เรียกว่าเป็นประเด็นดราม่าเดือดไปทั่วโลกหลังจาก PS5 Pro เปิดตัว พร้อมราคาขายระดับ 700 เหรียญ ซึ่งถือว่าสูงมาก เพราะมันไม่มีไดรฟ์ Ultra HD Blu-ray และไม่มีขาตั้งเครื่องแถมมาให้ ต้องซื้อเพิ่มทั้งหมดทำให้ราคาขาย (ในอเมริกา) โดยรวมแล้วต้องแพงถึง 810 เหรียญ (รวมช่องใส่แผ่นและขาตั้ง) ถือว่าเป็นราคาขายเครื่องเกมคอนโซลที่แพงอย่างมาก

เพราะโมเดลการทำธุรกิจคอนโซลจะต้องขายเครื่องเกมราคาไม่แพง โดยตั้งแต่ในอดีตการมาของคำว่า “เกมคอนโซล” คือการเล่นเกมที่มีราคาไม่สูง เพราะหากมีราคาเครื่องที่แพงมากจนเกินไปก็ไปเล่นเกมบน PC น่าจะดีกว่า ค่ายเกมผู้สร้างคอนโซลมักจะขายราคาเท่าทุนหรือไม่ก็ขาดทุนเลย เพราะมันสามารถหารายได้จากส่วนอื่นมาชดเชยได้ เช่น ขายซอฟต์แวร์เกม และการขายอุปกรณ์เสริมที่ทำเงินมากกว่าขายเครื่องเกม

แล้วทำไม PS5 pro ราคาถึงได้เปิดตัวแรง ประเด็นก็มีหลายอย่าง ทั้ง Sony คงจะไม่อยากขายราคาขาดทุนหรือกำไรน้อยอีกแล้ว และต้นทุนสร้างที่สูงขึ้นตามค่าเงินที่เปลี่ยนไป ทำให้ไม่แปลกที่ต้องเพิ่มราคาขาย แต่สำหรับแฟนเกมในยุคนี้ที่เงินทองหายากกว่าเดิม ทำให้การซื้อหาเครื่องเกมมาเล่นก็ต้องคิดให้มากกว่าเดิม วันนี้ทีมงาน Beartai มาลองวิเคราะห์ว่ามันคุ้มค่าหรือไม่กับเงินเกือบ 30,000 บาท สำหรับการอัปเกรดกราฟิกครั้งนี้

สเปกโดยรวมเท่าที่รู้

สเปกเต็ม ๆ ของคอนโซลอัปเกรด PS5 Pro แบบละเอียดอาจจะยังไม่ได้เปิดข้อมูลออกมา แต่เท่าที่รู้คือในส่วนของ CPU จะใช้ Zen 2 ซึ่งเหมือนกับ PS5 รุ่นปรกติ แต่มีการปรับแต่งให้แรงกว่าเดิม ส่วน GPU ของ PS5 Pro ทาง Sony ระบุว่ามันแรงกว่าเดิม 45% ส่งผลให้ทำ Ray Tracing ได้ดียิ่งขึ้น และในส่วนของหน่วยความจำที่เร็วขึ้นมากถึง 28%

และยังมาพร้อมกับฟีเจอร์ PSSR (PlayStation Spectral Super Resolution Upscaling) ที่ตามชื่อคือการอัปสเกลกราฟิกให้ดูดียิ่งขึ้น นอกจากนี้จุดขายที่ Sony คุยไว้คือการเพิ่มเฟรมเรตของเกมให้ลื่นไหลยิ่งขึ้น โดยคุยว่าเกมจะรันด้วยเฟรมเรตระดับ 60FPS นิ่ง ๆ ในความละเอียดกราฟิกระดับ 4K และยังมีการนำระบบ AI ที่เรียกว่า AI Accelerator ซึ่งทำให้การเล่นลื่นไหลขึ้นกว่าเดิมมากถึง 45%

กราฟิกอัปเกรดขึ้นแต่ไม่มากนัก

แต่สเปกที่เขียนในกระดาษไม่เท่ากับสิ่งที่ Sony ในเสนองานคลิปวิดีโอ ที่มีการโชว์เกมเพลย์ที่รันบน PS5 Pro ที่เปิดโหมดอัปเกรดกราฟิกแล้ว ซึ่งในส่วนนี้มองว่ามันแตกต่างกันน้อยมากทั้ง ๆ ที่เป็นคลิปที่สร้างมาเพื่อโปรโมตซึ่งปกติแล้วต้องเห็นความแตกต่างอย่างชัดเจน แต่ในคลิปต้องซูมภาพและต้องมานั่งเพ่งมองอย่างตั้งใจถึงจะเห็นว่าบน PS5 Pro มันชัดกว่า (เล็กน้อย)

ซึ่งในส่วนนี้ส่วนตัวมองว่ามันไม่จำเป็นเลย เพราะระหว่างที่เรากำลังสนุกกับเกมแอ็กชันที่มีความเร็วสูง ใครจะมานั่งซูมภาพเพื่อมองว่าป้ายโฆษณาในฉากที่มันดูคมชัดขึ้น ซึ่งส่วนนี้ไม่ได้เกี่ยวข้องกับเกมเพลย์เลย ยิ่งเทียบกับราคาที่ต้องจ่ายเพิ่มแล้วมันยิ่งไม่คุ้ม แต่สิ่งที่น่าจะดีสำหรับเกมเพลย์คือเฟรมเรตที่หากทำได้ตามที่โปรโมตไว้จริง ๆ น่าจะเป็นประโยชน์กับคนที่ชอบเล่นอะไรลื่น ๆ มากกว่าจะมานั่งจับผิดมองว่ากราฟิกตรงไหนชัดขึ้นบ้าง

ช่องใส่แผ่นเกมและขาตั้งเครื่องจำเป็นหรือไม่ ?

ส่วนประเด็นดราม่าหลัก ๆ ไม่ได้อยู่ที่ราคาเพียงอย่างเดียว เพราะมันต้องเสียเงินเพิ่มเพื่อซื้อช่องไดรฟ์ Ultra HD Blu-ray หากไม่ซื้อก็ต้องเล่นเกมผ่านระบบดิจิทัลดาวน์โหลดเท่านั้น ส่วนนี้สายเก็บแผ่น Blu-ray ต้องไม่ถูกใจสิ่งนี้ เพราะว่าหากคุณสะสมแผ่น PS5 ไว้ต้องเสียเงินเพิ่มอีก 80 เหรียญ และราคาไทยสูงถึง ราคา 3,790 บาท ถือว่าเป็นสิ่งที่ Sony ไม่ควรขายแยก

จริงอยู่ในยุคนี้การซื้อเกมแบบดิจิทัลแซงหน้าการขายแบบแผ่นไปแล้ว แต่เชื่อว่ายังมีแฟนเกมจำนวนมากที่มีแผ่นเกม PS5 อยู่ในคอลเลกชัน ซึ่งหากแฟนกลุ่มนี้จะซื้อ PS5 Pro ก็ต้องเสียเงินเพิ่มอีก ทำให้ไม่น่าแปลกใจที่หลายคนจะออกมาบ่น นอกจากนี้สิ่งที่น่าผิดหวังอีกข้อคือการไม่แถมขาตั้งมาให้ ซึ่ง PS5 รุ่นปกติมีการแถมมาในกล่องเลย นอกจากนี้ราคาขาตั้งก็ไม่ถูก เพราะมีราคาขายสูงถึง 1,000 บาทกันเลย

คุ้มหรือไม่ถามกระเป๋าเงินคุณดู

อย่างที่บอกไปว่าหากจะทำให้ PS5 Pro สมบูรณ์แบบก็ต้องเสียเงินรวมประมาณ 810 เหรียญ และยังไม่ใช่ราคาที่ขายในประเทศไทย แถมมันอาจจะพบปัญหาการรีเซลทำให้ราคาพุ่งสูงขึ้นอีกในช่วงแรกที่เปิดตัววางขาย ส่วนคำถามว่ามันจะคุ้มค่าหรือไม่ ก็บอกเลยว่าหาก “เงิน” ไม่ใช่ปัญหาของคุณก็ซื้อได้เลย เพราะจะได้คอนโซลที่อาจจะเรียกได้ว่าแรงที่สุดในยุคนี้

ซ้าย PS5 ขวา PS5 Pro

แต่หากอยากได้สิ่งที่คุ้มค่าก็ต้องมาประเมินว่าสิ่งที่ได้มาเมื่อเทีบบกับเงินที่เสียไปคุ้มหรือไม่ เช่น กราฟิกที่ดูดีขึ้นเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้จำเป็นต่อเกมเพลย์ และเฟรมเรตที่ช่วยให้การเล่นดีขึ้น แต่บอกตรง ๆ PS5 ธรรมดาก็น่าจะเพียงพอแล้ว ซึ่งหากคุณยังไม่มี PS5 และอยากหาคอนโซลดี ๆ ไว้เล่นเกมก็ซื้อรุ่นธรรมดาก็ได้ เพราะตอนนี้ราคาถือว่าไม่แพงและหาซื้อได้ง่ายแล้ว

ส่วนถ้าหากคุณมี PS5 ตัวธรรมดาอยู่แล้วก็ต้องถามว่าความคมชัดของกราฟิกจำเป็นต่อคุณมากน้อยแค่ไหน และทีวีที่บ้านรองรับกราฟิกที่มีความคมชัดระดับสูงหรือไม่ นอกจากนี้ต้องถามเพิ่มว่าคุณเป็นสายเก็บแผ่นเกมหรือซื้อแบบดิจิทัลดาวน์โหลด แล้วนำมาหักลบกับราคาขายของ PS5 Pro ดูว่าคุ้มค่าพอที่จะเสียเงินเพิ่มหรือไม่ แต่ที่แน่ ๆ ต่อไปเราคงไม่ได้เห็นเครื่องเกมคอนโซลราคาถูกอีกต่อไปแล้ว