หนึ่งในเกมม้ามืดแห่งปี 2024 อย่าง ‘Astro Bot’ ที่เพิ่งจะออกวางขายบน PS5 โดยก่อนจะเปิดตัวไม่ได้มีกระแสอะไรมากมาย แต่สำนักรีวิวและสื่อที่ได้ลองเล่นต่างชื่นชม และยอมรับว่ามันเป็นเกมแนวแอ็กชันตะลุยด่านที่ยอดเยี่ยมที่สุดในรอบหลายปี บางสื่อถึงขนาดบอกว่ามันสนุก ๆ พอ ๆ กับตำนานอย่าง ‘Super Mario Galaxy’ เกมลุงหนวดภาคที่ยอดเยี่ยมที่สุดเลยด้วยซ้ำ

และหลังจากได้ลอง ‘Astro Bot’ แบบเต็ม ๆ แล้วก็ถือว่าสนุกสมคำร่ำลือ แต่ข้อสงสัยว่ามันจะเหมือนลุงหนวดของ Nintendo หรือไม่ก็ต้องลองมาวิเคราะห์กัน เพราะหากมองภายนอกแล้วมันมีความคล้ายหลายส่วน และวันนี้ทางทีมงาน Beartai ได้ลองเอาสิ่งที่ ‘Astro Bot’ เหมือนกับ ‘Super Mario’ และมีอะไรที่ทำออกมาได้ดีกว่า ไปดูกันว่ามีอะไรที่คล้ายกันบ้าง

ซ้าย Astro Bot ขวา Super Mario Galaxy

งานออกแบบฉาก

ประเด็นที่เหมือนกับ ‘Super Mario Galaxy’ อย่างมากคือการท่องไปในอวกาศ แต่ละฉากจะลอยอยู่ในจักรวาลแบ่งตามดวงดาวเหมือนกัน และหุ่นน้อยของ Sony ก็จะใช้ยานอวกาศท่องไปทั่วแล้วกดเข้าไปเล่น ซึ่งการที่แบ่งออกเป็นดวงดาวทำให้ผู้สร้างออกแบบฉากให้แตกต่างกันโดยสิ้นเชิงได้ และความบังเอิญเล็กน้อยคือมีบางฉากที่มีความคล้ายกันเช่นฉากรังผึ้ง แต่รูปแบบของฉากและการเล่นผ่านจะไม่เหมือนกัน แค่คล้ายในงานออกแบบฉากเท่านั้น

ซ้าย Astro Bot ขวา Super Mario Galaxy

นอกจากนี้มองกันตรง ๆ งานออกแบบด่าน ‘Astro Bot’ ไม่เหมือนลุงหนวดทั้งหมด เพราะเกมแนวตะลุยด่านไปถึงเส้นชัยแบบ 3D มันก็คล้ายกันหมด และแม้จะมาในธีมอวกาศแต่ฉากในเกมก็ไม่ได้มาทรงกลมเหมือนกับ ‘Super Mario Galaxy’ ทีมงานของ Sony มีการออกแบบฉากให้แตกต่างและใช้ลูกเล่นแปลก ๆ ที่ไม่ซ้ำกัน

แต่ที่ทำให้ ‘Astro Bot’ แตกต่างและอาจจะดีกว่า ‘Super Mario’ คือความรวดเร็วในการเล่นที่มีการออกแบบเกมเพลย์ในบางฉากที่เร็วมากจนแทบไม่มีเวลาให้ผู้เล่นคิด และทำออกมาได้กลมกล่อมและสนุก แตกต่างจากลุงหนวดที่จะมีเวลาให้ผู้เล่นหายใจหายคอได้มากกว่า ซึ่งก็ไม่ใช่ข้อเสีย แต่หากชอบอะไรรวดเร็วทันใจคนรุ่นใหม่ ‘Astro Bot’ มีเหนือกว่ามาก

ความสามารถพิเศษที่มีบางส่วนคล้ายกัน

อีกส่วนที่เป็นไอเดียที่โดดเด่นของ ‘Astro Bot’ คือความสามารถพิเศษของตัวละคร (Gadgets) ที่แต่ละฉากจะไม่เหมือนกันเลย และออกแบบมาเพื่อใช้ในด่านนั้น เช่น การใช้สวิงไล่จับน้องลิง หรือใช้มือสปริงที่สามารถไปจับสิ่งของเพื่อปาใส่ศัตรู และยังมีอะไรแปลก ๆ มากมายซึ่งบางส่วนเป็นงานออกแบบใหม่จริง ๆ ไม่ได้ซ้ำกับใคร

ซ้าย Astro Bot ขวา Super Mario Galaxy

แต่ก็มีบางส่วนที่คล้ายกับ ‘Mario’ เช่นพลังการใช้เครื่องดูดของเหลวบนพื้น แล้วมาสร้างเป็นพื้นให้ตัวละคร Astro Bot กระโดดไปเหยียบได้ แต่จะใช้ได้จำกัด ซึ่งใน ‘Super Mario Galaxy’ ก็จะสิ่งที่คล้ายกันเรียกว่า “ชุดเมฆ” ที่สามารถสร้างเมฆให้เราได้กระโดดไปเหยียบได้ คนที่ได้เล่นแล้วทั้ง 2 เกมคงจะพบว่ามันมีอะไรที่คล้ายกันมาก และยังมีอีกหลาย Gadgets ที่คล้ายซีรีส์ Mario ด้วยแต่อาจจะไม่เหมือนแบบ 100% ทำให้โดยรวมจะเรียกว่าลอกไม่ได้

ซ้าย Astro Bot ขวา Super Mario Sunshine

รูปแบบบางอย่างเหมือนกันแบบตั้งใจ

แอ็กชันหลักของ ‘Astro Bot’ ที่ใช้ได้ตั้งแต่เริ่มต้นที่ทุกคนต้องใช้ไปตลอดการเล่น คือการใช้พลังยิงแสงจากขาเพื่อลอยตัวกลางอากาศได้ระยะเวลาหนึ่ง ซึ่งในเกมนำเสนอเป็นลำแสงพุ่งลงพื้นเหมือนกับปืนฉีดน้ำ ซึ่งรูปแบบเกมเพลย์นี้เหมือนกับการใช้ปืนฉีดน้ำ F.L.U.D.D.ในเกม Super Mario Sunshine แบบที่เถียงไม่ได้ว่าไม่เหมือนกัน

ส่วนการโจมตีหลักที่ ‘Astro Bot’ จะใช้การต่อยศัตรู และสามารถชาร์จพลังเพื่อหมุนตัวได้ ตรงนี้อาจจะมองว่าคล้ายกับการโจมตีของ ‘Mario 64’ และ ‘Mario Galaxy’ แต่หากมองกันตรง ๆ แบบไม่ได้เข้าข้างใคร มันไม่จำเป็นต้องเทียบกับลุงหนวดก็ได้ เพราะรูปแบบของแอ็กชันแบบนี้เกมแนว 3 มิติก็ใช้กันหลายเกมมาก บางเกมมาก่อน ‘Super Mario’ ด้วยซ้ำ ซึ่งส่วนนี้คิดว่าผู้สร้างไม่ได้ตั้งใจทำให้เหมือน

อีกประเด็นที่บางอย่างเหมือนกันคือการต่อสู้กับศัตรูระดับบอส ที่มีทั้งตัวเล็กและขนาดยักษ์ แต่ในบทความนี้ขอไม่เทียบความสนุก แต่มีหลายคนตั้งข้อสังเกตว่าบอสบางตัวมีการต่อสู้และรูปแบบที่คล้ายกับ ‘Super Mario’ เพราะเราต้องค่อย ๆ ต่อสู้ที่ละจุดและหาจุดอ่อนเพื่อจัดการแบบเป็นแพตเทิร์น ซึ่งหากมองว่ามันเหมือนก็ได้ แต่หากจะให้ความยุติธรรมกับผู้สร้างก็เหมือนกับแอ็กชันหลัก ที่การต่อสู้กับบอสแบบนี้เกมตะลุยด่าน 3D ก็ใช้กันหมด จึงไม่แปลกที่จะพบเจอรูปแบบนี้ แต่บอกไว้ก่อนเลยว่า ‘Astro Bot’ การต่อสู้กับบอสบางตัวสนุกมากและมีแพตเทิร์นที่ไม่ซ้ำใคร

สรุปแล้วบังเอิญหรือตั้งใจเหมือน

เกม ‘Astro Bot’ เหมือน ‘Super Mario’ หรือไม่ก็บอกตรง ๆ ไม่อ้อมค้อมว่า “เหมือน” แต่จะเป็นการลอกเลียนแบบหรือไม่ก็ต้องบอกว่า “ไม่” เพราะคำว่าแอ็กชันตะลุยด่านแบบนี้ใคร ๆ ก็สามารถทำได้ ลิขสิทธิ์ไม่ได้เป็นของ Nintendo และในอดีตก็มีคนพยายามเดินตามแนวทางนี้มาตลอด แต่ไม่มีใครทำได้เทียบเท่า ‘Mario’ แต่ ‘Astro Bot’ ทำได้ใกล้เคียงและสนุกไม่แพ้กัน ซึ่งใครเป็นแฟนลุงหนวดก็อยากให้ลอง รับประกันต้องติดใจ