ใกล้เข้ามาแล้วนะครับ (และถูกถ่างให้ไกลขึ้นไปอีกหน่อย) กับยุคสมัยใหม่ของวงการโทรทัศน์เมืองไทย “ทีวีดิจิตอล” ชื่อนี้ที่คุณคุ้นหูมานานกว่าครึ่งปี มีการพูดถึงกันผ่านหน้าสื่อทุกแขนง มันเป็นการเปลี่ยนผ่านที่สำคัญมากของวงการสื่อ ทุกคนในวงการตื่นเต้นกันหมดทุกหมู่ (แต่ผลสำรวจล่าสุดพบว่าประชาชนโดยรวมยังไม่ค่อยทราบกันถึงทีวีดิจิตอลใหม่นี้ ก็แน่ละครับ “ข่าวการเมืองกลบทุกเรื่อง” ณ สยามประเทศเวลานี้นี่นา)
การประมูลผ่านไปอย่างดุเด็ดเผ็ดร้อนปลายเดือนธันวาคมที่ผ่านมา เปิดเผยโฉมหน้า “เศรษฐีตัวจริงวงการสื่อ” ที่ฟาดฟันกันด้วยเงินจนเห็นดำเห็นแดง จนคนดูอย่างเรามองตากันปริบๆตั้งคำถามในใจ “พวกเขาเอาเงินมาจากไหนกันมากมาย???” ภารกิจนี้ต้องชม กสทช.ฝั่งคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงฯ (กสท.)ที่จัดประมูลขึ้นมาจริงๆ สำเร็จจริงๆ รีดเม็ดเงินจำนวนมหาศาล 50,862ล้านเข้ากองทุนวิจัยและพัฒนากิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมเพื่อประโยชน์สาธารณะ (ตัวย่อ กทปส. คล้ายกองทุนลุงกำนันเสียนี่กระไร 🙂 ซึ่งจะมีคณะกรรมการอีกชุดมากลั่นกรองโครงการวิจัยอันเป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติต่อไป ถ้าตามข่าวคุณจะทราบว่าเขาเริ่ม “แจกเงิน” นักวิจัยนักพัฒนาแล้วครับ ใครอยากทำตัวมีประโยชน์ด้วยมันสมองของตนแต่ขาดแคลนสปอนเซอร์ ยื่นเรื่องเสนอขอ กทปส.ได้ให้ว่อง!
ผมเองได้ประกาศชัดจนหลายคนตกใจพาลเข้าใจผิดว่า “เลิกทำรายการแบไต๋ไฮเทค” แต่แท้จริงคือ “ยุติบทบาทพิธีกรชั่วคราว” เพื่อเอาเวลาไปเตรียมทำรายการใหม่ๆในดิจิตอลทีวี ซึ่งถึงตอนนี้นับนิ้วทั้งสิบแล้วก็เกินครับ โอกาสเปิดมากจริงๆอย่างไม่เคยประสบพบเจอมาก่อน 15 ปีที่อดทนมาไม่สูญเปล่าเลย ผมต้องขึ้นรายการใหม่จำนวนมากแบบที่ชีวิตนี้ไม่เคยขึ้นพร้อมกันขนาดนี้มาก่อนกับ 6สถานีทีวีที่ให้ความไว้วางใจและมีวิสัยทัศน์ทันสมัยหวังเปลี่ยนแปลงให้ทีวีไทยฉลาดล้ำนำพาคนไทยสู่มหาอำนาจทางความคิดสร้างสรรค์ (ซักวันมันต้องเป็นจริงครับ) …ช่วงนี้ผมวิ่งวุ่นกับการประชุมงาน, นำเสนอและพบปะสปอนเซอร์ทุกวัน จึงจำเป็นต้องสละรายการที่ตัวเองชอบมากอย่างแบไต๋ไฮเทคให้เพื่อนร่วมก๊วนมอมเมาท่านผู้ชมด้วยสาระไปก่อน ขอฝาก “เฟื่องลดา สราณี” พิธีกรหญิงไอทีคนใหม่ไว้ในอ้อมอกอ้อมใจท่านด้วยครับ เธอเก่งวันเก่งคืน ทีวีดิจิตอลสตาร์ทเมื่อไหร่ ผมกลับมาประจำการแน่พร้อมรายการใหม่ๆและการแปลงโฉมแบไต๋ไฮเทคให้ทันสมัยไปตลอดกาล
จากกำหนดการ “เขี่ยบอล” ดิจิตอลทีวีคือ 1 เมษายนนี้ที่วางกันไว้คร่าวๆหลังการประมูลจบว่า 90 วันหลังออกใบอนุญาตประชาชนได้เห็นแน่ แต่จนกระทั่งวันนี้ “ใบอนุญาตยังไม่ได้ออก” ให้ผู้ชนะการประมูลที่จ่ายเงินงวดแรกแล้วอย่างพร้อมเพรียง (รู้แล้วอยากส่งพรินเตอร์ความเร็ว40หน้า/นาทีไปให้จัง) ปัญหาไม่ใช่เรื่องการพิมพ์ช้าเร็ว แต่ปัญหาคือ “ความพร้อมของคนดู” ที่กสทช.ต้องทำให้สำเร็จด้วย มติที่ประชุมกสทช.เมื่อเย็นวันพฤหัสที่ 27กพ.สรุปสั้นๆว่า “ไม่ทัน” …อ้าว! 1เมษายนนี้ไม่ทัน “เลื่อนเป็น 1มิถุนายนแทน” ผมเดาต่อทันที อาจเพราะไม่สามารถออกคูปองลดราคาการซื้อกล่องรับสัญญาณ DVB-T2 ให้ประชาชนตามที่สัญญาไว้ได้ (สัญญานี้ไม่ต้องใช้ใบประทวนนะครับ ฮ่า!) แต่สำคัญที่สุดเลยนะ “การควบคุมให้ผู้ผลิตกล่องทีวีดาวเทียมและเคเบิ้ล ‘เรียงช่อง’ ตามที่ผู้ชนะการประมูลได้เลือกเลขช่องกันไป” มันเป็นเรื่อง “หินที่สุด” ครับ ณ วันนี้ กสทช.ยังลังเลกันนิดๆเรื่อง “เลขช่องเริ่มต้น 1-36” กับการ “เว้นให้ผู้ผลิตกล่องมีอิสระเสรีในการตั้งเลข 1-10 ช่องแรก”
ผมเล่าแบบนี้ท่านจะได้ไม่งงนะครับ … ทีวีดิจิตอลใหม่จะมี 48 ช่อง อันประกอบไปด้วย “ทีวีสาธารณะ” ช่อง 1-12 “ทีวีบริการทางธุรกิจ” ช่อง 13-36 (24ช่อง) และ “ทีวีชุมชน” ที่แต่ละภูมิภาคจะไม่เหมือนกัน อีก 12ช่อง คือช่อง 37-48 ประเภทแรกและประเภทหลังนี้ไม่ต้องประมูล แต่องค์กรไม่แสวงหาผลกำไรไหนอยากทำให้มาขออนุญาตจากกสทช. ผลิตรายการแนวส่งเสริมสังคม,ข่าวสารความมั่นคง โฆษณาทางการค้าไม่ได้ รายได้จึงต้องมาจากกองทุนสนับสนุนเท่านั้น ที่เขาประมูลแข่งกันจะเป็นจะตายก็คือ 24ช่องทีวีเพื่อบริการทางธุรกิจ เพราะโฆษณาได้เต็มเหนี่ยว และการจัดรายการคงมีสีสันอย่างมากเพื่อกระชากเรตติ้งคนดู ทีวีประเภทนี้ได้ผู้ประกอบการครบแล้ว “และจะไม่มีหน้าใหม่ใครอีกเลยในรอบ 15ปีนี้” คนชนะได้เลือกเลขก่อนตามประเภทสถานีของตน ไทยทีวีสีช่อง3เดิม ซัดไป 3 ช่อง (ขอคาราวะในพละกำลังเงินท่านครับ) ชนะไป 2หมวด ก็เลือกเลขก่อนได้ทั้งช่องเด็กและ HD ช่อง3เลือกเลข 13 (ช่องเด็ก) และ 33 (ช่อง HD) เพื่อให้แฟนๆจดจำได้ง่ายแน่นอน เนชั่นซัดมา 2ช่อง ชนะในหมวดข่าว ได้เลือกเลขก่อน เลือก “22” ในฐานะเลขกึ่งกลางที่กดง่ายที่สุดบนรีโมทคอนโทรล
ต่อจากนี้ไป “ศักดิ์และศรี” ของ 24ช่องนี้ จะ “เทียบเท่าช่องฟรีทีวี” เพราะคำว่า 3,5,7,9 ที่ยึดเลขช่อง1-4 มาอย่างยาวนานจะมะลายหายไป และว่ากันใหม่ตามเลขช่อง 13-36 ที่ทุกคนเลือกแล้ว
ที่มาของภาพ: Kapook
ทีนี้ผมอ่านใจพันเอก ดร.นที ศุกลรัตน์ คาดว่าท่านคงยังหนักใจเรื่อง “การควบคุมให้กล่องดาวเทียมทุกกล่องในสยามประเทศ ‘เรียงช่อง’ ให้ได้ตามนี้ เพราะจะลดการสับสนของประชาชนและสิ้นสุดยุคสมัยแห่งความมั่วซั่วบนหน้าปัดทีวีดาวเทียมซะที เรื่องนี้ประกาศชัดแล้วว่า “เรียงแน่” ควบคุมแน่ แต่ตอนนี้ ยังงงๆกันอยู่ว่า “อิสระเสรี” ที่จะให้ผู้ผลิตกล่องเลือกช่องเอง 10ช่อง แล้วค่อยต่อด้วยทีวีดิจิตอล 1-36 มันจะยังไง? (หมายความว่า คนที่อุตส่าห์ทุ่มเงินอย่างมากมหาศาลที่สุดอย่างช่อง 3 เพื่อจะชนะและเลือกเลขก่อนคือ 33 ก็จะกลายเป็นเลข “43” บนกล่องทีวีดาวเทียมน่ะสิ แหม่งๆนะ)
ผมเสนอแบบนี้ครับ จบเลย ทุกคนผาสุขด้วย
“กสทช.ให้อิสระผู้ผลิตกล่องเลือกช่อง 1-12 เองเพื่อเปิดโอกาสให้เขาแข่งขันกัน “เรียงช่องเรียกแขก” แย่งคนดูซื้อกล่อง จากนั้นต้องต่อด้วย “ทีวีดิจิตอลเพื่อธุรกิจทั้ง 24ช่อง” เลข 13-36 เพื่อให้ “ทั้งประเทศเรียกเลขช่องเดียวกัน” แล้วค่อยต่อด้วย “ทีวีสาธารณะ” ซึ่งในปัจจุบันมีผู้แสดงตัวเพียง 4ช่อง 3ราย คือ ททบ.5/ช่อง11และไทยพีบีเอส เหตุที่สมควรจะอยู่หลังทีวีธุรกิจก็เพราะจำนวนสถานีมีแค่4 ไม่ครบ 12 เอาไปยัดไว้ข้างหน้าก็ต้องพูดภาษาชาวบ้านว่า “งงตายห่า” ครับ
กสทช.ใช้แนวทางนี้ รับรอง “หล่อ”ครับ และผาสุขกันทั้งผอง ผู้ผลิตกล่องมีอิสระใน 12 ช่องแรกก็เปิดโอกาสให้เขาทำมาหากินเพิ่ม เอาเลขช่องเดี่ยวๆ ไปขายสถานีดังๆเพื่อเพิ่มรายได้ ไม่ต้องใช้ดีแทคเขาก็แฮปปี้ (ประชาชนอาจมีสิทธิ์ดูช่อง 3/7/9 ที่เลขเดิมด้วยนะ ฮ่าๆ)
ปิดท้ายวกกลับมาบอกผู้ชมว่าทีวีดิจิตอลหาใช่หาดูยากครับ มันจะรับชมได้ง่ายมากๆเพราะ
1.ตามกฏ Must Carry ทีวีดาวเทียมและเคเบิ้ลทุกเจ้า “ต้องให้บริการ” ทีวีเหล่านี้ในทุกรูปแบบการให้บริการของตน คนที่บ้านติดจานดาวเทียม/เคเบิ้ลแล้ว “ได้ดูโดยอัตโนมัติ” โดยไม่ต้องขวนขวายใดๆ กดปิด-เปิดเครื่องใหม่ ช่องใหม่ๆมาปรากฏทันที (ในประเภทกล่องชนิด OTA คืออัพเดทตัวเองได้) แต่กล่องธรรมดาต้องกด Scan หาช่องใหม่เอง (นาทีทองของคุณช่างทีวีทั่วไทย รับทรัพย์กันอีก) หากเป็นกล่อง HD อย่าง GMMZ HD ช่อง 30-36 จะ “ชัดมากมาย” เป็นพิเศษ
2. ทีวีใหม่ที่จำหน่ายตามห้างตั้งแต่บัดนี้ ได้ฝังชิป DVB-T2 เพื่อเป็น Digital Tuner รับสัญญาณภาพได้เลยโดยไม่ต้องผ่านกล่องใดๆให้ปวดหัว แต่หากคุณซื้อทีวีมานานแล้วและไม่ได้ติดจานดาวเทียม/เคเบิ้ล ก็หากล่องรับสัญญาณ DVB-T2 มารับภาพซะและเสียบสาย(ที่มีให้เลือกทุกชนิดรู) เข้าตูดทีวี (ขอใช้ศัพท์บ้านๆให้เข้าใจ) ในอนาคตผมคาดว่าจะมี “ทีวีพกพาหรือมือถือดูทีวีที่ติดตั้งชิปนี้ไว้ด้วย เปิดปุ๊ปสัญญาณชัดเวอร์ๆเข้าปั๊บไม่ต้องพึ่ง 3G/4G ก็ดูเพลินครับ
แค่นี้ก่อนนะ คาดว่าหน้ากระดาษไม่พอแล้ว
หนุ่ยรู้โลกรู้#87 ประจำวันที่ 4 มีนาคม 2557
ขอขอบคุณ: หนังสือพิมพ์ คม ชัด ลึก