เมื่อต้นเดือนพฤษภาคม 2564 ที่ผ่านศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค สหรัฐฯ หรือ CDC ได้เปิดเผยข้อมูลใหม่เกี่ยวกับการแพร่กระจายของเชื้อที่ก่อให้โรคโควิด-19 ว่าช่องทางการแพร่เชื้อในปัจจุบัน แบ่งออกเป็น 3 ช่องทาง คือ การสัมผัสเยื่อบุโดยตรง, การสัมผัสเยื่อบุผ่านมือที่ปนเปื้อนเชื้อไวรัส และการหายใจนำไวรัสเข้าไปโดยตรง ซึ่งช่องทางสุดท้ายนี้ ถือเป็นการยืนยันว่า เชื้อที่ก่อให้เกิดโรคโควิด-19 สามารถแพร่กระจายทางอากาศได้ครับ
ปัจจุบัน การกำจัดเชื้อโรคที่แพร่กระจายอยู่ในอากาศมีวิธีการอยู่หลากหลายครับ เช่น การฉีดพ่นด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อ, การอบโอโซน, การฉายรังสี UV-C แบบเปิด, การกรองด้วยฟิลเตอร์ HEPA หรือการใช้ประจุลบเข้าไปจับกับเชื้อโรคเพื่อทำให้เชื้อตกลงสู่พื้น โดยวิธีการทั้งหมดนี้ มีทั้งข้อดี-ข้อเสียแตกต่างกันไปครับ
การฉีดพ่นด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อ การอบโอโซน และการฉายรังสี UV-C แบบเปิดระหว่างกระบวนการเหล่านี้จะมีสิ่งมีชีวิตอยู่ในพื้นที่ไม่ได้เลย เนื่องจากอาจได้รับอันตรายจากน้ำยา แก๊ส และรังสี และเป็นที่น่าเสียดายว่า พื้นที่ปิดเหล่านี้ เมื่อผ่านการฆ่าเชื้อแล้วเปิดใช้งานอีกครั้ง พื้นที่ก็จะไม่สะอาดอีกต่อไปครับ เนื่องจากคนหรือสัตว์เลี้ยงอาจจะนำพาเชื้อโรคเข้ามาด้วย ไม่ว่าจะติดมากับเสื้อผ้า รองเท้า หรือแม้แต่การจามสักครั้ง เชื้อโรคก็กลับมาแพร่กระจายอยู่ในอากาศได้ทันทีครับ
การใช้เครื่องฟอกอากาศที่มีฟิลเตอร์ HEPA และการปล่อยประจุลบ ซึ่งเป็นสิ่งที่หลายคนคิดว่า สามารถฆ่าเชื้อโรคแบบเรียลไทม์ได้ โดยที่คนและสัตว์เลี้ยงสามารถใช้งานในพื้นที่ได้อย่างปลอดภัย นี่เป็นวิธีที่ผิดครับ เพราะโดยทางเทคนิคแล้ว ยังไม่ปลอดภัยจากเชื้อโรคซะทีเดียว
เนื่องจากฟิลเตอร์ HEPA คือการกักเก็บเชื้อโรคไว้ที่ตัวฟิลเตอร์ ไม่ใช่การฆ่าเชื้อโรคครับ และด้วยอายุการใช้งานที่ต้องมีการเปลี่ยนทุก ๆ 3-6 เดือน ซึ่งช่วงที่เปลี่ยนฟิลเตอร์นี้ก็เสี่ยงต่อการสัมผัสเชื้อโรคโดยตรง และทำให้เชื้อโรคแพร่กระจาย
ส่วนการปล่อยประจุลบไปดักจับเชื้อโรคนั้น คือการทำให้ประจุจับตัวกับเชื้อโรคแล้วหนักขึ้นจึงตกลงสู่พื้น เราจึงจำเป็นที่ต้องทำความสะอาดพื้นผิวอีกครั้ง จึงจะเรียกได้ว่าปลอดเชื้อแน่ ๆ
Sol-N Tech (อ่านว่า โซล-เอ็น เทค) ซึ่งเป็นบริษัท Tech Start Up ที่ได้รับการรับรองจาก สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ หรือ สวทช. ได้คิดค้นนวัตกรรมฆ่าเชื้อโรคในอากาศด้วยรังสี UV-C ที่ปลอดภัยต่อคนและสัตว์ขณะเปิดใช้งาน เรียกว่า UV Care254 Airflow ภายใต้แบรนด์ Sol-n (อ่านว่า โซล-เอ็น) ครับ โดยเครื่องฆ่าเชื้อโรคในอากาศที่อยู่ข้าง ๆ ผมตัวนี้ คือรุ่น 20W ครับ ครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 70 ตารางเมตร เหมาะกับการใช้งานภายในครัวเรือน
เครื่อง UV Care254 Airflow เกิดจากการนำ 2 จุดเด่นของวิธีการฆ่าเชื้อโรคในอากาศแบบเดิมมาใช้ นั่นคือประสิทธิภาพในการฆ่าเชื้อโรคของรังสี UV-C และวิธีการดักจับเชื้อโรคแบบเรียลไทม์โดยการรวมศูนย์กลางด้วยการดูดอากาศครับ
โดยรังสี UV-C ที่เป็นอันตรายต่อสิ่งมีชีวิตนั้น ทาง Sol-n ได้ออกแบบให้ใช้งานในระบบปิด กล่าวคือหลอดไฟที่ปล่อยรังสี UV-C จะถูกปกป้องอย่างมิดชิดถึง 2 ชั้น ด้วยโครงเหล็กและแผ่นอะคริลิค ซึ่งโครงสร้างระบบปิดนี้ ได้รับการรับรองจากสถาบันเทคโนโลยีนิวเคลียร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) ว่า สามารถป้องกันการเล็ดลอดของคลื่นแสงได้ปลอดภัย 100% และไม่มีการปล่อยแก๊สโอโซนตลอดการใช้งานครับ
ด้านบนของตัวเครื่องจะมีพัดลมแรงดันต่ำที่จะดูดอากาศเข้ามาภายในเครื่อง ผ่านพื้นที่รูปรังผึ้งตรงด้านล่างนี้ ซึ่งทาง Sol-n ได้ออกแบบพื้นที่ดังกล่าว เพื่อทำให้เกิดสภาวะหน่วงทางอากาศที่ดีที่สุด ก่อนลำเลียงเข้าสู่ตัวเครื่องครับ
เมื่อเชื้อโรคและอากาศถูกดูดเข้ามาในเครื่อง จะเจอกับพื้นที่ที่เรียกว่า Killing Zone ตรงจุดนี้ เชื้อโรคจะถูกทำลายโดยรังสี UV-C เนื่องจากรังสีชนิดนี้สามารถทะลุทะลวงผ่านไปถึงชั้น DNA และ RNA ทำให้เชื้อโรคตายในที่สุด โดยกระบวนการที่เกิดขึ้นใน Killing Zone นี้ ใช้เวลาแค่ 1.6 วินาที ก็สามารถฆ่าเชื้อโรคได้ 99.99% ครับ หลังจากนั้นอากาศที่ไม่มีเชื้อโรค จึงเดินทางผ่านต่อไป และออกสู่ภายนอกเครื่องผ่านพัดลมแรงดันต่ำที่ด้านบนนี้ครับ
การหมุนเวียนของอากาศซ้ำ ๆ ซึ่งไม่ใช่การ Recycle อากาศในห้องเช่นนี้ ทำให้เชื้อโรคที่หมุนเวียนอยู่ภายในห้องหรือพื้นที่ปิด ค่อย ๆ ลดจำนวนลง ส่วนเชื้อโรคที่เข้ามาใหม่ก็จะถูกดูดเข้าไปในเครื่องและถูกทำลายในที่สุด หากเรายังคงเปิดใช้งานเครื่อง UV Care254 Airflow ครับ
เครื่องฆ่าเชื้อโรคในอากาศ UV Care254 Airflow ได้ผ่านการทดสอบจากหลากหลายสถาบันว่า สามารถฆ่าเชื้อโรคในอากาศได้จริง คนและสัตว์สามารถอยู่ในพื้นที่ได้อย่างปลอดภัย ขณะที่เครื่องถูกเปิดใช้งาน
การใช้งานเครื่องฆ่าเชื้อโรคในอากาศตัวนี้ มีเพียง 3 ขั้นตอนเท่านั้น คือนำเครื่องไปวางไว้ในห้องที่ต้องการ เสียบปลั๊ก และเปิดสวิตช์ให้เครื่องทำงาน จบครับ ไม่ซับซ้อนเลย ส่วนไฟที่เห็นด้านล่างนี้ คุณอย่าเพิ่งตกใจว่ามีการรั่วไหลของรังสีนะครับ แต่นี่คือไฟบอกสถานะว่าเครื่องกำลังทำงานครับ
ข้อสังเกต
โดยข้อสังเกตของเครื่องฆ่าเชื้อโรคในอากาศ UV Care254 Airflow คือเสียงครับ โดยในขณะเปิดใช้งาน UV Care254 Airflow จะมีเสียงดังประมาณ 40 เดซิเบล ถ้าคุณนึกไม่ออกว่าดังแค่ไหน ผมเปรียบเทียบให้ง่าย ๆ คือระดับความดังประมาณเตาไมโครเวฟที่กำลังทำงานครับ
รีวิวที่ดีต้องมีราคา
เครื่องฆ่าเชื้อโรคในอากาศ UV Care254 Airflow มี 2 รุ่นให้เลือก คือ 20W และ 40W ครับ
โดยรุ่น 20W เหมาะสำหรับการใช้งานในครัวเรือน แบบขาตั้งมีราคาอยู่ที่ 27,900 บาท และแบบติดผนังมีราคาอยู่ที่ 24,900 บาท พิเศษสำหรับช่วงการเปิดตัวนี้ แบบขาตั้งมีราคาอยู่ที่ 25,900 บาท และแบบติดผนังมีราคาอยู่ที่ 22,900 บาทครับ
รุ่น 40W เหมาะสำหรับการใช้งานเชิงธุรกิจ เช่น ออฟฟิศหรือห้างร้าน แบบขาตั้ง มีราคาอยู่ที่ 55,000 บาท และแบบติดผนังมีราคาอยู่ที่ 37,000 บาทครับ โดยทั้งสองรุ่นมาพร้อมกับการรับประกัน 1 ปีเต็มครับ
ส่วนหลอดไฟของ UV Care254 Airflow จัดว่าเป็นอุปกรณ์ที่ต้องให้ความใส่ใจในการเปลี่ยน เมื่ออัตราการฆ่าเชื้อเสื่อมลงครับ โดยหลอดไฟนี้มีอายุการใช้งานประมาณ 8,000 ชั่วโมง ตีกลม ๆ ก็คือใช้ได้ประมาณ 1 ปีถึง 1 ปีครึ่งครับ หากต้องการเปลี่ยนอะไหล่หรือบริการหลังการขายอื่น ๆ ผมแนะนำให้ติดต่อ Facebook : Goodtech Thailand ตัวแทนการจัดจำหน่ายหลักครับ
หากคุณอยากทราบรายละเอียดและประสบการณ์การใช้งานเพิ่มเติมของเครื่อง UV Care254 Airflow สามารถเข้าไปได้ที่ช่องยูทูบ GoodTech Innovation ครับ
เครื่องฆ่าเชื้อโรคในอากาศถือเป็นอีกหนึ่งในวิธีการต่อสู้กับเชื้อโรคต่าง ๆ ที่ขยันปรับตัวเพื่อเพิ่มยอดการแพร่ระบาดเหลือเกิน ในตอนนี้ต้องยอมรับจริง ๆ ครับว่าโรคโควิด-19 แพร่ระบาดหนักมาก จนพวกเรามองแทบไม่เห็นปลายทาง แต่เมื่อโรคนี้มันมีจุดเริ่ม ย่อมต้องมีจุดจบครับ และต่อให้พวกเราผ่านพ้นไปได้ โรคอุบัติใหม่ตัวต่อไปก็อาจจะรอเราอยู่อีก การฆ่าเชื้อโรคก่อนที่จะเข้าสู่ร่างกายแบบนี้ ย่อมดีกว่าการรักษาเมื่อเจ็บป่วยแน่นอนครับ