รวมเรื่องราวเกี่ยวกับภาพยนตร์ Final Fantasy VII Advent Children ภาคต่อจากเกมที่หลายคนสงสัย

กลับมาเป็นกระแสให้แฟนเกมพูดถึงกันอีกครั้ง หลังจากที่มีการเปิดเผยตัวเกมในซีรีส์ ‘Final Fantasy VII’ ที่มีทั้งภาคต่อภาคแยกออกมาให้ทั้งแฟนเก่าแฟนใหม่ที่รอคอยได้ดีใจ และเพื่อไม่ให้กระแสลดลงเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาทาง ‘Netflix’ ได้เปิดให้ชมภาพยนตร์ ‘Final Fantasy VII Advent Children’ เรื่องราวภาคต่อจากเกม ‘Final Fantasy VII’ ที่เชื่อว่าหลายคนที่ได้ดูแล้วต่างต้องสงสัยแน่ ๆ ว่าคนนี้คือใคร พวกนี้หาอะไร แล้วเรื่องราวมันเป็นอย่างไร วันนี้เราจึงรวบรวมคำถามที่หลายคนสงสัยมาตอบในบทความนี้ และต้องบอกก่อนว่าเนื้อหาในบทความอาจจะมีการเปิดเผยเนื้อเรื่องในภาพยนตร์ ควรไปดูให้จบก่อนแล้วมาอ่านจะดีที่สุด ถ้าพร้อมแล้วก็มาดูไปพร้อมกันเลย

คำเตือน เนื้อหาในบทความมีการเปิดเผยเนื้อเรื่องในภาพยนตร์ Final Fantasy VII Advent Children อย่างละเอียด

เรื่องราวใน Final Fantasy VII ภาคหลักที่คุณควรรู้ก่อนดู Final Fantasy VII Advent Children

ก่อนจะเข้าสู่เนื้อหาของ ‘Final Fantasy VII Advent Children’ เรามาทบทวนความจำกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นมาก่อนภาค ‘Final Fantasy VII Advent Children’ กัน สำหรับคนที่ไม่เคยเล่นเกม ‘Final Fantasy VII’ ฉบับ ‘PlayStation 1’ มาก่อนอาจจะงงว่าเรื่องราวในภาพยนตร์เรื่องนี้มีความเป็นมาอย่างไร เรามาทบทวนกันแบบสั้น ๆ เพื่อเป็นการเท้าความเรื่องราว เริ่มจากตัวละคร คลาวด์ สไตรฟ์ (Cloud Strife) ชายผู้สูญเสียความทรงจำ ที่ถูกช่วยโดย แซ็ค แฟร์ (Zack Fair) จากการถูกจับไปทดลองโดยการใส่เชื้อ ‘Jenova’ ลงไปในตัว ตัวเกมจะเปิดเรื่องมาแบบ ‘Final Fantasy VII Remake’ ที่คลาวด์ได้ร่วมมือกับเพื่อน ๆ เพื่อทำลายบริษัท ‘Shinra Company’ ก่อนจะออกมาจากเมืองและทราบว่า เซฟีรอธ (Sephiroth) ที่น่าจะเสียชีวิตไปในอดีตกลับมาก่อความวุ่นวายอีกครั้ง โดยการส่งอุกกาบาตมาพุ่งชนโลกเพื่อ ‘Jenova’ ที่เซฟีรอธคิดว่านั่นคือแม่ของเขา จนสุดท้ายคลาวด์และเพื่อน ๆ ก็สามารถช่วยโลกใบนี้ได้สำเร็จ แต่ต้องสูญเสีย แอริธ เกนส์เบอรู (Aerith Gainsborough) ในการเดินทางครั้งนี้ ซึ่งแอริธเป็นคนช่วยเหลือโลกใบนี้เอาไว้จากการเรียก ‘Lifestream’ หรือสายธารแห่งทุกชีวิตมาปกป้องโลกเอาไว้ได้อย่างเฉียดฉิว ขณะที่คลาวด์ก็ไปตัดสินครั้งสุดท้ายกับเซฟีรอธจนทุกอย่างสิ้นสุดลง โลกกลับมามีความสุข นั่นคือเรื่องราวเบื้องต้น (โดยย่อ) ของเกม ‘Final Fantasy VII’ เพื่อเป็นการปูพื้นฐานให้คนที่ไม่เคยเล่นหรือรู้จักเรื่องราวได้เข้าใจเนื้อหาในภาค ‘Final Fantasy VII Advent Children’ ได้มากขึ้น แต่ทางที่ดีควรไปหาเกมมาเล่นเองจะเข้าใจเนื้อหารายละเอียดแยกย่อยได้ดีที่สุด

Cloud ผู้ยังยึดติดกับอดีต

แม้เรื่องราวในเกม ‘Final Fantasy VII’ จะจบลงด้วยดี คลาวด์ที่ได้รับความทรงจำที่แท้จริงกลับคืนมา จนสามารถปกป้องโลกและปราบตัวปัญหาอย่างเซฟีรอธลงได้ แต่ตัวของคลาวด์ก็ยังคงยึดติดกับอดีต ในการสูญเสียคนสำคัญทั้งสองคนไปโดยที่ตนเองไม่สามารถทำอะไรได้ คนแรกคือแซ็คที่ช่วยชีวิคลาวด์เอาไว้จากกองทัพทหารที่มาทำร้ายจนตัวตาย รวมถึงแอริธที่เสียชีวิตต่อหน้าต่อตา โดยที่คลาวด์ไม่สามารถช่วยได้จนกลายเป็นปมความรู้สึกผิดอยู่ในใจมาจนถึงตอนนี้ ซึ่งเราจะได้เห็นคลาวด์มาไว้อาลัยในจุดที่แซ็คเสียชีวิตด้วยการปักดาบที่ได้จากแซ็คเอาไว้ที่นั่น และหนีจากเพื่อน ๆ มาอยู่คนเดียวด้วยการไปอาศัยอยู่ในโบสถ์ร้าง ซึ่งเป็นที่คลาวด์เจอกับแอริธพบกันครั้งแรก ซึ่งความรู้สึกผิดของคลาวด์นั้นรุนแรงขนาดเห็นภาพหลอนของทั้งคู่อยู่หลายครั้ง ที่เราสามารถตีความไปได้ว่านั่นอาจจะเป็นการมาหาของทั้งคู่แบบที่เซฟีรอธทำได้ หรือคลาวด์ที่รู้สึกผิดคิดไปเองซึ่งมาจากอาการป่วยก็ได้ ที่สุดท้ายแล้วแอริธและแซ็คก็ต้องมาให้อภัยในสิ่งที่คลาวด์ต้องแบกเอาไว้ นับเป็นการจบเรื่องราวของคลาวด์ลงอย่างสมบูรณ์ในภาคนี้นั่นเอง

Kadaj, Loz และ Yazoo คือใคร

เริ่มต้นคำถามที่หลายคนสงสัยแถมในฉบับภาพยนตร์ ที่ในเรื่องก็ไม่ได้บอกเราตรง ๆ ว่าสามหนุ่มผู้ตามหาแม่อย่าง คาดัจ (Kadaj) คนตรงกลางในรูปด้านบน โลซ (Loz) คนผมสั้นและ ยาซู ( Yazoo) คนทางซ้ายคือใคร เพราะในเรื่องจะเปิดมาที่กลุ่ม ‘Turks’ นำโดย รูฟัส ชินระ (Rufus Shinra) ได้ส่งคนไปยังหลุมอุกกาบาตสถานที่ต่อสู้ครั้งสุดท้ายของเกม ‘Final Fantasy VII’ จนไปเจอกับสามหนุ่มที่นั่น ซึ่งทั้งสามคนนั้นเรียกตัวเองว่า ‘Remnants of Sephiroth’ (เศษซากของเซฟิรอธ) ที่เป็นดั่งตัวแทนของความเกลียดชังและความโกรธแค้นโลกใบนี้ของเซฟีรอธ หรือเรียกอีกแบบคือตัวตายตัวแทนที่ถูกสร้างจากเศษเสี้ยวของเซฟีรอธที่หลงเหลืออยู่ ที่มารวมตัวกันจนเกิดเป็นสามคนนี้ขึ้นมา ซึ่งลักษณะนิสัยความคิดความเกลียดชังที่มีต่อคลาวด์ รวมถึงพละกำลังของทั้งสามคนนั้นก็มาจากตัวตนความรู้สึกของเซฟีรอธทั้งสิ้น ซึ่งทั้งสามคนนั้นเกิดมาเพื่อเป้าหมายเดียวคือการเป็นตัวแทนในการคืนชีพให้เซฟีรอธ แต่การคืนชีพนั้นมีเงื่อนไขนั่นคือต้องมีชิ้นส่วนของแม่มาก่อน

แม่ที่ทั้งสามคนตามหาคือ

ต่อเนื่องจากหัวข้อที่แล้วที่พูดถึงแม่ที่ทั้งสามคนตามหาตลอดทั้งเรื่องว่าคืออะไร ซึ่งในภาพยนตร์ก็ไม่เฉลยว่าแม่ที่ทั้งสามคนตามหาคืออะไร ซึ่งสิ่งที่เราเห็นในภาพยนตร์คือกล่องทรงเหลี่ยมสีดำที่ลูฟัสเก็บเอาไว้กับตัวมาตลอดเวลา จนเกิดการแย่งชิงกล่องเกิดขึ้นหลังจากนั้น ซึ่งสุดท้ายแล้วภาพยนตร์ก็ไม่บอกเราตรง ๆ ว่าในกล่องนั้นมีอะไร จะมีเพียงคนที่เล่นเกมมาแล้วจะทราบดีว่าแม่ที่ทั้งสามคนตามหานั้นคือหัวของ ‘Jenova’ ที่ลูฟัสได้มาจากการไปสำรวจหลุมอุกกาบาตก่อนหน้านั้น ซึ่งเป็นหัวที่เซฟีรอธตัดมาจากตึก ‘Shinra Company’ ในช่วงต้นเกมในภาคหลัก โดยตัวของ ‘Jenova’ คือมนุษย์ต่างดาวผู้กลืนกินดวงดาวที่ตกมาบนโลกเมื่อหลายพันปีก่อน จนเหล่ามนุษย์ยุคโบราณที่มีพลังพิเศษได้ช่วยกันผนึกมันเอาไว้ จนวันเวลาผ่านไปบริษัท ‘Shinra Company’ ได้ไปเจอซากของ ‘Jenova’ และเอามาทดลองจนเกิดเป็นนักรบผู้แข็งแกร่ง หนึ่งในนั้นคือเซฟีรอธที่เขาเข้าใจผิดว่าตัวเองนั้นเกิดมา ‘Jenova’ แถมยังเข้าใจผิดไปอีกว่าแม่ของเขามายังโลกแบบสันติ แต่มนุษย์นั้นกลับมาฆ่าแม่จนทำให้เซฟีรอธโกรธจนจะทำลายโลก ที่คนเล่นเกม ‘Final Fantasy VII’ ภาคหลักจะทราบดี

Geostigma โรคร้ายหลังภัยพิบัติดวงดาว

เรื่องราวใน ‘Final Fantasy VII Advent Children’ จะเกิดขึ้นไม่กี่ปีหลังจากเหตุการณ์ในเกม ‘Final Fantasy VII’ ภาคหลักที่จู่ ๆ ก็มีโรคประหลาดที่เรียกว่า ‘Geostigma’ หรือที่รู้จักในชื่อ ‘The Sephiroth Gene’ หรือ ‘Jenova’s Memetic Legacy’ ซึ่งในตอนแรกชื่อโรคนี้จะถูกเรียกว่า ‘Midgar pox’ เพราะผู้ติดเชื้อส่วนมากมาจากเมือง ‘Midgar’ โดยผู้ติดเชื้อ ‘Geostigma’ จะมีปานสีดำขึ้นตามร่างกาย และปานนั้นจะค่อย ๆ ดูดกลืนพลังชีวิตของคน ๆ นั้นไปเรื่อย ๆ จนตาย ขณะที่บางคนก็ไม่เป็นอะไรมากซึ่งความรุนแรงของโรคจะแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล ซึ่งคลาว์ของเราก็ติดเชื้อนี้ไปด้วย เขาจึงแยกมาอยู่คนเดียวโดยไม่ให้เพื่อน ๆ รู้เรื่องนี้ โดยสาเหตุที่ทำให้เกิดโรคนี้ต้องย้อนกลับไปในช่วงท้ายเกมภาคหลัก ที่มีอุกกาบาตมาชนโลกแล้วแอริธได้เรียก ‘Lifestream’ มาปกป้องโลก ซึ่งในตอนนั้น ‘Lifestream’ ได้ถูกปนเปื้อนเซล (วิญญาณ) ของ ‘Jenova’ ลงไปจนด้วยทำให้โลกติดเชื้อมาสู่ผู้คน ที่สุดท้ายแล้วคลาวด์ก็กำจัดเซฟีรอธที่ปนเปื้อนอยู่ใน ‘Lifestream’ ได้สำเร็จทุกคนจึงหายจากโรคด้วยการอาบน้ำฝนที่มี ‘Lifestream’ บริสุทธิ์ในท้ายเรื่องนั่นเอง

Lifestream จุดกำเนิดทุกเรื่องราวใน Final Fantasy VII

มาถึงตรงนี้หลายคนคงจะสงสัยแน่ ๆ ว่า ‘Lifestream’ ที่ไม่ใช่หมี่หยกนั้นคืออะไร แล้วสิ่งนี้มีความสำคัญขนาดไหน คงต้องย้อนกลับมาที่จุดเริ่มต้นของเนื้อหาในเกม ‘Final Fantasy VII’ ที่บอกกับเราว่าโลกใบนี้อยู่ได้ด้วย ‘Lifestream’ ที่เป็นพลังงานวิญญาณในรูปแบบสารที่ไม่มีตัวตน ซึ่งไหลอยู่ใต้พื้นผิวของดาวเคราะห์ เป็นแก่นแท้ของดาวเคราะห์ ที่รวบรวมความทรงจำและความรู้ของทุกคนที่อาศัยอยู่บนโลกรวมกันในนั้น กล่าวกันว่ากระแสชีวิตนี้เป็นส่วนหนึ่งในการสร้างชีวิตบนโลกที่จะอยู่ในรูปแบบเส้นสีเขียว หรือพูดง่าย ๆ คือถ้าคุณตายในโลก ‘Final Fantasy VII’ คุณจะมารวมเป็นหนึ่งเดียวใน ‘Lifestream’ แต่ก็มีข้อยกเว้นอยู่ 2 อย่าง นั่นคือคนที่มีพลังวิญญาณแรงกล้าจะสามารถคงรูปแบบตัวตนและความทรงจำใน ‘Lifestream’ ได้ ที่เราเห็นภาพของแซ็คกับแอริธปรากฏตัวในท้ายเรื่อง รวมถึงเซฟีรอธที่มีพลังแรงกล้ามากขนาดคงตัวตนบนโลกได้ กับอีกแบบคือคนชนเผ่าโบราณที่สามารถสัมผัสรู้สึกและใช้งาน ‘Lifestream’ ได้ ซึ่งนั่นคือเหตุผลที่แอริธถูกเซฟีรอธฆ่า จนวันหนึ่งบริษัท ‘Shinra Company’ เจ้าเก่าได้ค้นพบสิ่งนี้จึงดึงพลังงานของโลกมาใช้อย่างสิ้นเปลือง จนโลกค่อย ๆ ตายอย่างช้า ๆ ทำให้เกิดคนกลุ่มหนึ่งที่เรียกว่า ‘Avalanche’ ที่มีเป้าหมายในการปกป้องโลกต่อสู้กับบริษัท ‘Shinra Company’ ที่เป็นเรื่องราวในเกม ‘Before Crisis Final Fantasy VII’ ส่วนคำแซวที่ว่าหมี่หยกก็มาจากการแปลซับภาษาไทยในยุคนั้น ที่จงใจแปลเอาฮาจนเป็นกระแสในตอนนั้นนั่นเอง

Sephiroth ยังไม่ตาย

ถ้านับกันจริง ๆ ตั้งแต่ที่เซฟีรอธเสียชีวิตไปเมื่อครั้งอดีตด้วยฝีมือของคลาวด์ จนเซฟีรอธตกลงไปในกระแส ‘Lifestream’ แต่ด้วยความแข็งแกร่งของเจ้าตัว จึงทำให้เซฟีรอธสามารถมีตัวตนในโลกได้ เพราะในร่างของเซฟีรอธมีเซลของ ‘Jenova’ ในตัว จนเมื่อถูกฆ่าตายในเกมภาคหลัก เซฟีรอธก็ได้ทิ้งเศษซากของ ‘Jenova’ เอาไว้ เพื่อรอเวลารวมตัวกันเป็นสามหนุ่มคาดัจ, โลซ และยาซูเพื่อเป็นหลักประกันในการคืนชีพขึ้นมาบนโลกอีกครั้ง แต่สุดท้ายเซฟีรอธก็พ่ายแพ้แก่คลาวด์ ก่อนที่เซฟีรอธพูดทิ้งท้ายเอาไว้ว่า “ฉันไม่ต้องการเป็นแค่ความทรงจำ” ก่อนที่จะคืนร่างให้กับคาดาจ ที่ดูเหมือนร่างที่คืนชีพของเซฟีรอธนั้นจะไม่สมบูรณ์ ก่อนที่คาดาจจะตายและกลับคืนสู่ ‘Lifestream’ แบบเดียวกับวิญญาณคนอื่น ๆ โดยเรื่องราวของเซฟีรอธก็จบลงตรงนี้ไปพร้อมกับคลาวด์ (เกมไปเล่าเรื่องราวของตัวละครอื่น) จนเรื่องราวล่วงเลยมาที่ ‘Final Fantasy VII Remake’ หลายคนเลยเดาว่าเซฟีรอธที่ยังไม่ตายใน ‘Final Fantasy VII Advent Children’ แต่กลับไปสู่ ‘Lifestream’ คงมีแผนอะไรบางอย่างอีกแน่นอน

เรื่องราวใน Final Fantasy VII Remake คือเรื่องราวที่ต่อจาก Final Fantasy Vll Advent Children

ปิดท้ายกับการตอบข้อสงสัยของใครหลาย ๆ คนว่า เรื่องราวในภาพยนตร์ภาค ‘Final Fantasy VII Advent Children’ นั้นจะไปอยู่ตรงไหนของเรื่องราวในซีรีส์ เพราะตอนนี้เราได้เห็น ‘Final Fantasy VII Remake‘ ที่ถ้าใครเล่นจนจบหรือทราบเรื่องราวในเกมภาคนี้ จะทราบทันทีว่าเกมภาคนี้ไม่ใช่การ ‘Remake’ อย่างที่เราเข้าใจ แต่มันคือเรื่องราวภาคต่ออย่างเป็นทางการของซีรีส์ ‘Final Fantasy VII’ ที่มีการเปลี่ยนแปลงเรื่องราวในหลาย ๆ ส่วน ทั้งการเปลี่ยนเนื้อหาให้แซ็คไม่เสียชีวิตแบบในภาคหลัก รวมถึงตัวของแอริธที่รู้ว่าตนเองจะต้องตายในการเดินทางครั้งนี้ นั่นก็หมายความว่าเรื่องราวใน ‘Final Fantasy VII Advent Children’ คือเรื่องที่เกิดก่อน ‘Final Fantasy VII Remake’ ซึ่งถ้าเป็นแบบนั้นจริง ๆ เรื่องราวใน ‘Advent Children’ ก็จะไม่มีความหมายไปในทันทีถ้ามีการเปลี่ยนแปลงอดีตเกิดขึ้น ที่คงต้องรอดูกันต่อไปว่าเซฟีรอธจะใช้วิธีไหนในการหาทางฟื้นคืนชีพให้ตัวเอง รวมถึงปริศนาการไม่ตายของแซ็คที่เราเห็นตอนท้ายเกมคืออะไรคงต้องรอติดตามกันไป ส่วนเนื้อหาในภาค ‘Final Fantasy VII Advent Children’ ก็เป็นเหมือนชิ้นส่วนที่ขาดหายไป ที่อย่างน้อยคุณก็ต้องดูเอาไว้ถ้าอยากทราบเรื่องราวทั้งหมดในซีรีส์ ‘Final Fantasy VII’ เพราะในซีรีส์เกมนี้ถ้าขาดช่วงไหนไปอาจจะทำให้คุณงงได้เลยทีเดียว แถมตัวเกมจะไม่เล่าย้อนหรืออธิบายอะไรคุณทั้งนั้นแม้แต่ในภาพยนตร์ คุณต้องคิดตามเอาเองแบบที่เกิดขึ้นในภาพยนตร์ ‘Final Fantasy VII Advent Children’ เรื่องนี้ที่หลายคนงงว่ามันคืออะไรช่วงไหนของเกม แต่สำหรับคนที่ติดตามมาตลอดมันคือเรื่องราวที่สนุกซับซ้อนตื่นเต้น ที่ถ้าคุณอยากรับรู้เรื่องราวเหล่านี้ก็ต้องตามเล่นเกมให้ครบที่บอกเลยว่าเยอะมาก ๆ แต่รับรองว่าคุ้มค่าเวลาที่เสียไปแน่นอน

ก็จบกันไปแล้วกับการตอบข้อสงสัยของใครหลาย ๆ คนที่ได้ดูภาพยนตร์ ‘Final Fantasy VII Advent Children’ ที่อาจจะมีข้อสงสัยว่าอะไรคืออะไร คราวนี้จะได้ทราบคำตอบเสียที ส่วนใครที่ยังไม่ได้ดูแล้วมาอ่านบทความนี้ก่อนก็ถือว่าเป็นการปูพื้นฐานก่อนดูก็แล้วกัน เพราะเรื่องราวของ ‘Final Fantasy VII’ นั้นมีเยอะและลึกมาก ๆ ที่ถ้าเอาเรื่องราวทั้งหมดมาเขียนคงได้หนังสือเล่มหนา ๆ เลยทีเดียว ส่วนใครที่อยากทราบเรื่องราวอื่น ๆ ที่น่าสนใจของ ‘Final Fantasy VII’ ก็ลองไปย้อนอ่านบทความเก่า ๆ ของแบไต๋ได้ เราได้ทำเอาไว้แล้วหลายอัน แล้วคุณจะรู้ว่าทำไมคนถึงได้ชอบเกมซีรีส์ ‘Final Fantasy VII’ ได้ขนาดนี้ ส่วนคราวหน้าจะเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับอะไรในวงการเกมก็ติดตามกันได้ที่นี่ที่เดียว รับรองว่าคุณจะไม่พลาดบทความข่าวสารที่น่าสนใจอย่างแน่นอน

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส