออกจากหู เพลงก็จะหยุดเองด้วย เมื่อใส่กลับเข้าไปก็จะเล่นต่อ

ซึ่งค่ามาตรฐาน เราไม่สามารถปรับระดับเสียงได้จากตัวหูฟัง ใครอยากเพิ่มลดเสียงที่หูฟัง ก็ต้องไปเซ็ตผ่านแอป กำหนดรูปแบบการแตะเพื่อเพิ่มลดเสียง

คุณภาพเสียง

1MORE ComfoBuds Pro ใช้ Bluetooth 5.0 โดยรองรับ Codec เสียง 2 ตัวคือแบบมาตรฐาน SBC และแบบคุณภาพดี AAC ก็ทำให้ใช้กับอุปกรณ์ฝั่งแอปเปิ้ลได้เต็มประสิทธิภาพ ส่วนฝั่ง Android ก็ให้เสียงดีได้เหมือนกัน ส่วนตัวขับเสียงภายในเป็น Dynamic Driver ขนาด 13.4 mm ที่ตอบสนองเสียงทุกย่าน

บุคลิกเสียงของ 1MORE ComfoBuds Pro ค่อนข้างเป็นเสียงแนว Flat นะครับ คือไม่ได้เร่งเสียงสูงหรือเสียงต่ำให้เด่นชัดเหมือนหูเน้นฟังสนุกทั้งหลาย ให้เสียงที่เป็นธรรมชาติดี ได้ยินรายละเอียดในเพลงพอสมควร มี Soundstage ที่โปร่งกว้างใช้ได้ฟังยาว ๆ เสียงไม่อึดอัด ก็น่าจะเป็นแนวเสียงที่คนทั่วไปฟังแล้วถูกใจกันไม่ยากนะครับ แถมหูฟังยังใส่สบายไม่ปวดหูด้วย

แม้ว่าหูฟังรุ่นนี้จะไม่ได้ให้อารมณ์เบสหนัก ๆ มาจุก ๆ แต่ถ้าลองฟังแล้วไม่มีเบสเลย ก็น่าจะใส่จุกหูฟังผิดเบอร์ ไม่เหมาะกับขนาดหูนะครับ ทำให้เบสหาย ซึ่งในกล่องจะมีจุกยางซิลิโคนอีก 3 คู่รวมที่ติดมาแล้วกับตัวหูฟัง ก็จะมีทั้งหมด 4 คู่สำหรับเลือกให้เหมาะกับหูเรา

ฟีเจอร์ที่น่าสนใจ

ที่น่าสนใจอีกอย่างคือในแอป 1More มีคำสั่ง Smart burn-in ด้วยที่ตัวแอปจะสั่งเสียง Noise ต่าง ๆ ไปที่หูฟัง เพื่อให้ตัวไดร์เวอร์หรือดอกลำโพงในหูเข้ารูปเข้ารอยอย่างรวดเร็ว ใครขี้เกียจเบิร์นหูฟังเองก็ใช้คำสั่งนี้ได้ แต่ถ้าไม่ซีเรียสมาก จริง ๆ ก็ไม่ต้องเบิร์นก็ได้ ฟังเพลงไปเรื่อย ๆ สักพักหูฟังก็จะเข้าที่เอง

ส่วนเรื่องเสียงดีเลย์ เราทดสอบการดูวิดีโอกับ Youtube ไม่มีปัญหาเลย เสียงตรงปากทั้งหมด ส่วนเอาไปเล่นเกม จะรู้สึกว่าเสียงออกช้ากว่าหน้าจอนิด ๆ ก็เป็นธรรมชาติของหูฟังแบบ TWS

ระบบตัดเสียงรบกวนหรือ ANC ของหูฟังรุ่นนี้เรียกว่า 1More QuietMax เป็นระบบ Active Noise Cancelling แบบไฮบริด มีตัวเลือกการตัดเสียงรบกวนมากถึง 5 แบบ สามารถเปลี่ยนได้โดยแตะค้างที่ก้านหูฟัง หรือกดเลือกจากแอป 1More ก็ได้

โดยมีตัวเลือกตั้งแต่ปิดการตัดเสียงรบกวนไปเลย, ตัดเสียงรบกวนปกติ, ตัดเสียงรบกวนเต็มขั้น, เปิดเสียงภายนอกเข้ามา และโหมดตัดเสียงลมครับ ซึ่งทดลองแล้ว โหมดตัดเสียงรบกวนภายนอกทำได้ดีเลย เงียบสงบ ดีมาก ๆ ฟังเพลงในที่คนพลุกพล่าน หรือที่เสียงดัง ก็ยังทำให้รู้สึกเหมือนอยู่ในโลกส่วนตัวหรืออยู่บ้าน

แต่ต้องเข้าใจว่าตอนนี้ไม่มีระบบ ANC แบบไหนที่ตัดเสียงภายนอกออกได้ทั้งหมด คำว่าตัดเสียงได้ดีคือเสียงความถี่ต่ำ พวกเสียงฮัมของเครื่องยนต์จะถูกตัดออกไปได้เยอะ แต่เสียงพูดก็ยังได้ยินอยู่บ้าง ซึ่งถ้าเปิดเพลงด้วยก็แทบไม่ได้เสียงภายนอกเลย

ส่วนโหมดเปิดเสียงภายนอกหรือ Transparency ก็ให้เสียงภายนอกผ่านเข้ามาได้คมชัด สามารถแยกมิติภายนอกได้ชัดเจนดี ก็เหมาะสำหรับการเดินฟังเพลงนอกสถานที่ที่ต้องการได้ยินเสียงภายนอกเพื่อความปลอดภัย

และอีกโหมดที่น่าสนใจคือตัดเสียงลม คือหูฟังที่มีระบบ Active Noise Cancellation จะใช้ไมโครโฟนภายนอกเพื่อรับเสียงมาหักล้างเสียงรบกวนในหู แต่ถ้ามีลมเข้าที่ไมโครโฟนนี้ก็จะมีเสียงลมเข้ามากวนครับ ซึ่งโหมดนี้จะทำให้หูฟังสามารถตัดเสียงรบกวนได้ แถมยังสู้ลมได้ด้วย ก็เหมาะใช้ในสถานการณ์ที่มีลมโกรกหูเรา

เป็นหูฟัง TWS ยุคนี้ ไมโครโฟนก็ต้องดีด้วย ซึ่งจากการใช้งานคุยโทรศัพท์จริง ๆ ปลายสายก็ไม่มีการขอให้เราพูดใหม่ หรือบอกว่าเสียงคุยไม่ดีนะ แถมเราสามารถใช้หูฟังแค่ข้างเดียว ข้างไหนก็ได้เพื่อคุยโทรศัพท์ครับ ซึ่งเวลาคุยโทรศัพท์ผมก็แนะนำให้ใช้เสียบหูฟังแค่ข้างเดียว จะคุยแล้วไม่อึดอัด หรือถ้าใส่ 2 ข้าง เวลาคุยสายให้เปิดโหมด Transparency ให้ได้ยินเสียงภายนอก ก็จะลดความอึดอัดลงได้

หูฟังตัวนี้มีแบตเตอรี่ที่อึดใช้ได้เลย คือถ้าปิดระบบตัดเสียงรบกวน จะใช้งานต่อเนื่องได้นาน 8 ชั่วโมง และ 28 ชั่วโมงถ้าเอากลับไปชาร์จในเคส หรือถ้าเปิดระบบตัดเสียงรบกวนจะใช้ต่อเนื่องได้ 6 ชั่วโมง และ 20 ชั่วโมงถ้าชาร์จกับเคส แถมถ้าแบตหมด สามารถชาร์จด่วน 15 นาที ใช้งานได้ 2 ชั่วโมงเลย ส่วนการชาร์จจะชาร์จผ่านพอร์ต USB-C อย่างเดียว ไม่มีระบบชาร์จไร้สายนะ

ข้อสังเกต

การใช้งานอยู่ที่การต้องอาศัยความจำในการใช้พอสมควร คือจำว่าแตะกี่ครั้งสั่งงานอะไรบ้าง อันนี้ไม่ยากเท่าไหร่ แต่การเปลี่ยนโหมดตัดเสียงรบกวนที่ตัวหูฟังนี่ หูฟังจะไม่ได้พูดออกมาว่าเปลี่ยนเป็นโหมดไหนแล้ว แต่จะส่งเสียงเป็นสัญญาณแทน ซึ่งเราก็ต้องจำสัญญาณตัวนี้ถึงจะเข้าใจว่าอยู่โหมดไหนแล้ว หรือทางที่ง่ายกว่านั้นคือเปลี่ยนโหมดจากแอป 1More จะสะดวกกว่า

รีวิวที่ดีต้องมีราคา

1MORE ComfoBuds Pro หูฟังแบบ TWS รุ่นท็อปสุดของแบรนด์ 1More ตั้งราคาเปิดตัวที่ 3,290 บาท ก็ถือเป็นราคาที่คุณภาพนั้นสู้กับคู่แข่งในระดับราคานี้ได้เลย ยังไงลองหาโอกาสไปฟังเสียงดู ว่าคุณจะถูกใจเสียงของ 1MORE ComfoBuds Pro หรือไม่

สั่งซื้อได้ที่ Lazada : https://1th.me/apwbJ Shopee : https://1th.me/6o99l