การทำธุรกิจในยุคนี้ต้องปรับตัวให้ทันโลกที่เปลี่ยนไป นอกจากความรู้และประสบการณ์ที่เรามีแล้ว ช่องทางการในการสื่อสารก็สำคัญไม่แพ้กัน ยิ่งช่วงนี้หลายท่านทำงานจากที่บ้าน Work from Home การค้าขายบนออนไลน์กลับเติบโตสูงขึ้น เพราะใครๆสามารถซื้อของได้จากทุกที่ ทุกเวลา หลายธุรกิจจึงหันมาใช้แพลต์ฟอร์มออนไลน์กันมากขึ้นแบบก้าวกระโดด เสมือนเปิดพรมแดนใหม่ในการขายของ เพราะเทคนิคที่เคยใช้ได้ดีกับหน้าร้าน อาจไม่ตอบโจทย์ และมีเรื่องใหม่ ๆ ให้เรียนรู้เพื่อการขายของออนไลน์ที่ดีขึ้น

วันนี้เราจะมาพูดคุยเรื่องเทรนด์การตลาดออนไลน์ในยุคปัจจุบัน ที่พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ต้องรู้ โดยเฉพาะคำว่า Performance Marketing มันคืออะไรและน่าสนใจอย่างไร ต้องพูดคุยคนนี้เลยครับ คุณภคศุภ เพ็ชรดีกับประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ก่อตั้งบริษัท ดิจิมัสเกตเทียร์

อย่างที่ทราบกันว่ายุค Covid-19 ที่เป็นปฏิกิรยาเร่งรัดของการเติมโตแบบก้าวกระโดด หรือ exponential ทางคุณโรจน์เอง มีมุมมองในด้านนี้อย่างไร และทำอย่างไรที่จะเข้าไปมีส่วนร่วมกับโลกใหม่ ในยุค Digital exponential คิดว่าการขายของ หรือการทำการตลาดแบบดิจิทัล พื้นฐานที่ต้องเรียนรู้เลยคือเรื่องอะไรบ้าง

พูดถึงการสร้าง Digital Exponential ก็จะมีด้วยกัน 2 เคสด้วยกัน คือเคสยุคก่อนโควิดกับเคสธุรกิจหลังยุคโควิด ผมเชื่อว่าหลาย ๆ เจ้าในธุรกิจก่อนยุคโควิดจะมามีการโฟกัสการทำดิจิทัลกันอย่างจริงจังอาจจะมีการทำบ้างบางแคมเปญ มีการโปรโมตบ้างแต่ไม่ใช่อยู่ในระดับของธุรกิจหลัก แต่พอการเข้ามาของโควิดแล้วก็การที่เรามีเครื่องไม้เครื่องมือการทำดิจิทัลมากมายมหาศาล จุดเปลี่ยนจุดนึงคือพฤติกรรมของผู้บริโภคที่มีการเปลี่ยนไปอย่างชัดเจนและถาวร ทำให้หลาย ๆ เจ้าหลาย ๆ ผู้ประกอบการ เข้ามาเริ่มโฟกัสการทำดิจิทัลอย่างจริงจังแล้ว เพื่อทำให้ธุรกิจของเขาเหล่านั้นเติบโตขึ้นหรือที่เราเรียกว่า Digital Exponential แต่หลังจากที่หลาย ๆ เจ้าเข้ามา พบกับปัญหามากมาย ไม่ว่าจะเป็นความไม่รู้ทางด้านแพลตฟอร์มเครื่องมือการใช้งานต่าง ๆ ถ้าอยากให้ผมแนะนำคืออยากให้หลาย ๆ เจ้าหลาย ๆ ธุรกิจเปิดใจที่จะสื่อสารที่จะเรียนรู้ แต่ละแพลตฟอร์มจะมากฏและการใช้งานที่ไม่เหมือนกัน ดราควรจะเริ่มศึกษาเรียนรู้จากนโยบาย เพื่อให้ที่สุดให้โฆษนาของเราไป Submit ไปโปรโมตไม่ได้รับการอนุมัติทำให้เสียเวลาไปอีก

ความรู้ในการสื่อสารก็จำเป็น?

ยกตัวอย่างที่ผมเคยเจอ สมมติโฆษณาเราดีมาก ๆ มีคนคลิกเยอะมากแต่คลิกไปแล้วไม่เกิดการซืื้ิอ ถ้าเราไม่ได้เรียนรู้หรือวิเคราะห์เราก็จะไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างไร ปัญหานี้เกิดจากโฆษณาหรือหน้า Creative ของเรามีความแตกต่างจากตัวเว็บไซต์ของเรา อธิบายง่าย ๆ คือหน้าตาโฆษณาของผมเป็นซุปเปอร์สตาร์ คนให้ความสนใจคลิกเยอะมาก แต่กดเข้ามาหน้าเว็บไซต์เป็นอีโคคาร์มันทำให้เกิดความต่างต่างมากยิ่งขึ้นวิธีแก้ปัญหาเหล่านี้คือพยายามเอาสินค้าที่มันตรงกับตัวชี้นำโฆษณาให้มันมีความสัมพันธ์กัน อีกเคสนึงคือคนคลิกน้อยมากแต่กดซื้อถล่มทลายหน้าที่ของการตลาดคือทำอย่างไรก็ได้ให้ปรับเปลี่ยนตัวตรงกลางเปลี่ยนจากคลิกน้อยให้มาเป็นคลิกเยอะที่สุด เราจะได้คนที่คลิกน้อยและคนที่คลิกเยอะด้วยเพราะว่ากลุ่มเป้าหมายเราตรงกัน

อยากจะขายออนไลน์เราต้องเริ่มต้นอย่างไร?

ผมให้คำแนะนำไป 4 ข้อ

  1. ไม่ว่าจะเป็นการตลาดออนไลน์หรือออฟไลน์เราจะต้องรู้จักสินค้าและบริการของเราเป็นอย่างดีก่อน
  2. เราต้องรู้จักลูกค้าของเราก่อน
  3. รู้จักเครื่องไม้เครื่องมือในการทำตลาด หรือวิธีการสื่อสารในการทำการตลาดนั้น ๆ
  4. สุดท้ายคือวิธีการวัดผล

ทั้ง 4 ข้อที่กล่าวมาคือการสัมพันธ์กันอย่างใกล้ชิด อย่างข้อที่รู้จักสินค้าและบริการของเรา สมมติว่าผมขายเสื้อผ้าอยู่ที่ประตูน้ำ อยากจะเอาร้านค้าไปเป็นออนไลน์ จ้างพนักงานคนนึงมาขายของผมอยากจะลองเปลี่ยนพนักงานคนนั้นมาคอยตอบแช็ต หรือการไปเช่าหน้าร้านอยู่เราต้องมีเว็บไซต์ เราต้องมีช่องทางการติดต่อสื่อสาร หรือการทำภาพโฆษณาให้ดึงดูดลูกค้าเข้ามาซื้อ

การได้องค์ความรู้และเครื่องมือการตลาดถือเป็นอีกส่วนนึงที่ทำให้ธุรกิจของท่านประสบความสำเร็จทั้งยอดขายและกลุ่มเป้าหมายที่ชัดเจน แล้วยิ่งเป็นทีมงานคนไทยที่เข้าใจทั้งวัฒนธรรม ความสนใจ และกลุ่มลูกค้า จึงทำให้ผลลัพธ์ออกมามีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นครับ หากใครสนใจอยากให้ digimusketeers ช่วยในเรื่องการตลาด สามารถติดต่อได้ตามรายละเอียดที่เราขึ้นให้ข้างล่างนี้ครับ