การเติบโตของวงการอีสปอร์ตในไทยที่ใหญ่ขึ้นทุก ๆ วัน เป็นดั่งคำเชิญชวนชั้นเลิศให้กับใครหลาย ๆ คนเข้ามามีส่วนร่วมไปกับวงการนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับเยาวชนในบ้านเราที่อยากจะเป็นนักกีฬาอีสปอร์ตหรือโปรเพลเยอร์ เพียงแค่รู้มีความรู้สึกว่า “เล่นเกมแล้วได้เงินดีจะตาย” แต่บทสัมภาษณ์นี้ ‘อองตวน ปินโต’ เจ้าของค่ายอีสปอร์ต ‘Pint0 Gaming’ จะมาพูดตรง ๆ ในแบบที่ “ไม่ขายฝัน” ว่าแท้จริงแล้ว การจะเป็นโปรเพลเยอร์นั้น ต้องแลกมาด้วยอะไรบ้าง?


อองตวน ปินโต

• ตอนนี้ไม่ได้ต่อยมวยแล้วครับ ปัจจุบันตอนนี้ผมทำงานในวงการบันเทิง จริง ๆ ก็ยังอยู่ในแวดวงวงการมวยนี่แหละ แต่ว่าก็ทำหลาย ๆ อย่าง ทำทั้งธุรกิจ และวงการเกมด้วย

• จุดเริ่มต้นของเราก็เหมือนกับคนอื่น ๆ นี่แหละ ที่เริ่มต้นจากการที่เราเป็นคนเล่นเกม แล้วก็มาเป็นนักแข่งเกม และก็มาเป็นเจ้าของสังกัดอีสปอร์ต ‘Pint0 Gaming’ จุดเริ่มต้นก็คือ ผมจะชอบเล่นเกมกับเพื่อน ๆ และก็มีน้อง ๆ เข้ามาร่วมเล่นด้วยเป็นปกติ แต่พอเราได้เจอกับเกมออนไลน์ ซึ่งตรงกับความสนใจของเรา ที่มันสามารถแข่งขันได้ แล้วเราก็เริ่มแข่งอีสปอร์ต จะไปแข่งเฉย ๆ ก็ไม่ได้ มันต้องมีชื่อทีม เราชื่อปินโต งั้นก็ชื่อว่า Pint0 Gaming เลยก็แล้วกัน

• เริ่มทีแรกก็แข่งเองก่อน หลังจากนั้นก็เริ่มส่งทีมเข้าแข่งขัน ในช่วงแรก ๆ ก็ถือว่าประสบความสำเร็จ ก็เลยเริ่มมีเด็ก ๆ ที่เล่นเกมอื่น ๆ เข้ามาสมัคร เข้ามาเสริมเพิ่มเป็นอีกทีมเพิ่มเข้าไปเรื่อย ๆ ตอนนั้นในช่วงเริ่มต้นมีอยู่ประมาณ 4-6 เกม มันก็เลยทำให้มันมีความเป็นสังกัดโดยที่เราเองก็ยังไม่รู้ตัวเลย หลังจากนั้นก็ค่อย ๆ ปั้นเด็กขึ้นมาในแต่ละเกม

• พอวันหนึ่ง เราเริ่มเข้ามาสัมผัสกับคำว่า E-Sport หรือการแข่งขันเกม เราอยากเข้าใจจริง ๆ ว่ามันจะเป็นยังไง ก็เลยเอาตัวเองเข้าไปอยู่ในนั้น ปรากฏว่ามันกลายเป็นสิ่งที่เริ่มใหญ่โตขึ้นเรื่อย ๆ โดยที่เราไม่รู้ตัว

อองตวน ปินโต

• แล้วเราเองก็รู้สึกมีความสุขในการที่มีเด็ก ๆ หลายคนที่มองว่า การที่เขามาอยู่กับเรา เขาจะได้โอกาส ซึ่งตอนนั้นเราก็ยังไม่ได้คิดอะไรแบบนั้นนะ เพราะเรารู้สึกว่าเราไม่ได้มีอำนาจหรือมีพลังที่จะปั้นใครหรือทำให้ใครโด่งดังได้หรอก แต่เราคิดแค่ว่า เขาอยากเข้ามาร่วมกับเรา เราก็จะพยายามช่วยเขาในจุดที่เราพอจะช่วยได้

• คนเก่งน่ะมีเยอะนะ แต่ส่วนใหญ่มักจะยังไม่มีโอกาส ในฐานะที่เราเป็นคนที่เป็นผู้ใหญ่กว่า รู้จักคนเยอะกว่า และสามารถเซตระบบระเบียบว่า ถ้าอยากจะเป็นนักแข่งเกม เขาควรจะทำยังไง ควรจะไปแข่งรายการไหน ให้เขาได้มีโอกาสโชว์ศักยภาพ ให้เขาได้พัฒนาตัวเอง ในสิ่งที่เขาเชื่อว่ามันจะกลายเป็นอาชีพให้เขาได้ จากที่ตอนแรก เขาเข้ามาแค่เพราะว่ารักในการเล่นเกม จะทำยังไงให้เขามีมุมมองในแบบนักกีฬา ไม่ใช่แค่เล่นเกมธรรมดา

• การที่จะบอกว่าเราติดเกม หรือเป็นนักเล่นเกม สิ่งแรกที่จะวัดได้ก็คือ เป้าหมายในการเล่นเกมของเราคืออะไร สมมติว่าถ้าเราเล่นแล้วแพ้ ทุกครั้งต้องกลับมาทบทวนกับตัวเองว่าทำไมเราถึงแพ้ อันนี้เป็ฺนจุดแรกที่ทำให้เปลี่ยนจากคนเล่นเกมธรรมดาให้กลายเป็นคนที่เล่นเกมเก่งได้

• อันต่อมา ผมว่าเราต้องแยกออกจากกัน ระหว่างการซ้อมเกม กับเล่นเกมมันต่างกันยังไง ถ้าเมื่อไหร่ที่เราใช้คำว่าซ้อม การซ้อมมันมีเป้าหมาย และต่อจากการซ้อม มันคือการแข่ง ต้องคิดแล้วว่า สิ่งที่เราทำอยู่ตอนนี้ เราทำไปเพื่อการแข่งขัน เพื่อชัยชนะ

• การเป็นนักกีฬา เรามองว่าเมื่อมีการแข่งขัน มันก็คือการกีฬา เราต้องมีน้ำใจนักกีฬา ต้องมีความคิดแบบนักกีฬา ต้องมีความอยากเอาชนะเหมือนนักกีฬา มันมีองค์ประกอบเยอะ คนที่เล่นเกมน่ะมีเยอะ แต่คนที่จะข้ามเส้นแบ่งระหว่างคำว่า เล่น กับคำว่า แข่ง มันต่างกันมาก และไม่ใช่ทุกคนที่จะเป็นได้

• การเริ่มต้นแข่งเกม หรือกีฬาอะไรก็แล้วแต่ ต้องเริ่มต้นมาจากใจรักก่อน ถ้าถามว่ามีคนท้อแท้ไปก่อนเยอะไหม เยอะ สิ่งแรกที่พวกเขาเข้ามา เขามักจะคาดหวังว่าจะได้เงิน ถามต่อไปว่า แล้วอะไรที่ทำให้เขาท้อ ก็เรื่องเงินนี่แหละ มันไม่มีใครที่เริ่มต้นอะไรแล้วจะได้เงิน มันเป็นไปไมไ่ด้ แต่สิ่งที่จะทำให้เขาสู้ต่อได้ เพราะว่าเขามีใจรัก ต่อให้วันนี้เขาทำฟรี ต่อให้วันนี้เขาต้องทำเพื่อโอกาส เขาก็ยอม เพราว่าเขามีเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่กว่าเงิน

• เหตุผลหลัก ๆ เลยนะ ที่ทำให้คนทำอาชีพนี้ไม่ประสบความสำเร็จก็คือ การมองว่ามันเป็นอาชีพที่ทำง่าย ๆ ซึ่งมันไม่ใช่ ผมมีเด็กในสังกัดที่เข้ามาอยู่กับผมเกือบสองปี ไม่เคยได้เงินแม้แต่บาทเดียว จนกระทั่งวันหนึ่ง ทุกอย่างมันพร้อม ประสบความสำเร็จ เขาได้รับเดือนละแสน สองแสน สามแสน

อองตวน ปินโต

• ต้องเข้าใจว่า อายุของนักกีฬาอีสปอร์ตมันสั้น และมีเวลาที่จะเก่งค่อนข้างน้อย เกมออกมาปุ๊บ ผมให้เวลาเต็มที่ 6 เดือน หรือ 1 ปีในการซ้อมให้เก่ง เพราะถ้าคุณไม่เก่งในระยะเวลานี้ อายุของเกมมันมีเวลาแค่ 3-5 ปีที่จะทำเงินได้ ก่อนที่เกมใหม่ ๆ หรือเกมที่อยู่ในกระแสออกมา เพราะฉะนั้น คุณมีเวลาน้อยมากที่จะเก่ง แล้วช่วงเวลาแค่นี้ คุณทำได้หรือเปล่า มันก็เลยเป็นสิ่งที่อาจจะทำให้คุณรู้สึกท้อก็เป็นได้

• ผมในฐานะคนที่สร้างสังกัด ดูแลนักกีฬาในสังกัด ผมมองว่ามันเป็นหน้าที่ของตัวเราเองที่จะต้องบอกทุกจุดกับเด็กที่จะเข้ามา เราไม่ได้ต้องการจะขายฝัน เพราะเราไม่จำเป็นต้องขายฝัน เราไม่จำเป็นต้องหว่านล้อมคนทั้งโลกว่ามันดี แต่เราต้องพูดกันด้วยเหตุผลจริง ๆ กับเด็กที่มีความฝันที่จะอยากทำอาชีพนี้ว่ามันไม่ใช่เรื่องง่าย มันไม่ใช่เรื่องที่จะทำไม่ได้นะ แต่เราต้องมองให้ตรง และมองให้จริงว่า การจะประสบความสำเร็จแบบทันทีมันเป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว

• ความเครียดของนักกีฬาในการแข่งขันทุกอย่าง มันเกิดจากการวิพากษ์วิจารณ์ของคนดู มันเป็นสิ่งที่เวลาคุณเข้าร่วมทีมนักกีฬา คุณต้องคิดทันทีว่า คุณจะกลายเป็นบุคคลสาธารณะ ที่คนเขาจะวิพากษ์วิจารณ์ แล้วเราก็จะโดนวิพากษ์วิจารณ์ทันที ผมเชื่อว่า นักกีฬาทุกคนเขาทำเต็มที่ ทำดีที่สุดในทุก ๆ ครั้ง สมมติว่า วันนี้ผมตั้งใจเต็มที่เลย แต่คนบอกว่าเราทำได้ไม่ดี ความรู้สึกที่เราคิดทันทีคือ ผมทำดีแล้วนะ แต่ยังทำดีได้ไม่พอ

• มันเลยกลับมาเป็นความรู้สึกที่โหดร้าย มันเหนื่อยเหลือเกิน แล้วปัจจุบันนี้ อีสปอร์ตมันอยู่ในโลกอินเทอร์เน็ตที่มียอดคนดูมหาศาล การวิพากษ์วิจารณ์ การคอมเมนต์มันเยอะ ทุกอย่างขึ้นอยู่กับคนดู นักกีฬาหลายคนอาจยังไม่พร้อมที่จะรับในสิ่งนี้

• เด็กบางคนเวลาสตรีมเกม ปกติมีคนดูแค่ 5 คน แต่วันนี้เขาต้องมาลงทัวร์นาเมนต์ทีมีคนดูเป็นแสน ๆ โอ้โห…คอมเมนต์เป็นหมื่น ๆ เขาอาจจะรู้สึกว่ามันกระทบหนักมาก เขาอาจจะยังไม่พร้อมกับสิ่งนี้ มันเลยเป็นสิ่งที่ทำให้นักกีฬาหลายคนเครียด

อองตวน ปินโต

• ไม่นับเรื่องความกดดันของหัวหน้าทีม การแข่งขัน เงินรางวัล อันนี้เป็นความกดดันทั่วไปของนักกีฬา ใครที่อยู่ในการแข่งขันก็อยากจะทำให้ดี เพื่อทีม เพื่อตัวเอง ถ้าวันนี้ประสิทธิภาพคุณไม่ดี คุณก็อาจจะโดนเด้ง เป็นเรื่องปกติ มันเลยเป็นองค์ประกอบที่ทำให้นักกีฬามีความเครียด

• สังคมสมัยนี้เราห้ามใครไมไ่ด้ เปลี่ยนความคิดคนไม่ได้ เขาอยากจะคอมเมนต์ อยากพูดอะไร มันก็เป็นสิทธิ์ของเขา และมันก็เป็นเสน่ห์ของการดูกีฬา มันคือความสุขของคนดูกึฬา แต่เราจะจัดการกับตัวเองยังไง นี่คือสิ่งที่เราต้องรับผิดชอบตัวเราเอง

• เราต้องถอยตัวเองออกมาเพื่อให้มองเห็นว่า สิ่งที่เราทำ สิ่งที่ดีที่สุดสำหรับเราคืออะไร เราและคนในทีมรู้ดีที่สุด คนที่ดู เป็นพัน หมื่น แสนคน มันก็เป็นหนึ่งแสนโค้ช แต่เขาจะรู้ทั้งหมดไหมล่ะ คนที่เป็นโค้ช เพื่อนร่วมทีมต่างหากล่ะที่รู้

• เพราะฉะนั้น เราต้องอยู่กับคนที่รู้จริง คนที่เป็นมืออาชีพ คนที่เชียร์ก็เป็นเรื่องของการเชียร์ เรารับฟังคอมเมนต์ได้นะ แต่อย่าให้มันมาเป็นสิ่งที่กระทบตัวเรา ให้มันเป็นเหมือนความแข็งแกร่งที่เราอยากจะเอาชนะให้ได้ดีกว่า

• ‘PTG Foundation’ เกิดจากการที่ว่า เมื่อเราได้แล้วเราก็ต้องให้กลับคืน เราได้รับอะไรบางอย่างจากวงการนี้ เราก็ต้องการที่จะให้กลับคืน เราก็เลยอยากทำมูลนิธินึ้ขึ้น เพื่อที่จะตอบแทนในการไปช่วยสอนตามโรงเรียน มหาวิทยาลัย ให้โอกาสกับเด็กที่มีฝีมือ แต่อาจจะไม่มีอุปกรณ์ เราก็เลยทำมูลนิธินึ้ขึ้น มีคนมาสนับสนุนและจัดกิจกรรมอย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นการตอบแทน ต่อยอดอีสปอร์ตให้กับคนที่มีใจรักในการเล่นเกม

อองตวน ปินโต

• สมมติว่าวันหนึ่ง เขาไม่มีอุปกรณ์ แล้วเข้ามาฝึกกับเรา แล้ววันหนึ่งเขาเก่ง แล้วเขาไปอยู่ที่อื่น ผมมองว่า การทำทีมไม่ได้เป็นธุรกิจหลักที่จะทำให้ผมรวยหรือมีรายได้ ผมทำเพราะวาผมรักสิ่งนี้ ผมอยู่กับวงการเกมมาตั้งแต่ช่วงที่ใครต่อใครยังมองว่าเกมเป็นสิ่งที่ไม่ดี เราให้ในสิ่งที่เราให้ได้ ให้โอกาส ให้มุมมองในการเติบโต

• แล้วบอกเขาว่า ถ้าเขามีโอกาสเติบโตที่ดีกว่านี้ โตพอที่จะไปอยู่ในสังกัดใหญ่ ๆ ทั้งในและต่างประเทศ ไปเลย เราจะดีใจมากเลยว่า วันหนึ่งเขาเคยอยู่กับเรา แล้วเราเห็นความสำเร็จของเขา ผมมีความสุขมากที่ผมได้ทำอีสปอร์ต ไม่ใช่ว่า มึงมาอยู่กับกู มึงต้องอยู่จนตาย ไม่ใช่ ความสุขของเราคือการได้เห็นน้อง ๆ เติบโต

• ถ้าใครได้ติดตามวงการ ‘PUBG’ จริง ๆ ถ้าเป็นวงการโปรลีก ผมคิดว่า 20 เปอร์เซ็นต์ของผู้เล่นโปรลีกที่เป็นตัวท็อป ต้องเคยผ่านทีมผมมาก่อน ผมรู้สึกดีใจและภูมิใจมาก เวลาที่ผมเห็นผู้แข่งขันทีมใหญ่ ๆ ในระดับโลกที่เคยอยู่ทีมผมมาก่อน ตั้งแต่ที่ยังไม่มีใครรู้จักเขา ตอนนั้นเขายังคิดไม่เป็นเรายังต้องสอนเลย แต่วันนี้เขายิ่งใหญ่ ผมจะมองดูเขาด้วยความภาคภูมิใจ ดูพัฒนาการของน้องคนนั้นคนนี้สิ นี่คือความสุขของผมในฐานะหัวหน้าสังกัด


พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส