ในระหว่างการสัมภาษณ์ อาริน ฟลินน์ (Aaryn Flynn) อดีตทีมงาน BioWare เผยว่า The Witcher 3 ดีกว่า Dragon Age: Inquisition ในแง่ของคุณภาพเกม

ทั้ง The Witcher 3 กับ Dragon Age: Inquisition เป็นเกมแนว RPG แฟนตาซีเหมือนกัน เพียงแค่แต่ละเกมมีจุดเด่นที่แตกต่างกัน The Witcher 3 จะเน้นการดำเนินเนื้อเรื่องผ่าน Geralt ขณะที่ Dragon Age: Inquisition ให้ผู้เล่นสามารถออกแบบตัวละครภายในเกมได้

The Witcher 3 ใช้ REDengine ส่วน Dragon Age: Inquisition ใช้ Frostbite แบบเดียวกับที่ใช้พัฒนา Battlefield

Dragon Age: Inquisition ถูกพัฒนาให้ลง PlayStation 3 กับ Xbox 360 ก่อนเพิ่ม PlayStation 4 กับ Xbox One เข้ามาตอนหลัง ส่วน The Witcher 3 มุ่งเน้นพัฒนาให้กับเครื่องเกมยุคใหม่อย่าง PlayStation 4 กับ Xbox One เป็นหลัก

อาริน ฟลินน์เผยว่าในแง่ของเทคโนโลยี Dragon Age: Inquisition ไปได้ไม่สุด เมื่อเปรียบเทียบกับ The Witcher 3 ที่ทำให้ผู้เล่นได้ดื่มด่ำไปกับเกม RPG แฟนตาซีได้อย่างเต็มที่ ฟลินน์ตั้งข้อสังเกตในช่วงของการพัฒนา พวกเขาถูกลดคุณภาพในการทำงานลง ซึ่งทำให้พวกเขาไม่สามารถทำ Dragon Age: Inquisition ออกมาในอย่างที่ควรจะเป็น และปัญหาหลักมาจาก Frostbite เอนจินที่ใช้ในการพัฒนาเหมาะสำหรับการพัฒนาเกมยิงมุมมองบุคคลที่ 1 เป็นหลัก แต่ถูกนำมาใช้ในการพัฒนาเกมแนว RPG แทน และแตกต่างโดยสิ้นเชิงเมื่อเทียบกับ REDengine

รูปจาก Dragon Age: Inquisition

อาริน ฟลินน์ทำงานร่วมกับ BioWare มานานถึง 17 ปี อยู่เบื้องหลังเกมดังๆ มากมาย Star Wars: Knights of the Old Republic, ซีรีส์ Mass Effect และซีรีส์ Dragon Age ปัจจุบันเปิดสตูดิโอของตัวเอง Inflexion Games และกำลังพัฒนาเกมใหม่ Nightingale

อ้างอิง

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส