Marvel Rivals เกม Super Hero Team-based PVP Shooter นำซูเปอร์ฮีโรมาซัดกันนัว ที่ปัจจุบันมี Roster ทั้งสิ้น 33 ตัว แต่ความยากง่ายในการเล่นนั้นแตกต่างกันราวฟ้ากับเหว และมันคงจะไม่ดีแน่หากคุณเผลอไปหยิบตัวที่มันต้องใช้สกิลเพลย์สูงจนท้อแล้วเลิกไปเสียก่อน ผู้เขียนเลยคัดมาให้ 10 ตัวละครที่เหมาะกับมือใหม่มาก ๆ แต่อย่าประมาทเพราะบางตัวก็เก่งจนเป็นฮีโรที่ถูกหยิบมาใช้ในแรงก์แมตช์บ่อยและมีอัตรา Win-rate สูงเลยทีเดียว ! มาดูกันว่ามีฮีโรตัวไหนกันบ้าง ?
1. Dr. Strange
แปลกใจเหมือนกันที่เกมนี้ตีความให้เป็นแทงก์ (ในเกมเรียก Vanguard) แต่เอาพอได้เล่นก็รู้สึกว่าสกิลหลายอย่างมันเวิร์กมากและไม่ต้องใช้ Learning Curve อะไรเยอะ ลองเล่น 1 – 2 ตาก็พอจะเข้าใจคอนเซปต์การเล่นแล้ว
– คลิกซ้ายหรือการโจมตีพื้นฐาน ที่สามารถคอมโบกับท่า E (Maelstrom of Madness) ที่จะเป็นท่าดาเมจ 125 แบบ AOE ซึ่งจะแรงขึ้นตามดาเมจของท่าคลิกซ้ายที่เราทำใส่ศัตรูได้ แต่ระวังนิดหนึ่ง หากเราโจมตีศัตรูเยอะเกินจนหลอดที่อยู่ตรง Crosshair ของเราเต็ม 100% Dr. Strange จะเข้าสู่สถานะ Price of Magic ไม่สามารถรับฮีลได้ชั่วระยะเวลาหนึ่ง
– คลิกขวา (Shield of the Seraphim) จะเป็นท่ากางโล่ขึ้นมาด้านหน้าพลัง 800 สามารถรีเจนพลังกลับได้หากไม่ได้กาง แต่ถ้าพังจะต้องรอคูลดาวน์ 3 วินาที และรับดาเมจได้แค่จากทางข้างหน้าเท่านั้น แต่ถ้าเราใช้คู่กับท่า L Shift (Cloak of Levitation) ที่บินขึ้นกลางอากาศได้ราว ๆ 6 วินาที เราสามารถกางโล่เพื่อป้องกันเพื่อนจากอีกฝั่งที่เล่นตัวทำดาเมจบนฟ้าได้นะ (Storm, Ironman ไรงี้)
– สกิล F (Pentagram of Farallah) สุดจะพลิกสถานการณ์ ! เป็นท่าเปิดประตูวาร์ป 2 ตำแหน่งซึ่งเป็นได้ทั้งเข้าและออก ถ้าเลือกจุดดี ๆ มันสามารถกลายเป็นจังหวะเซอร์ไพรส์อีกฝั่งได้เลย หรือจะทำอะไรเกรียน ๆ ก็ได้ เช่น ไปสร้างหน้าประตูของฐานอีกฝั่งให้ปลายเป็นเหว 5555 (แต่เอาจริง ๆ ในแรงก์เกมมันเกิดขึ้นยากมากอะไรแบบนี้)
– สกิลไม้ตาย Q (Eye of Agamotto) เป็นท่า AOE ที่จะสตันต์พร้อมแยกวิญญาณออกจากศัตรู ซึ่งเราสามารถทำดาเมจกับวิญญาณและร่างเนื้อ ! แต่ตอนใช้อาจจะต้องหาจังหวะดี ๆ เพราะมันเป็นจังหวะร่ายที่ขัดง่ายเหมือนกัน
2. Venom
Venom เป็นแทงก์ที่ไม่จำเป็นต้องปกป้องทีมอยู่แนวหน้า เพราะท่าโดยมากจะเน้นไปที่การเอาตัวเองรอด แต่ให้คิดภาพว่าเป็นเหมือนไฟเตอร์ในเกม RoV คือเอาความได้เปรียบในด้านความถึกไปปั่นปวนแผงหลังของอีกฝั่ง
– คลิกซ้าย Venom จะโจมตีศัตรูด้วยหนวด 4 ครั้ง ระยะการโจมตีครอบคลุมใกล้และกลาง โดยสามารถตีติดคริติคอลได้ (ตีโดนหัว)
– คลิกขวา (Cellular Corrosion) จะเป็นการปล่อยรยางค์ไปรัดศัตรูได้หลายตัวพร้อมกันและทำให้เดินช้าขึ้น และหากไม่สามารถหลุดออกจากการโดนรัดตัวได้ (ด้วยการพยายามเดินสวนทางตรงกันข้ามกับ Venom) ก็จะโดนดาเมจ เป็นท่าที่ทำให้ Venom สามารถโจมตีศัตรูได้ง่ายขึ้น เพราะคลิกซ้ายของ Venom มีระยะไม่ไกลมาก
– L Shift (Venom Swing) Venom จะโหนตัวเองไปตามทิศทางที่กำหนดด้วยความรวดเร็ว (แนะนำให้ปิดฟังก์ชัน Easy Swing ในตั้งค่า เพื่อเลือกจุดที่เราต้องการจะโหนเองด้วย Crosshair) สามารถใช้เป็นการเข้าไปดงศัตรูโดยไวก็ได้ โดยในขณะที่อยู่กลางอากาศหากเรากดกด F (Diving Strike) Venom จะพุ่งตัวลงมาที่พื้นและหากโดนศัตรู พวกมันจะกระเด็นขึ้นกลางอากาศ เปิดช่องให้เราตี หรือจะใช้ท่าคลิกขวาอันนี้ก็แล้วแต่เรา เป็นท่าที่ทำให้ Venom พริ้วมากเพราะสามารถทำได้ตั้งแต่เข้าทำด้วยความรวดเร็ว หรือหลบไป Reposition ตัวเอง
– E (Symbiotic Resilience) Venom จะสร้างเกราะขึ้นมา ยิ่งเสียเลือดเยอะ เกราะก็ยิ้งขึ้นมาเยอะ นี่คือท่าที่ทำให้ Venom เป็นตัวละครที่เอาลงได้ยากมากตัวหนึ่ง ซึ่งหากกะจังหวะดี ๆ ในช่วงที่เกราะเราหมดแล้ว เราก็ L Shift หนีไปให้เพื่อนฮีล หรือไปเก็บฮีล แล้วกลับไปนัวใหม่
– Q (Feast of the Abyss) Venom จะมุดลงไปที่พื้น และเลือกจุด AOE ที่จะพุ่งกลับขึ้นมา โดยจะได้รับ HP กลับคืนมาตามจำนวนศัตรูที่เรางับได้ เป็นท่าที่ไม่ได้แรงมาก (แต่ก็ทำให้ตายได้หากโดนพวกตัว DPS หรือฮีลเลอร์) แต่จุดประสงค์ของท่านี้จริง ๆ คือการฟื้นเลือดมากกว่า
3. Groot
ตัวเมนของผู้เขียน (อย่างไม่ได้ตั้งใจเพราะทีมแม่งกดกันมาแต่ DPS !) แทงก์แนวหน้าที่ถึกด้วยการเล่นกับกำแพงต้นไม้ ที่หากวางดี ๆ ก็แทบจะไม่มีเอาเราได้ลงเลย ยิ่งหากคุณหากจุดวางกำแพงต้นไม้ดี ๆ จากแทงก์ก็อาจจะกลายเป็น DPS เลยก็ได้
– คลิกขวา (Spore Bomb) ปาระเบิดสปอร์สร้างความเสียหายแบบ AOE
– L Shift (Thornlash Wall) กำแพงต้นไม้ที่มี 2 ชาร์จ โดยหากศัตรูอยู่ใกล้ ๆ กำแพงแล้วโดนเราหรือเพื่อนในทีมโจมตี ก็จะมีเถาวัลย์งอกออกมาช่วยทำดาเมจ นอกจากจะปิดล้อมวิสัยทัศน์หรือพื้นที่ของศัตรูได้ ก็ยังเป็นท่าช่วยทำดาเมจที่ดีมาก
– E (Ironwood Wall) กำแพงต้นไม้ที่ยังใช้ในการป้องกันดาเมจหรือบังวิสัยทัศน์ศัตรูได้เช่นกัน แต่หากศัตรูอยู่ใกล้ ๆ กำแพงแล้วโดนเราหรือเพื่อนในทีมโจมตีจะเป็นการเพิ่มเกราะชั่วคราวให้กับ Groot แทน
– Q (Strangling Prison) Groot จะยิงเถาวัลย์ขนาดใหญ่ไป แล้วจะรวบศัตรูที่อยู่ตรงหน้าไม่ให้เดินได้ เป็นท่า Set Up ให้ทีมชั้นดี หรือจะทำดาเมจด้วยคลิกขวาของเราก็ได้
4. The Punisher
ตัวละครสาย DPS (ในเกมเรียก Duelist) ที่ผู้เขียนว่าเล่นง่าย สกิลไม่ทำงานซับซ้อน เป็นตัวอย่างที่ดีของ Easy to Learn Hard to Master
– คลิกซ้าย เป็นการโจมตีด้วยปืน Assault Rifle หรือจะสลับไปใช้เป็น Shotgun ก็ได้
– คลิกขวา (Scourge Grenade) พี่แฟรงก์จะกระโดดถอยหลังพร้อมกับปาระเบิดควันไปข้างหน้าเพื่อบังวิสัยทัศน์ของศัตรู เปิดโอกาสให้ทั้งเราและทีมถอยมาตั้งหลักก่อน หรือจะใช้เป็นการสร้างความได้เปรียบก็ยังได้ (และเหมือนจะมีดาเมจด้วยมั้งเพราะจำผู้เขียนเคยปาโดนอีกฝั่งแล้วมันตุย)
– E (Culling Turret) แฟรงก์จะเรียกป้อมปืนขึ้นมาที่สามารถยิงด้วยความเร็วและดาเมจที่สูง อีกทั้งป้อมปืนยังมีเลือดถึง 600 HP แต่ตอนจะใช้แนะนำให้ดูสถานการณ์ดี ๆ เพราะมันจะทำให้แฟรงก์เคลื่อนที่ไม่ได้
– L Shift (Vantage Connection) สร้างซิปไลน์โหนตัวไปอย่างจุดพื้นที่ต่างระดับอย่างรวดเร็วเพื่อหาตำแหน่งที่ได้เปรียบ
– Q (Final Judgement) The Punisher จะเสก Gattling Guns และ Missile Launcher ขึ้นมาเป็นจำนวน 10 วินาที โดยจังหวะนั้นเราจะทำดาเมจได้มหาศาลมาก ๆ ชนิดที่ว่าถ้าแทงก์โดนเรายิง 3 – 4 วิก็ลงไปคุยกับรากมะม่วง
– ส่วนสกิลติดตัวก็ดี คือเราจะเห็นศัตรูหลังกำแพงแวบหนึ่งหากมันหลุดจากวิสัยทัศน์เราไป
5. Star-Lord
Star-Lord ฮีโรสาย DPS ที่คล่องตัวมาก แต่เช่นกันกับ The Punisher คือไม่มีการเล่นที่ซับซ้อนอะไรเท่า DPS ตัวอื่น ๆ (เชื่อเถอะ ไม่มีตัวไหนยากเท่า Spider-Man อีกแล้ว…)
– คลิกซ้าย จะเป็นปืนอัตโนมัติที่มีกระสุน 40 นัด ปืนนี้ลั่นไวมาก แต่ก็รีโหลดไวมากเช่นเดียวกัน
– คลิกขวา (Stellar Shift) หลบหลีกการโจมตีพร้อมรีโหลดปืน โดยมีทั้งสิ้น 2 ชาร์จ หนึ่งในท่าหากินของ Star-Lord คือจะใช้ในการหลบก็ได้ หรือจะใช้ในการรีโหลดเพื่อยิงศัตรูให้ตายก็ได้อันนี้ตามแต่สถานการณ์ เพราะยังไงเราก็ยังมีอีกสกิลที่ใช้ในการหลบหลีกได้เช่นกัน คือ L Shift (Rocket Propulsion) ที่จะทำให้เราพุ่งไปข้างหน้าและเหินขึ้นไปในอากาศ ทำให้สามารถบินไปรอบ ๆ สนามรบได้อย่างอิสระในช่วงสั้น ๆ ที่จะใช้ในการขึ้นไปยัง High-Ground ก็ได้ (เกม FPS ยังไงก็ไม่พ้นกฎความได้เปรียบนี้ละนะ)
– E (Blaster Barrage) ยิงปืนรอบทิศทางที่ทำดาเมจได้แรงมาก เหมาะกับการใช้ในพื้นที่แคบ หรือใช้ 1-1 กับศัตรู
– Q (Galactic Legend) กระโดดขึ้นไปกลางอากาศและเข้าสู่สถานะบินอิสระ แล้วยิงล็อกเป้าศัตรูแบบ Aimbot ! เป็นเวลา 8 วินาที
6. Scarlet Witch
Scarlet Witch ฮีโรสาย DPS ที่ไม่ต้องเล็งยิง แค่เราจะต้องดูดศัตรูในระยะที่กำหนดเท่านั้น (ผู้เขียนเรียกจี่ 5555) แถมยังเกิดมาเพื่อละลายแทงก์ ! เพราะด้วยสกิลติดตัวที่จะยิ่งสร้างความเสียหาย และอัลติที่หากห้ามไม่ทันและตำแหน่งดี ๆ คือมีเก็บทั้งทีม
– คลิกซ้าย จะเป็นการปล่อยกระแส Chaos Magic เข้าสู่เป้าหมายแบบอัตโนมัติโดยไม่ต้องเล็งยิง แต่จะเป็นการจี่ โดย HP ของเป้าหมายจะลดลงเรื่อย ๆ และจะยิ่งแรงเมื่อเราจี่ใส่เป้าหมายที่มี HP เยอะ ๆ หรือก็คือแทงก์
– คลิกขวา (Chtonian Burst) ยิงลูกพลัง Chaos ออกไปคล้ายกับมิสไซล์ที่จะสร้างความเสียหายแบบ AOE โดยสามารถใช้ได้สูงสุด 4 ครั้งติดกัน และจะต้องรอเวลารีชาร์จกลับมา แต่สามารถเร่งให้เร็วขึ้นด้วยการใช้ท่าจี่ (คลิกซ้าย)
– L Shift (Mystic Projection) เมื่อกดใช้ Scarlet Witch จะเข้าสู่สถานะ Phased (ล่องหน) พร้อมทั้งบินชั่วขณะ เป็นสกิลที่ Relocate ได้ดีมาก เพราะมี 2 ชาร์จ อีกทั้งศัตรูจะไม่เห็นทั้งตัวเรา แต่จะเห็นเป็นดวงไฟลอยอยู่
– E (Dark Seal) สร้างลูกพลังออกไป และจะระเบิดเป็นสนามพลังชั่วคราวเมื่อสุดระยะของลูกพลังหรือโดนตัวอีกฝั่งก่อน โดยหากศัตรูอยู่ในอาณาเขตข้างในระยะเวลาหนึ่งจะติดสตันต์ สกิลนี้ไม่มีดาเมจแต่ไว้ใช้ในการช่วยทีมหรือป้องกันตัวเองไม่ให้โดนล้วงได้ดี อีกทั้งเรายังสามารถระเบิดพลังได้เลยด้วยการกด E ซ้ำหลังปล่อยไปแล้ว
– Q (Reality Erasure) บินขึ้นกลางอากาศแล้วทำการชาร์จพลัง Chaos ระยะเวลาหนึ่ง โดยเมื่อครบเวลา ศัตรูที่อยู่ในขอบเขตของสกิลจะโดนดาเมจ 700 ! แต่ระวังไว้หน่อย เพราะเมื่อเรากดสกิลแล้ว เราจะไม่สามารถยกเลิกได้ อีกทั้งเราจะกลายเป็นเป้านิ่งสักพักใหญ่ ๆ ก่อนจะร่ายเสร็จ
7. Squirrel girl
DPS ที่เล่นง่าย มีการยิงแบบ Projectile ก็จริง แต่ไม่ได้เน้นความแม่นยำมากเพราะกระสุนสามารถกระจายโดนศัตรูหลายตัวพร้อมกันได้ อีกทั้งยังมีทักษะการเอาตัวรอด ทั้งการทำให้ศัตรูไม่สามารถไล่ต้อนเราได้ หรือการ Reposition หาจุดในการทำดาเมจใหม่
– คลิกซ้าย ยิงลูกโอ๊กที่สามารถชิ่งโดนศัตรูได้มากกว่า 1 ตัว
– คลิกขวา (Squirrel Blockade) ปาฝูงกระรอกที่หากโดนศัตรูจะไม่สามารถเคลื่อนไหวได้ชั่วขณะ
– L Shift (Tail Boune) กระโดดสูงเพื่อขึ้นไปยังพื้นที่ต่างระดับ หรือจะใช้ในการกระโดดหลับศัตรูที่พุ่งเข้ามาหาก็ได้
– E (Mammal Bond) รีโหลดท่าคลิกซ้าย และสามารถใช้สกิลอะไรก็ได้ (ยกเว้นไม้ตาย) ภายในระยะเวลาของสกิลนี้
– Q (Unbeatable Squirrel Tsunami) ส่งฝูงกระรอกออกไปข้างหน้า ทำดาเมจระดับปานกลาง แต่สามารถชิ่งสิ่งปลูกสร้างได้
8. Rocket Raccoon
Rocket Raccoon ฮีลเลอร์ที่เอาตัวรอดได้เก่งมากทั้งสกิลและ Hit Box ของตัวละคร ชุบชีวิตเพื่อนก็ได้ แถมไม้ตายยังทำให้ทีมไฟต์แข็งแกร่งขึ้นทั้งจังหวะรุกและรับ
– คลิกซ้ายจะเป็นการยิงปืน Gatling Gun กระสุน 45 นัด ยิ่งยิงใกล้ศัตรูจะยิ่งแรง และจะเบาลงตามความห่าง โดยข้อดีของคลิกซ้าย Rocket Raccoon คือสามารถยิงติดคริติคอลได้ (ยิงหัว) แต่ผู้เขียนแนะนำว่าอย่าไปไล่ไถยิงแย่งงาน DPS ล่ะ คิดซะว่าช่วยเพื่อนทำดาเมจเสริมดีกว่า
– คลิกขวา (Repair Mode) ยิงก้อนพลังทรงกลมที่ใช้ในการฮีลเพื่อนร่วมทีมที่อาจจะไม่ได้แรงมาก แต่มันสามารถเด้งไปเด้งมาในฉากได้ 10 ครั้ง นั่นหมายความว่าเราสามารถฮีลเพื่อนได้มากกว่า 1 ครั้งในการยิง 1 นัด !
– กดกระโดดค้าง (Wild Crawl) Rocket จะสามารถไต่กำแพงได้ไม่มีคูลดาวน์ด้วย แต่จังหวะที่ไต่จะได้เคลื่อนที่แค่แนวตั้ง ไม่สามารถเลี้ยวซ้าย-ขวาได้
– L Shift (Jetpack Dash) พุ่งตัวไปข้างหน้าด้วยความรวดเร็วตามทิศทางที่เราหัน สกิลนี้มี 2 ชาร์จ และใช้เวลารีชาร์จเพียง 5 วินาที ถ้าเอาไปผสมการใช้คู่กับถ้าไต่กำแพงคือมีโอกาสที่จะตายน้อยลง
– E (B.R.B) สกิลพลิกเกม โดย Rocket จะโยนเครื่องส่งสัญญาณออกไป ที่จะชุบชีวิตเพื่อนในทีมคนล่าสุดที่ตายได้ 1 คน และในระหว่างที่เครื่องนี้ยังไม่ถูกโจมตีจนพลังหรือหมดเวลา ก็จะผลิตเกราะออกมาให้ทีมเก็บได้ ถ้ารู้สึกว่าอยู่ในจุดที่อีกฝั่งจะหาเจอได้ง่าย ก็สามารถเก็บกลับมาด้วยกด E อีกครั้ง ซึ่งจะต้องรอคูลดาวน์ของสกิล 5 วินาที ถึงจะวางใหม่ได้ แต่ถ้าเครื่องพังเพราะโดนโจมตีจะต้องรอ 45 วินาที !
– Q (C.Y.A) โยนเครื่อง Cosmic Yarn Amplifier ที่จะบูสต์ดาเมจให้ทั้งทีมในระยะของเครื่องที่กว้างพอสมควร เหมาะมากกับจังหวะที่อีกฝั่งพร้อมจะโถมเข้ามา
9. Adam Warlock
Adam Warlock DPS ที่ฮีลได้นิดหน่อย…ยิงแรงมาก ฮีลได้ไม่บ่อยเหมือนตัวอื่น แต่สามารถฮีลเพื่อนพร้อมกันได้หลายตัวในทีเดียว ตายแล้วเกิดใหม่ (ได้ 1 ครั้งต่อคูลดาวน์สกิล) และไม้ตายสามารถชุบชีวิตเพื่อนได้ทั้งทีมหากอยู่ในระยะสกิล !
– คลิกซ้าย ยิง Quantum Magic แรงมาก แถมติดคริติคอลได้ (ยิงหัว) ระยะไม่มีผลต่อความแรง และเป็นการยิงแบบ Hit & Scan ยิงเพลินจนบางทีลืมไปว่าตัวเองเป็นฮีลเลอร์บอกเลย
– คลิกขวา (Cosmic Cluster) ชาร์จ Quantum Magic แล้วยิงออกไปเป็นชุด 5 ลูก ถ้าอีกฝั่งโดนเต็ม ๆ ก็ไปคุยกับรากมะม่วง
– L Shift (Soul Bond) เชื่อมจิตวิญญาณเพื่อนในทีมเพื่อทำการฮีล และเพื่อนที่ถูกเชื่อมจะแชร์ดาเมจให้กัน (ฟังดูเหมือนแย่ แต่มันคือช่วยกันลดดาเมจ)
– E (Avatar Life Stream) ฮีลเพื่อนและตัวเองด้วยการชิ่งพลัง ใช้ได้ติดกันสูงสุด 2 ชาร์จ สกิลรอคูลดาวน์ 6 วินาที/ชาร์จ อาจจะฮีลได้ไม่บ่อยเหมือนฮีลเลอร์ตัวอื่น แต่ข้อดีคือสามารถฮีลเพื่อนได้มากกว่า 1 ตัวในครั้งเดียว ซึ่งความแรงก็ใช้ได้ 95 แน่ะ
– สกิลติดตัว (Regenerative Cocoon) เมื่อ Adam ตาย จะสามารถฟื้นคืนชีพได้ โดยจะสามารถเคลื่อนที่ด้วยการบินไปหาจุดเกิดใหม่ได้ ใช้แก้ตัวได้ดี แต่มีข้อเสียใหญ่ ๆ คือคูลดาวน์ของสกิลติดตัวนี้คือ 105 วินาที
– Q (Karmic Revival) วางจุดชุบชีวิตเพื่อนขึ้นมาที่มีระยะเวลา 10 วินาที ในระหว่างนี้หากเพื่อนตายจะได้ไปเกิดที่จุดสกิล เกิดได้เรื่อย ๆ จนกว่าระยะเวลาของสกิลหมด
10. Jeff the Land Shark
Jeff the land shark ฮีลเลอร์ที่สุดจะน่ารัก เล่นง่าย มีสกิลน้อยไม่ต้องเรียนรู้การใช้อะไรซับซ้อน แถมมีไม้ตายที่โกงมากชนิดที่ว่าเมื่อไหร่เกมจะเนิร์ฟ !?
– คลิกซ้าย (Joyful Splash) พ่นน้ำใช้ในการฮีลเพื่อนซึ่งระยะไกลมาก ! แถมยังทะลุตัวได้ด้วย
– คลิกขวา (Aqua Blast) ยิงกระสุนน้ำใช้ในการโจมตี หากโดนตรง ๆ จะแรงมาก แถมโดนเฉียด ๆ ก็มีดาเมจ
– E (Healing Bubble) พ่นฟองน้ำทรงกลมออกไปที่พื้นได้สูงสุด 6 ลูก หากโดนเพื่อนเลยก็จะฮีลทันที หรือจะรอให้เพื่อนเดินมาเก็บทีหลังก็ยังได้
– L Shift (Hide & Seek) ว่ายลงไปในพื้นเพื่อเคลื่อนที่อย่างรวดเร็ว อีกทั้งยังสามารถไต่ขึ้นกำแพงได้ แต่เรายังสามารถโดนดาเมจได้หากถูกโจมตีใส่คลีปที่โผล่ขึ้นมาในขณะที่ใช้สกิลนี้
– Q (It’s Jeff!) ว่ายลงไปในพื้นแล้วโผล่ขึ้นมาอีกครั้งเพื่อกลืนศัตรูและพันธมิตรที่อยู่ในระยะ โดยในระหว่างที่ใช้สามารถเลือกพ่นศัตรูหรือเพื่อนในทีมขึ้นมาตามบริเวณที่เราเลือกได้ ณ เวอร์ชันนี้ของเกม นี่คือท่าที่โกงมาก ! เพราะเราสามารถอมศัตรูแล้วรีบว่ายไปจุดตกฉากแล้วพ่นพวกมันให้ตกฉากตายได้ แต่อันนี้อาจจะมีโอกาสที่อีกฝั่งอาจจะไม่ตายทั้งหมดในกรณีที่บางตัวมีสกิล Dash หรือลอยได้ วิธีการที่ได้ผลที่สุดคือคุณอมไว้แล้วกระโดดลงฉากไปเลย เราอาจจะตุย แต่อย่างน้อยอีกฝั่งก็ตามคุณไปด้วยแบบชัวร์ ๆ !
และนี่คือ 10 ตัวละครที่เหมาะกับมือใหม่ในเกม Marvel Rivals ซึ่งเอาจริง ๆ ก็ไม่ได้มีสถิติ Win-Rate อะไรมากำกับไว้หรอกครับ หากแต่เป็นการพิจารณาจากผู้เขียนเองจากการทดลองเล่น มีอีกหลากหลายตัวที่เล่นง่ายกว่านี้ โดยที่ตัวเกมมีการแนะนำระดับความยากไว้ให้เลย หรือกระทั่งบางตัวที่ระดับความยาก 4 ดาว แต่พอเล่นจริง ๆ ก็ไม่ได้ซับซ้อนอะไรมาก ขอแค่เราเข้าใจคอนเซปต์ของฮีโรนั้น ๆ เป็นพอ (เช่น Hulk เป็นต้น) สำหรับใครที่สนใจ Marvel Rivals เปิดให้เล่นฟรีแล้วตอนนี้ใน PC (Steam), PlayStation 5 และ Xbox Series X/S