หลังจากวางจำหน่าย Stellar Blade ไปอย่างสวยงาม พร้อมประกาศครบรอบ 1.5 ปี GODDESS OF VICTORY: NIKKE เกมมือถือแนว Arcade Shooting สุดฮิต หลายคนน่าจะทราบแล้วว่าทั้งสองเกมพัฒนาโดยบริษัทจากเกาหลีที่โดดเด่นมากในเรื่องอาร์ตดีไซน์ SHIFT UP Corp. แต่รู้หรือไม่ว่าสองเกมนี้ไม่ใช่เกมแรกของพวกเขา พวกเขาเป็นใคร และทำไมถึงกล้ากระโดดจากการทำเกมมือถือมาทำเกม AAA Single Play จบในตัว วันนี้มารู้จักกับ “SHIFT UP สตูดิโอเกมสุดเท่ จากแดนเกาหลี”
SHIFT UP Corp. ค่ายเกมมือถือสุดโดดเด่น จากเกาหลีใต้
SHIFT UP หรือ SHIFT UP Corporation ถูกก่อตั้งโดยคุณ คิม ฮยุง แท (Kim Hyung Tae) ผู้เป็นออกแบบดีไซน์เกมดัง ๆ มากมายในอดีตจากเกาหลีเช่น War of Genesis, MagnaCarta และเป็น Art Director ให้กับเกมดังในไทยอย่าง Blade & Souls ซึ่งในปี 2013 เขา และคุณ KyungRip Min ได้เริ่มก่อตั้งบริษัท SHIFT UP Corporation ขึ้นมาครั้งแรก ซึ่งโปรเจกต์แรกของพวกเขาคือเกมมือถือที่ชื่อว่า Destiny Child และเป็นผลงานจากทีม SHIFT UP – First Child Studio หรือก็คือทีมดั้งเดิมตั้งต้นนั่นเอง
Fun Fact กันนิดหน่อย สำหรับใครที่เล่นเกมของค่าย น่าจะเคยเห็นคำว่า First, Second, Third กันเวลาเข้าเกม ซึ่งจริง ๆ แล้วมันมีความหมายมาจากลำดับของการเริ่มพัฒนาตัวเกม ตามด้วยชื่อเกมนั่นเอง อย่างโปรเจกต์แรกจะพัฒนาโดยทีม First Child Studio ของ Destiny Child ทีมที่สอง (ที่ประกาศ) คือ Second EVE Studio พัฒนา Project EVE หรือ Stellar Blade และทีมสุดท้าย Third Nikke Studio หรือทีมพัฒนาเกม NIKKE นั่นเอง ซึ่งแต่ละสตูก็มีแนวทางของเกมแตกต่างกันไป รวมถึงมีออฟฟิศที่ตั้งแยกกันด้วย ด้านในออกแบบด้านในแตกต่างกันไปด้วยนะ สวยงามมาก
ซึ่งเกมแรกอย่าง Destiny Child ที่เปิดให้บริการในปี 2016 (ใช้เวลาพัฒนาประมาณ 3 ปี) ของพวกเขาก็ทำชื่อเสียงอย่างมาก จากเป็นเกมที่เปิดให้บริการแค่ในเกาหลีอย่างเดียว ก็ถูกให้ความสนใจโดย LINE ของญี่ปุ่น ทำให้ตัวเกมได้เปิดให้บริการในญี่ปุ่นโดยมี Publisher เป็น LINE ด้วย และตามมาด้วยเซิฟ Global ในภายหลัง ซึ่ง ณ ตอนนั้นก็มีการทำตลาดในประเทศไทยด้วย และล่าสุดก็ได้เปิดตัวลงไปในปลายปี 2023 ทำให้ตัวเกมดำเนินเปิดให้บริการมายาวนานมากถึง 7 ปี ซึ่งก็ถือว่ายาวนานมาก สำหรับเกมมือถือ
ต่อมาจากความสำเร็จของ Destiny Child ก็ต่อยอดเกมออกมาทันที ในปี 2019 ทางค่ายได้เปิดเผยว่ากำลังพัฒนาเกมอยู่สองโปรเจกต์ นั่นคือ Project EVE และ Project NIKKE ตามลำดับ ซึ่ง ก็อย่างที่ทราบกัน Project EVE แต่แรกเริ่มเดิมทีเป็นโปรเจกต์สำหรับเกม PC /Console จนกระทั่ง Sony เข้ามาเป็น Publisher และสนับสนุนตัวเกม ทำให้เกมเปลี่ยนมาลง PS5 แบบ Exclusive และเปลี่ยนชื่อเป็น Stellar Blade ส่วน Project NIKKE ก็กลายมาเป็นเกม GODDESS OF VICTORY: NIKKE ที่เป็นหนึ่งในเกมมือถือสุดฮิตในปัจจุบันนั่นเอง
โดยสองเกมที่ออกมาก่อนหน้าที่คนรู้จักกันเป็นอย่างดีตามลำดับก็คือ Destiny Child ในปี 2016 และ NIKKE ในปี 2022 นั่นเอง ซึ่งทำให้โลกรู้จักกับชื่อของ SHIFT UP กันเป็นอย่างดีในฐานะผู้พัฒนาเกมมือถือชื่อดัง จนกระทั่งปีนี้ในปี 2024 ก็เป็นตาของ Stellar Blade เกมแหวกแนวค่ายที่ออกมาให้โลกได้ลิ้มลองกันเสียที
ความโดดเด่นของ SHIFT UP
ความโดดเด่นของ SHIFT UP ที่หลายคนน่าจะสังเกตได้คือการดีไซน์ตัวละครนั่นเอง กว่า 7 ปีที่ Destiny Child ได้โลดแล่นอยู่ในวงการเกมมือถือ น่าจะมีตัวละครกว่า 1,000 – 2,000 ตัวละครที่ถูกสร้างออกมาเพื่ออัปเดตเนื้อหาให้กับตัวเกม และแต่ละตัวละครมีความโดดเด่นในตัวอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นตัวละครเดิมที่ถูกนำมารีดีไซน์เป็นร่างใหม่ หรือแม้แต่การ Collabs กันของค่ายกับ IP อื่น ๆ อย่าง Hatsune Miku หรือ Dead or Alive หรือ Beatless ก็มีลวดลายของความเป็นดีไซน์ของ SHIFT UP อยู่ในนั้นด้วย
ซึ่งลายเส้นพวกนี้หลายคนที่เคยเล่นเกมเก่า ๆ อย่าง Magna Carta: Tears of Blood หรือ Blade & Souls มา ก็น่าจะอ๋อได้ไม่ยาก เพราะแน่นอนว่าตัวละครเหล่านี้ดีไซน์ และควบคุมโดยคุณคิมหมดเลยนั่นเอง
โดยจุดเด่นอีกจุดนอกจากการดีไซน์ตัวละครที่โดดเด่นแล้ว ยังมีเรื่องของการทำ Live 2D ที่ค่อนข้างใส่ใจในรายละเอียดด้วย ในช่วงปีเดียวกันอย่างปี 2016 น้อยเกมมือถือมากที่จะทำหน้าต่างตัวละครแบบขยับได้ ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นรูป illustrated นิ่ง ๆ ไม่มีการขยับอะไรเท่าไหร่ กลับกัน เกมอย่าง Destiny Child กับเติมเต็มกราฟิกแบบ 2 มิติให้ดูลื่นไหวได้ด้วยการทำกราฟิกแบบ Live 2D มันทำให้อาร์ตที่มันโดดเด่นอยู่แล้ว ดูโดดเด่นขึ้นไปอีกจากการใส่ใจในการทำ motion แบบ 2 มิติให้กับตัวละครทุกตัว ในทุกหน้าต่าง
ซึ่งเกมล่าสุดอย่าง NIKKE ล่าสุดที่ถึงแม้จะเปลี่ยนแนวไปเป็น Shooting Arcade ก็ยังมีจุดขายในเรื่องของ Live 2D อยู่เช่นกัน เป็นเกมที่ทำยอดดาวน์โหลดทะลุ 25 ล้านดาวน์โหลดบนทุกแพลตฟอร์มได้ในเวลาเพียง 3 เดือนเท่านั้น ถือว่าประสบความสำเร็จสุด ๆ ซึ่งนับจากปี 2022 เกมก็ยังอัปเดตมาอย่างต่อเนื่อง พร้อมกับเนื้อหาใหม่ ๆ ทุก 2 อาทิตย์ (ขยันออกตัวใหม่มาก) แต่ถึงแม้ว่าสไตล์หลักของคุณคิมจะดูจางหายไปบ้างในเกมอย่าง NIKKE แต่คุณคิมก็ยังคงหัวเรือในการเป็น Art Director อยู่เช่นเดิม แค่แนวทางในการออกแบบอาจจะดูแตกต่างจากเกมทั้งหมดที่ผ่านมา รวมถึงดีไซนเนอร์ตัวละครแต่ละตัวก็มีคนที่เข้ามาร่วมออกแบบหลากหลายด้วย
แล้วทำไมถึงกล้ากระโดดไปทำเกม AAA แบบ Single Player?
"การพัฒนาเกมคอนโซลในเกาหลีนั้นมีประวัติศาสตร์ไม่ยาวนาน ตลาดเกมหันไปเน้นที่บนแพลตฟอร์มมือถือมากขึ้น โดยเกมแนว live-service กลายเป็นมาตรฐานของการพัฒนาเกม เราต้องการสร้างเกมรูปแบบ "one complete game" ที่สามารถแข่งขันได้ในระดับโลก" กล่าวโดย SHIFT UP
เจตจำนงค์ของ Stellar Blade เกิดจากการตั้งคำถามของคุณคิม ว่าถ้าเกิดมนุษย์นั้นถูกแทนที่ได้ง่ายดาย เหมือนกันที่การที่เริ่มมี AI ขับรถยนต์ได้ คนขับแท็กซี่ก็จะถูกแทรกแทรงงาน ถูกทดแทนได้ในอนาคต ถ้าเกิดว่ามนุษย์สามารถถูกแทนที่ได้แบบสิ้นเชิง มันแปลว่าอะไรกันนะ?
ซึ่งแน่นอนว่าไอเดียนี้ก็ถูกนำไปรวมกับความตั้งใจของ SHIFT UP เองที่อยากจะทำเกมคุณภาพระดับคอนโซลแบบเล่นจบได้ในตัวให้โลกได้เห็นด้วยเช่นกัน มันก็เป็นจุดหนึ่งที่ตอบแทนตัวของ SHIFT UP เองได้ว่า พวกเขาสามารถทำได้จริง ๆ จากเสียงตอบรับหลังจากที่ Stellar Blade วางจำหน่าย และคะแนนรีวิวที่เรียกได้ว่าอยู่ในระดับสูงจากสื่อชั้นนำมากมาย รวมถึง Thailand Game Show เองที่ให้คะแนนไปมากถึง 8.7/10
ถือว่าเป็นความท้าทายอย่างมาก ที่การที่บริษัทที่เคยพัฒนาแต่เกมมือถือจะกระโดดไปทำอะไรที่แหวกแนวตัวเองอย่างมาก จากเกมแบบเกมการ์ดอย่าง Destiny Child และเกม Shooting Arcade มือถือ มาเป็นเกม Action RPG ฟอร์มยักษ์ แถมยังทำได้ออกมาอยู่ในระดับที่พูดได้ว่าดีเลย
ปิดท้ายกันด้วยการสปอยล์ว่า SHIFT UP กำลังทำเกมใหม่อีกเกมหนึ่งโดยมีรายละเอียดว่า Cross Platform Next-Gen Project ซึ่ง ณ ตอนนี้ยังไม่มีการเผยรายละเอียดใด ๆ นอกจากข้อมูลในหน้ารับสมัครงานว่าตัวเกมจะใช้ Unreal Engine ซึ่งใครเป็นแฟน NIKKE หรือ Stellar Blade ก็คงต้องติดตามกันนะครับ