นี่คือ Xiaomi Mijia K ไมค์คาราโอเกะสุดจ๊าบ ที่วันนี้จะมารีวิวให้ดูว่ามันถูกใจวัยเก๋าจริงหรือไม่

รูปร่างหน้าตา

หน้าตาของ Mijia K จะเป็นไมโครโฟนหัวใหญ่ ๆ วัสดุเป็นพลาสติกอย่างดีทั้งหมด ซึ่งสัมผัสโดยรวมถือนี้จัดว่าแน่นเลย ไมค์จะมาพร้อมขาตั้งโต๊ะ ทำให้หาที่วางได้แบบประหยัดพื้นที่ และที่ขาตั้งนี้จะมีการเจาะช่องเอาไว้ ทำให้สามารถเสียบชาร์จไมค์สำหรับตั้งได้ ถือว่าออกแบบมาได้สอดคล้องกันการใช้งาน

จุดเด่น

จุดเด่นของ Mijia K คือ เป็นไมค์คาราโอเกะอัจฉริยะ เป็นได้ทั้งไมค์และลำโพงในตัว โดยเสียงพูดจะออกจากลำโพงที่อยู่ตรงหัวไมค์ อีกทั้ง Mijia K สามารถเชื่อมต่อ Bluetooth ได้อีกด้วย วิธีการก็แสนจะง่ายเพียงกดปุ่ม Power ค้าง จนไฟรอบ ๆ ปุ่มกะพริบ หลังจากนั้นก็ใช้โทรศัพท์มือถือ หรือคอมพิวเตอร์ เชื่อมต่อ Bluetooth ที่ชื่อ Mijia K ได้เลย

ทีเด็ดอีกอย่างหนึ่งของไมค์ตัวนี้ คือ สามารถตัดเสียงร้องได้ หากคุณหาเพลงเวอร์ชันคาราโอเกะไม่ได้จริง ๆ ก็ใช้เพลงปกตินี่แหละ เพียงแค่มากดปุ่มวงกลมที่อยูระหว่างสัญลักษณ์ + และ – ค้างไว้จนไมค์พูดกับเรา เพียงเท่านี้ Mijia K ก็จะทำการตัดเสียงร้องออก ทำให้พลงที่คุณเลือกเป็นเวอร์ชันคาราโอเกะ ซึ่งคุณภาพการตัดเสียงร้องนั้นดีในระดับหนึ่ง

แม้จะสู้เพลงแบบคาราโอเกะแท้ ๆ ที่ไม่มีเสียงร้องตั้งแต่ต้นไม่ได้ แต่ก็ทำให้คุณสามารถเปลี่ยนทุกเพลงในโลกให้เป็นคาราโอเกะได้

นอกจากนี้ยังสามารถปรับระดับเสียงที่ออกที่ลำโพงได้โดยกด +- ที่ตัวไมค์ครับ ซึ่งถ้าเชื่อมต่อไมค์กับโทรศัพท์มือถือก็จะเห็นแถบการปรับระดับเสียงที่มือถือขึ้นมาด้วย

ส่วนถ้าจะปรับระดับเสียงร้องของคุณที่ออกที่ตัวไมค์ก็กดปุ่มวงกลมที่อยู่ระหว่างสัญลักษณ์ + และ – 1 ครั้ง ก็จะเป็นการปรับเสียงไมค์ แล้วกดอีกครั้งเพื่อกลับไปปรับเสียงลำโพง

วิธีใช้งาน Effect

วิธีใช้งานก็ไม่ยากแค่กดปุ่ม Power ค้างไว้จนไฟติด แค่นี้ก็พร้อมที่จะให้คุณเฉิดฉาย แล้วถ้ากดปุ่ม Power 1 ครั้ง ไมค์จะพูดชื่อ Effect เสียงตอนนี้ให้ฟังก่อน แล้วถ้ากด Power อีกครั้งภายใน 5 วินาทีก็จะเปลี่ยนเอฟเฟกต์เสียงถัดไป ซึ่งคือมีให้เลือกถึง 9 แบบคือ

  1. “เสียงปกติ” (เรนซึงหยิงเชี๊ยว)
  2. “เสียง KTV” (KTV หยิงเชี๊ยว)
  3. “เสียงเพลงป๊อป” (บิวเชียงหยิงเชี๊ยว)
  4. “เสียงซอฟต์” (ชินโหล่วหยิงเชี๊ยว)
  5. “เสียงก้องมาก” (ไชฉี่ฮุนเฉียงหยิงเชี๊ยว)
  6. “เสียงโฟล์คซอง” (หมิงกือหยิงเชี๊ยว)
  7. “เสียงผู้นำ” (ลิงเต๋าเจียงขว้าหยิงเชี๊ยว)
  8. “เสียงการ์ตูน” (คาตูนหยิงเชี๊ยว)
  9. “เสียงปีศาจ” (ไกทัวหยิงเชี๊ยว)

ลำโพง

Mijia K ตัวนี้ใช้ลำโพง 5 w เสียงทีี่ขับออกมาจัดว่าดังใช้ได้ คุณภาพเสียงที่ได้ยินก็ดีประมาณหนึ่งเลย เอาไปใช้ในบ้าน หรือในงานปาร์ตี้นี่สนุกแน่นอน

การเชื่อมต่อ

ด้านล่างของ Mijia K จะมีพอร์ตและปุ่ม

  • พอร์ตเสียบหูฟัง 3.5 mm สีแดง สามารถใส่หูฟังร้องเพลงคนเดียวได้ ไม่ต้องรบกวนคนอื่น
  • พอร์ต AUX 3.5 mm สีดำ สามารถต่อสายเข้ากับมือถือที่ยังไม่ตัดพอร์ต 3.5 mm หรืออุปกรณ์บันทึกเสียงได้ เช่นจะเอาไปต่อแอป Smule เพื่อบันทึกเสียงร้องไปสู้กับคนทั่วโลกก็ได้ แต่การใช้โหมดนี้จะต้องต่อหูฟังออกจากไมค์ด้วย เพราะเสียงจากแอปจะไม่ออกที่ลำโพงของไมค์ ซึ่งเราแนะนำให้ใช้สาย AUX ที่แถมมากับไมค์จะดีที่สุด
  • พอร์ต USB-C สำหรับเสียบชาร์จ ซึ่งเมื่อชาร์จจนเต็มจะสามารถใช้งานต่อเนื่องสูงสุด 7 ชั่วโมง
  • ปุ่มเล็ก ๆ เพียงหนึ่งเดียว ถ้ากดค้างจะเป็นการเข้าโหมดเชื่อมต่อ Bluetooth ใช้เมื่อต้องการที่จะเปลี่ยนอุปกรณ์เชื่อมต่อใหม่ จะต่อโทรนศัพท์มือถือใหม่ก็กดค้างจนไฟที่ไมค์กะพริบ แล้วเปิดหน้า Bluetooth เชื่อมได้เลย หรือถ้ากด 2 ครั้ง จะเข้าโหมดจับคู่ไมค์ ซึ่งเอาให้เอาไมค์ Mijia K อีกตัวหนึ่งมาใกล้ ๆ เปิดไมค์ แล้วกดปุ่มด้านล่างนี้ 2 ครั้งเช่นกัน ไมค์ 2 ตัวนี้ก็จะจับคู่กัน เพื่อร้องเพลงคู่ได้เลย เสียงเพลงจะส่งไปออกทั้ง 2 ไมค์

ข้อสังเกต

  • ไมค์นี้ยังไม่ได้วางขายนอกประเทศจีน ต้องไปหิ้วมาจากเมืองจีน ไมค์เลยพูดภาษาจีน คู่มือก็จีน ต้องดูคลิปรีวิวถึงจะรู้ว่าใช้ยังไงบ้าง ถ้าต่อไปมีการส่งออกมาขายในไทยอย่างเป็นทางการ น่าจะปรับให้เป็นภาษาอังกฤษหรือภาษาไทยให้ใช้ง่ายขึ้น
  • Mijia K มีน้ำหนักมากกว่าไมค์ทั่วไปอยู่พอสมควร ถ้าถือร้องนาน ๆ อาจจะเมื่อยได้

ราคา

สำหรับ Xiaomi Mijia K ขายในไทยอยู่ราว ๆ 2,000 บาท หาซื้อได้ตามร้านออนไลน์ทั่วไป

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส