หลายท่านอาจไม่รู้ว่า ‘โอม ปัณฑพล ประสารราชกิจ’ ก็เป็นอีกคนหนึ่งที่รักในการเล่นเกม หรือว่าง่าย ๆ คือนอกจากเป็นนักดนตรีแล้ว ก็ยังมีอีกบทบาทเป็น เกมเมอร์ โดยเฉพาะกับ ‘Final Fantasy’ ที่คุณโอมชื่นชอบเป็นอย่างมาก และเป็นในหนึ่งอิทธิพลที่ทำให้ผลงานเพลงของวง Cocktail ออกมาไพเราะ โดดเด่นมีเอกลักษณ์
• ตอนเด็ก ๆ เราเล่นเกมเพื่อความบันเทิง พอโตมา ก็รู้สึกว่ามันเป็นการฆ่าเวลา แล้วก็ถือว่าเป็นการหย่อนใจอะไรบางอย่าง เพราะฉะนั้นผมจะเล่นเกมค่อนข้างหลากหลาย อย่างเช่นถ้ามีเวลาน้อย ผมจะเล่น Puzzle ถ้าช่วงไหนมีเวลาเยอะ มีเวลาเป็นส่วนตัว ผมจะชอบเล่นเกม RPG ชอบเกมที่มีความยาว มีเนื้อเรื่อง มีการเขียนบทเป็นจริงเป็นจังมาก ๆ หลัก ๆ ผมเป็นแฟนซีรีส์อยู่ 2-3 ซีรีส์ที่เล่นประจำ ก็คือ ‘Final Fantasy’, ‘Resident Evil’ และ ‘The Elder Scrolls’
• เกมแนวภาษาเกมแรกที่ผมเล่นคือ ‘Seiken Densetsu 3’ ซึ่งเป็น Action RPG ไม่ใช่ RPG เต็มรูปแบบ ช่วงที่ผมเริ่มรู้จักเกม RPG ครั้งแรกประมาณ ป.4-5 ในเครื่อง Super Famicom แล้วพอเปลี่ยนยุคสมัยเป็น PlayStation เกมแรกที่เรากระสันไปเล่นด้วยก็คือ Final Fantasy 7 ที่กำลังจะมา เราเห็นทุกคนเขาเล่นกันหมดเลย ก็เลยอยากเล่นด้วยบ้าง
• แล้วมันก็เป็น Final Fantasy ภาคแรกที่เป็นสามมิติเต็มรูปแบบ คือจะบอกว่าเต็มรูปแบบก็ไม่ใช่อีก ตัวเกมมันเรนเตอร์เป็นสามมิติหมด และจะมีฉากที่เรนเดอร์ด้วยภาพบ้าง แต่ก็ถือว่ามันก็เป็นอะไรใหม่ ๆ สำหรับเกมภาษา ซึ่งเราประทับใจมากทั้งเนื้อเรื่อง การดำเนินเรื่อง การเขียนบทตัวร้าย พอประทับใจปุ๊บ ก็เลยทำให้เราตามไปเล่น Final Fantasy ทุกภาค
• ตอนที่ Sony Universe บอกว่าจะนำเข้า Final Fantasy แล้วเราก็ไปจอง เพราะว่ายอดจองถล่มทลายมาก แล้วตอนนั้นต้องเป็นแผ่นแท้ คือสมัยก่อนต้องเข้าใจก่อนว่า เกมภาษายังไม่มีภาษาอังกฤษ เวลาเราเล่น เราต้องเล่นภาษาญี่ปุ่น มันก็เลยทำให้เราต้องมีความรู้แบบงู ๆ ปลา ๆ กับการอ่านตัวฮิรางานะ คะตาคานะ อ่านให้พอออกเสียงได้ ใช้วิธีจำตัวอักษรให้ออกเสียงได้ เพื่อจะได้คุยกับเพื่อนได้ว่า อ๋อ อยู่ตรงนี้นะ ไอเทมชื่อนี้นะ จะใช้ทำอะไร จะไปไหนต่อ คำสั่งไหน ใช่หรือไม่ใช่ รู้ว่ามนต์ต่าง ๆ ชื่อเป็นแบบนี้ เป็นการช่วยกันเล่นกับเพื่อนแบบมั่วไปด้วยกัน
• แล้วเพื่อนในแก๊งจะมีคนบอกว่า โอม มึงต้องเล่น Final Fantasy นะ Final Fantasy 7 กำลังจะมา กูเล่น Final Fantasy 5-6 มาแล้ว เล่นกับพี่ชายตอนเด็ก ๆ แล้วเพื่อนในแก๊งก็เล่นด้วย ก็เลยขอให้เพื่อนไปจองแผ่นที่ Sony Universe
• ในเนื้อเรื่องที่ผมชอบมากใน Final Fantasy 7 คือลักษณะของการเขียนบท การที่คลาวด์สับสนในบุคลิกภาพของตัวเอง เอาความจำของคนอื่นมาสวมเพื่อกลบปมด้อยของตัวเอง เป็นอะไรที่เหนือชั้น แต่ผมว่าก็ยังไม่เหนือชั้นเท่ากับการสร้างตัวละครตัวหนึ่งขึ้นมาแล้วฆ่ามันทิ้ง เพื่อต้องการให้ส่งผลกระทบอย่างรุนแรง
• การที่แอริธตาย เป็นหน้าหนึ่งของประวัติศาสตร์วงการเกมของการกำจัดตัวละครหลักในเนื้อเรื่อง ณ วันนั้น ถ้าใครเกิดทันในช่วงปีนั้น หรืออายุใกล้เคียงกับผม จะจำได้ว่า หลายคนพยายามที่จะชุบชีวิตแอริธกันใหญ่ ถ้าตอบคำถามถูก แอริธจะต้องไม่ตาย เต็มไปหมดเลย มีข่าวลือเต็มไปหมดเลย แต่สุดท้าย แอริธต้องตาย ยังไงก็ต้องตาย ยกเว้นว่าคุณจะใช้ Action Replay
• สำหรับคนที่เก็บเลเวลแอริธจนเต็ม ถ้าผมจำไม่ผิด น่าจะเป็นเลเวล 27 ไหมนะ ก็ต้องเสียใจด้วย เพราะผมก็เป็นคนหนึ่งในนั้น ที่ใช้แอริธในทัพหลัก แล้วดันฆ่าตัวละครผมทิ้งเฉย ๆ อย่างนั้นไปเลย (ทีมงาน – ตอนนั้นที่พี่เป็นเด็ก พี่รู้สึกยังไงที่แอริธตายครับ) ช็อกสิครับ ช็อกนิดนึง ผมรู้สึกว่า เอาอย่างนี้เลยเหรอ การตัดสินใจกำจัดตัวละครดื้อ ๆ แบบนี้ มันเป็นอะไรที่ใหม่มาก ๆ ไม่ค่อยเห็นอะไรแบบนี้ มันช็อกพอ ๆ กับ Black ที่ตายตอนอวสานใน Jetman เราก็แบบ เอาแบบนี้เลยเหรอ ทำไมหนังโทคุซัตสึต้องทำกันขนาดนั้น
• ถ้าย้อนไปดูเกมเพลย์ของ Final Fantasy 7 ในตอนนั้น สิ่งที่ประทับในมาก ๆ ก็คื่อ คือเรื่องของระบบ ‘Materia System’ คือการเอามนต์ต่าง ๆ ใส่เข้าไปใส Slot ของอาวุธได้ แล้วพอเก็บ Materia พอเก็บจนถึง Master จะแตกลูกออกมาได้ ผมว่ามันเป็นอะไรที่ประทับใจมาก เพราะเราสามารถสร้างความสมดุลของตัวละครขึ้นได้เอง สร้างความสมดุลของตัวละครโดยที่ไม่ยึดโยงกับอาชีพใดอาชีพหนึ่งของตัวละครมากเกินไป
• Final Fantasy 7 เป็นเกมที่รุ่มรวยด้วยมินิเกมมากที่สุด มีตั้งแต่เลี้ยง Chocobo แข่งเจ็ตสกี การต่อสู้ใน Colisseum เกมมีอะไรให้ทำเยอะ มี Side Quest ที่ไม่จำเป็นให้ทำเยอะ ถ้าคุณไม่ได้ซีเรียสกับการเก็บของให้ครบ คุณสามารถเล่นแบบตรง ๆ ไปจนจบเรื่องได้ โดยที่ไม่ต้องสนใจว่าจะไล่หาเก็บ Chocobo ทองได้ยังไง ซึ่ง Chocobo ทอง ก็สามารถเดินไปได้ทุกที่ เดินข้ามน้ำข้ามทะเล ข้ามไปขึ้นเกาะเพื่อไปเก็บ Materia Knights of Round ได้อีก ซึ่งถ้าไม่ได้ Knights of Round ก็จะไม่สามารถเก็บสุดยอด Materia ก็คือ Shokan Materia หรือ Master Summon ได้ ตัวเกมมันน่าสนใจตรงที่มีอะไรให้ทำเยอะนี่แหละ
• ทุกคนจะถามกันหมดว่า เราชอบ Final Fantasy 7 แล้ว เราเป็นทีมแอริธ หรือทีมทีฟา แต่ผมว่าทั้งคู่น่ารักเกินไป มีความเป็นเด็กผู้หญิงมาก ๆ คือรสนิยมชองเรา เราชอบผู้หญิงแบบ Lara Croft หรือ แคลร์ เรดฟิลด์ (Claire Redfield) ใน ‘Resident Evil 2 Remake’ ผมจะชอบผู้หญิงที่มีบุคลิกแบบนั้น พอมันดูกุ๊กกิ๊กมาก ๆ ผมไม่ได้รังเกียจ แต่แค่ไม่ใช่สเปก
• (ทีมงาน – พี่โอมใช้เวลา 113 ชั่วโมงในการเก็บถ้วยแพลตตินัม ทำไมพี่โอมยอมเสียเวลาขนาดนั้นเพื่อให้ได้สิ่งที่จับต้องไม่ได้ครับ) ถ้าพูดถึงสิ่งที่จับต้องไม่ได้ ถ้าพูดกันตรง ๆ ทุกสิ่งทุกอย่างในโลกมันก็ไม่มีอะไรจับต้องได้เป็นชิ้นเป็นอันอยู่ดี มูลค่าที่เกิดขึ้นเป็นมูลค่าที่ถูกกำหนดด้วยจิตใจ อย่างของเล่น Final Fantasy ที่เราสะสม บางอย่างราคามันขึ้น แต่มันขึ้นเพราะอุปสงค์ตลาด ถ้าสุดท้าย วันนี้มีสงครามหรือมีอะไรเกิดขึ้น ของพวกนี้ก็จะไม่มีราคาทันที เพราะมันไม่ใช่ของจำเป็น ถูกไหมครับ
• นั่นหมายความว่า ราคาที่กำหนดขึ้นมันเป็นอุปทาน แต่สิ่งที่เราซื้อมา มันคือความสุขทางใจที่เราได้มา และมันคือความพอใจในวันนี้ เพราะฉะนั้นถ้วยแพลตมันก็เป็นความพอใจส่วนบุคคลมาก ๆ ว่า เราอยากเล่นจนครบจบสมบูรณ์เท่านั้นเอง นี่ถ้าบอกว่าอันนี้จับต้องไม่ได้ ผมใช้ไป 122 ชั่วโมง ถ้าเป็น Final Fantasy ปกติ ผมก็ใช้เวลาไป 100 ชั่วโมงกว่า ๆ ในการเก็บทุกอย่าง และ Materia Master ทุกลูก ไอเทมทุกอย่างครบแล้วเรียงเป็นระเบียบเหมือนกัน ซื้อของทุกชิ้นถึงเลเวล 99 แล้วเรียงให้หมด นั่นจับต้องไม่ได้ยิ่งกว่าอีก เพราะว่ามันไม่มีอยู่บนหน้าฟีดที่เราจะเอาไปโชว์ใครได้เลย แต่ผมเล่นเกมเพราะว่าผมมีความสุขในการเล่น แต่ถ้าจะเก็บให้ครบแล้วทรมาน ก็ไม่ต้องเก็บ
• (ทีมงาน – ตอนที่พี่โอมทราบข่าวว่า Final Fantasy 7 มี Remake บน PlayStation 4 ตอนนั้นรู้สึกอย่างไรบ้างครับ) โห…น้ำตาไหลเลยครับ ผมเป็นคนชอบเกมที่เป็นแผ่นแท้ เวลาน้ำตาไหล ผมจะไม่ค่อยไหลกับเรื่องเศร้า แต่จะไหลกับอะไรที่มันดูยิ่งใหญ่ ตอนเปิดมาเห็นแผ่นแท้ น้ำตามันคลอเล็ก ๆ แล้วก็พูดว่่า โห เจ๋งจังเลย
• จำได้ว่าโทรไปหาเพื่อนหลายคนมาก ถามว่า มึงเห็นยัง ๆ ทุกคนก็บอก กูก็กำลังจะโทรหาโอมเหมือนกัน เห็นแล้วเหมือนกัน แล้วก็เห็นคอมเมนต์ในเฟซบุ๊กประมาณว่า คนอายุ 30 กว่าเขาเป็นอะไรกันนักหนากับเรื่องนี้เหรอ ซึ่งเราเองก็อยากบอกว่า พวกคุณไม่เข้าใจหรอก (หัวเราะ)
• ทำไมเพลง Soundtrack ของ Final Fantasy ถึงได้ตราตรึงใจเกมเมอร์ขนาดนั้น ผมว่ามันเป็นเพราะองค์ประกอบหลาย ๆ อย่าง คือเพลงดีก็ส่วนหนึ่ง แต่มันประกอบอยู่ในเนื้อเรื่องที่ดี ในแฟรนไชส์ที่มีชื่อเสียง มันส่งเสริมซึ่งกันและกัน ทำให้สิ่งนี้อยู่ในความทรงจำได้ไม่ยาก อีกอย่างคือ ‘โนบุโอะ อุเอมัตสึ’ (Nobuo Uematsu) ผู้ประพันธ์เพลงของเกมนี้ มีเซนส์ของความเป็นนักดนตรี และความเป็นป๊อปของเขา มันกลมกลืนพอดี มันไม่ป๊อปจนเกินไป ในขณะเดียวกันก็ไม่ง่ายขนาดนั้น
• อีกอย่างบทเพลงของ Final Fantasy มันมีความร่วมสมัยสูง คือไม่ได้อิงกับยุคสมัย แต่อิงอยู้่กับประวัติศาสตร์ของตัวเอง เพลงโปรดของผมคือ “One-Winged Angel” ที่คุณโนบุโอะประพันธ์ เป็นเพลงที่ใช้สู้กับบอสเซฟีรอธร่างสุดท้าย คือเซเฟอร์เซฟีรอธ เป็นเพลงที่ผมรู้สึกว่า น่าจะเป็นครั้งแรก ๆ เลยที่มีการเอาวงนักร้องประสานเสียง และวงออเคสเตรชันขนาดใหญ่เข้ามาร่วมในงานดนตรีประกอบเกม
• บางทีก็ยังสงสัยว่า การที่มีคนพูดว่า โตป่านนี้แล้วยังเล่นเกมอยู่ ตอนนี้เขายังคิดแบบนั้นกันอยู่หรือเปล่านะ เพราะว่าคนที่โตมาจนโตเอาป่านนี้ ส่วนใหญ๋ก็คือคนที่เล่นเกมมาตั้งแต่เด็ก แล้วก็ยังเล่นมาจนถึงทุกวันนี้ ซึ่งน่าจะพูดน้อยลงเรื่อย ๆ จนรู้สึกว่าไม่น่าจะใช่เรื่องใหญ่ขนาดนั้นอีกต่อไปแล้วหรือเปล่านะ ถ้าถามว่าคิดยังไง
• ผมรู้สึกว่า เวลาผมทำงานในองค์กรไหน อย่างทุกวันนี้ เราเป็นหัวหน้าองค์กรของตัวเอง ผมไม่ได้สนใจเลยว่าลูกน้องหรือเพื่อน ๆ ร่วมงานจะทำงานด้วยวิธีการแบบไหน ตราบใดที่วิธีการนั้นไม่ได้ผิดต่อศีลธรรม และไม่ได้เบียดเบียนหรือเห็นแก่ตัว ขอให้งานออกมาสำเร็จลุล่วงด้วยดี เพราะงั้น ใครอยากทำอะไร อย่าไปยุ่งกับเขาเลย ให้เขาทำไปเถอะ ถ้าเขายังรับผิดชอบหน้าที่ของตัวเองได้
• แต่ทีนี้ เวลาเราโทษเกมว่า คุณเล่นเกมจนเสียนิสัย ขอให้เข้าใจนะว่า ความเสียนิสัยไม่ได้มาจากเกม อะไรที่เกินกว่าเหตุมันย่อมเสียหมด ทุกอย่างต้องมีความพอดีของมัน เล่นเกมมากเกินไปก็ไม่ดี เล่นกีฬา เรียน ทำงานหนัก นอนมากเกินไปก็ไม่ดี ไม่มีอะไรดีทั้งนั้น พอขึ้นชื่อว่ามันเกินไป
• ถ้าถามว่าเกมมีข้อดีอะไรบ้าง ผมว่าแล้วแต่ว่าคนจะจับต้องสิ่งเหล่านั้น อย่างแรกเลย ถ้าเกิดว่าคุณเป็นคนที่รับแรงบันดาลใจได้ง่าย ๆ เกมดี ๆ ที่มีบท เนื้อเรื่องดี ๆ การเขียนบท งานเพลงที่ดี มันช่วยเสริมสร้างจินตนาการให้คุณในการทำงานสายงานครีเอทีฟได้บ้าง ในขณะเดียวกัน เกมหลายเกม หากเลือกถูกประเภท ก็สามารถเป็นเกมที่เสริมสร้างทักษะ เล่นเกมให้เหมาะสมกับตัวเอง ยังไงก็มีประโยชน์
• ถ้าจะมีข้ออ้างว่า ที่เล่นเกมทั้งวันเพราะว่ามันมีประโยชน์ แต่อย่าลืมนะครับว่า ในชีวิตของเรา เราไม่ได้มีแค่หน้าที่เดียว และการเรียนรู้ก็ไม่ได้เกิดจากทางเดียว การมีความรู้ในองค์ประกอบอื่น ๆ ก็จะสามารถส่งเสริมชีวิตเราให้เดินทางไปข้างหน้าได้เช่นเดียวกัน ยิ่งพอเป็นโลกยุคใหม่ ที่เขาเรียกว่าเป็นโลกยุคของคนที่เป็นเป็ด คือคนที่รู้รอบด้าน เก่งรอบด้าน เข้าใจรอบด้าน จะเป็นคนที่เอาตัวรอดอยู่ในโลกได้ดีกว่า การมีความรู้แค่ศาสตร์ใดศาสตร์หนึ่งอย่างเดียว มันก็ไม่ได้แข็งแรงเสมอไป
• หรือตอนนี้เกมเมอร์มืออาชีพ ก็เกิดขึ้นใหม่ทุกวัน เราอาจจะหาเงินได้จำนวนมากในช่วงเวลาหนึ่ง ถ้าโชคดี คุณเป็นคนเก่ง คุณมีความสามารุที่จะยืนหยัดอยู่บนบัลลังก์ คุณก็อาจจะชนะได้ในระยะยาว แต่ถ้าโชคร้ายก็อาจจะสั้นกว่านั้นหน่อย
• แต่ผมว่า มันก็คงดีกว่า ถ้าเราเห็นชีวิตมากกว่าด้านใดด้านหนึ่ง วันหนึ่งเราอาจจะอยากไปทำอะไรอย่างอื่น อาจจะไม่ใช่เรื่องเงิน แต่เป็นเรื่องที่เรายังทำสิ่งนั้นได้ไม่ดีนัก ด้วยวัยและความสามารถที่ถดถอยลง ความรับรู้ หรือประสาทสัมผัสที่ไม่ได้เฉียบคมเท่าเดิม ก็อาจจะหาอย่งอื่นทำได้ด้วย จากความรู้ที่ตัวเองมีอยู่ ไม่ใช่แค่เพี่อเงิน แต่เพื่อทำให้ชีวิตมีความหมาย
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส