แม่นี้มีบุญคุณอันใหญ่หลวงเชื่อว่าประโยคนี้หลายคนน่าจะเคยได้ยินมาตลอด ซึ่งเราก็คงจะไม่เถียงว่าประโยคนี้คือความจริงเพราะไม่ว่าลูกจะดีหรือร้ายแค่ไหนแม่ก็ยังคงรัก และดูแลลูกเสมอทั้งที่บางคนนั้นไม่ใช่แม่ผู้ให้กำเนิดแต่ก็คือแม่ในมุมมองของลูก และในมุมตรงข้ามความรักของแม่ที่เป็นความรักอันบริสุทธิ์ก็ใช่ว่าจะเป็นสิ่งสวยงามเสมอไป เพราะในบางมุมความรักของแม่นั้นที่มีให้ลูกนั้นก็สร้างความเดือดร้อนหรือสร้างนิสัยเสีย ๆ ให้ลูก เหมือนประโยคที่ว่า “พ่อแม่รังแกฉัน” หรือคนที่เราเรียกว่าแม่แต่เธอเหล่านั้นกลับทำตัวไม่สมกับเป็นแม่เลยก็มี เพื่อเป็นการต้อนรับวันแม่เราเลยไปค้นหาคุณแม่ยอดเยี่ยมและคุณแม่ยอดแย่ในโลกของวิดีโอเกมมานำเสนอ รับรองว่าคุณจะได้เห็นมุมมองของแม่ที่หลากหลายผ่านวิดีโอเกม เพื่อให้คุณรู้ว่าเหรียญนั้นมีสองด้านเมื่อมีคุณแม่ที่ดีก็ต้องมีคุณแม่ที่แย่รวมอยู่ด้วย เพื่อว่าคุณแม่ที่ได้อ่านจะได้รู้ว่าวิดีโอเกมนั้นก็มีมุมมองที่ลึกซึ้งไม่แพ้ภาพยนตร์เหมือนกัน จะมีคุณแม่ท่านใดบางนั้นมาดูไปพร้อมกันเลย

คุณแม่ยอดเยี่ยมแห่งวงการเกม

คุณแม่ที่เป็นปีศาจแต่ก็รักลูก Lady Dimitrescu จาก Resident Evil Village

Resident Evil Village

เริ่มต้นตัวละครแรกที่เราอยากยกย่องให้เธอเป็นคุณแม่ยอดเยี่ยมในโลกของวิดีโอเกม นั่นคือ เลดี้ ดิมิเทรสค์ (Alcina Dimitrescu) หญิงร่างใหญ่ขวัญใจหนุ่มน้อยหนุ่มเหลือน้อยของใครหลาย ๆ คนตั้งแต่ที่เธอปรากฏตัวในโลกของวิดีโอเกม ที่นอกจากขนาดตัวที่ใหญ่กว่าคนปกติและความโหดชนิดที่เรียกว่าฆ่าได้คือฆ่าแล้ว ดิมิเทรสค์ยังเป็นแม่ที่รักลูกมาก ๆ อีกด้วย โดยเราต้องย้อนกลับไปในอดีตของเธอสมัยที่ยังเป็นมนุษย์ ที่ชื่อจริงของเธอคือ อัลซิน่า ดิมิเทรสค์ (Alcina Dimitrescu) หญิงสาวตระกูลสูงศักดิ์ในช่วงก่อนสงครามโลกครั้งที่ 1 และเป็นหนึ่งในสี่ผู้ก่อตั้งหมู่บ้านบนภูเขาที่โดดเดี่ยวในยุโรป และถึงเธอจะสมบูรณ์พร้อมทุกอย่างแต่ตระกูลของเธอก็มีโรคเลือดทางพันธุกรรมที่สืบต่อกันมา จนเธอได้รับการทดลองฝังปรสิต ‘Cadou’ ในร่าง จนโรคเลือดทางพันธุกรรมก็หายไปจนหมดพร้อมขนาดร่างกายและพละกำลังที่มีมากขึ้น  และสิ่งที่ทำให้ดิมิเทรสค์เป็นคุณแม่ยอดเยี่ยมก็คือเธอคือคุณแม่ลูก 3 ที่เธอรับเลี้ยงเป็นลูกบุญธรรมซึ่ง 3 สาว ที่ว่านี้ก็คือหนึ่งในตัวทดลองที่ประสบความสำเร็จ ดิมิเทรสค์จึงรับเลี้ยงทั้ง 3 คนพร้อมกับให้ความรักเหมือนลูกแท้ ๆ ที่เมื่อดิมิเทรสค์ทราบว่าลูก ๆ ของเธอถูกฆ่า ดิมิเทรสค์ก็โกรธและตามล่าเราแบบเอาเป็นเอาตายนับเป็นคุณแม่ที่รักลูกอย่างแท้จริง

Resident Evil Village

คุณแม่ที่ปกป้องลูกจนเป็นวิญญาณอาฆาต Garagara จาก Pokemon Let’s Go Pikachu! and Eevee!

Pokemon Let's Go Pikachu! and Eevee!

ความรักของแม่นั้นไม่ได้จำกัดเพียงแค่มนุษย์เพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่เหล่าสัตว์ก็มีความรักลูกไม่ต่างจากมนุษย์เหมือนอย่างคุณแม่ การาการา (Garagara) จากเกม ‘Pokemon Let’s Go Pikachu! and Eevee!’ ที่เป็นการนำเกม ‘Pokemon’ ภาคแรกสุดมาพัฒนาดัดแปลงใหม่และเปลี่ยนเนื้อหาหลาย ๆ ส่วนให้เข้ากับยุคสมัย หนึ่งในนั้นก็คือเรื่องราวของคุณแม่การาการาที่เป็น ‘Pokemon’ ไดโนเสาร์ที่สวมกะโหลกเป็นหมวก โดยเรื่องราวในตอนนี้จะเป็นช่วงที่เราเดินทางมาถึง ‘Lavender Town’ ที่เป็นหอคอยสุสานสำหรับ ‘Pokemon’ ที่เราจะได้เห็น ‘Team Rocket’ ฝ่ายตัวร้ายพยายามจะจับ คาระคาระ (Karakara) เพราะกะโหลกของมันขายได้ราคาดีแต่การาการาผู้เป็นแม่ก็ปกป้องลูกจนตัวตาย ทำให้วิญญาณคุณแม่การาการากลายเป็นวิญญาณอาฆาตทำร้ายผู้คนใน ‘Lavender Town’ ซึ่งเราที่ได้รับการขอร้องจากคาระคาระผู้เป็นลูกให้ช่วยปลดปล่อยแม่ เราจึงต้องขึ้นไปบนนั้นจนทำให้แม่ลูกได้เจอกัน และด้วยความรักที่แม่มีต่อลูกจึงทำให้วิญญาณของการาการาผู้เป็นแม่เปลี่ยนจากวิญญาณอาฆาตกลายเป็นวิญญาณที่สงบและไปเกิดในที่สุด ที่ต้องเรียกว่าพลังแห่งสายสัมพันธ์แม่ลูกที่ต่างช่วยเหลือกันแม้จะอยู่คนละภพแล้วก็ตาม

Pokemon Let's Go Pikachu! and Eevee!

ความรักที่แม่มีให้จึงทำให้เด็กน้อยยังคงจิตใจอันบริสุทธิ์อยู่ Bridgette Tenenbaum จาก BioShock

BioShock

อีกหนึ่งคุณแม่ที่ไม่ใช่แม้แท้ ๆ แต่เธอก็ให้ความรักและห่วงใยเด็ก ๆ ที่เธอสร้างดั่งลูกแท้ ๆ กับ บริจิด เทเนนบาม (Bridgette Tenenbaum) นักพันธุศาสตร์ที่ค้นพบสาร ‘ADAM’ ที่เป็นสารสุดพิเศษที่ทำให้มนุษย์มีพลังพิเศษ และเธอก็เป็นหนึ่งในคนที่ผลิตยานี้ออกขายในเมืองใต้ทะเลจนผู้คนบ้าคลั่งฆ่ากันเอง แถมเธอยังเป็นแม่ของเหล่า ‘Little Sisters’ ที่เป็นเด็กหญิงซึ่งถูกลักพาตัวมาจากโลกเบื้องบน เพื่อทำการทดลองเปลี่ยนเด็ก ๆ ให้เป็นเด็กพิเศษซึ่งเปลี่ยนพันธุกรรมและสภาพจิตใจเพื่อให้เด็ก ๆ ไปเก็บ ‘ADAM’ จากศพคนในเมืองใต้ทะเล จากเกมซีรีส์ ‘BioShock’ ซึ่งตัวของบริจิดนั้นไม่เห็นด้วยกับการจับตัวเด็ก ๆ มาทำการทดลองแบบนี้ แต่เมื่อบริจิดขัดนายใหญ่ไม่ได้เธอจึงให้ความรักและดูแลเหล่า ‘Little Sisters’ อย่างดีเหมือนแม่ดูแลลูก ๆ เราจึงได้เห็นจิตใจอันอ่อนโยนและความเป็นเด็กน้อยยังคงอยู่ในตัว ‘Little Sisters’ ที่ไม่ใช่แค่ตัวทดลองที่ไร้จิตใจ ที่ตอนเล่นเราจะเห็นเหล่าเด็กน้อยยิ้มหัวเราะเล่นของเล่นเหมือนเด็กธรรมดา ซึ่งทั้งหมดนั้นก็มาจากความรักและการเอาใจใส่ของบริจิดที่ให้ความรักจนเด็ก ๆ จนเหล่า ‘Little Sisters’ ไม่สูญเสียจิตใจในส่วนนั้นไป และเมื่อเธอมีโอกาสที่จะช่วยเหล่าลูก ๆ ของเธอ บริจิดก็พร้อมจะทำทันทีอย่างไม่ลังเลที่นับเป็นคุณแม่ยอดเยี่ยมอีกหนึ่งคนที่เราต้องหยิบมาพูดถึง

BioShock

จากลูกผู้เคยถูกปกป้องเปลี่ยนมาเป็นแม่ผู้คุ้มครองลูก Clementine จาก The Walking Dead

The Walking Dead

ปิดท้ายกับคุณแม่ยังสาวในโลกที่เต็มไปด้วยซอมบี้กับสาวน้อย คลีเมนไทน (Clementine) จากซีรีส์หนีตายในดงซอมบี้อย่าง ‘The Walking Dead’ ที่เปิดเรื่องราวของเด็กผู้หญิงที่ติดอยู่ในบ้านต้นไม้เพราะกลัวพี่เลี้ยงที่กลายเป็นซอมบี้ จนสุดท้ายคลีเมนไทนก็ได้รับการเลี้ยงดูและปกป้องจาก ลี เอเวอเร็ตต์ (Lee Everett) โจรที่ก่อคดีจนถูกจับไปโรงพัก ที่ระหว่างเดินทางด้วยรถตำรวจก็ได้เกิดอุบัติเหตุจนลีหนีออกมาได้และเจอกับสาวน้อยคลีเมนไทน นับจากนั้นทั้งคู่ก็อยู่ด้วยกันประหนึ่งพ่อลูกที่ดูแลซึ่งกันและกัน จนวันหนึ่งลีได้จากไปคลีเมนไทนจึงต้องเอาตัวรอดในโลกซอมบี้ด้วยตัวเอง และแล้ววันที่เธอต้องเป็นผู้ปกป้องในฐานะแม่ก็มาถึง เมื่อคลีเมนไทนได้พบกับครอบครัวหนึ่งที่หญิงสาวกำลังตั้งท้อง ซึ่งสุดท้ายคุณแม่ของเด็กก็เสียชีวิตจนทำให้คลีเมนไทนต้องกลายเป็นคุณแม่จำเป็นในการดูแล เอเจ (AJ) เด็กทารกคนนี้ประหนึ่งคุณแม่ที่ปกป้องลูก เหมือนที่เธอเคยได้รับการปกป้องมาจากลีที่เป็นเหมือนพ่อของเธอ ที่แม้ทั้งคู่จะไม่ใช่แม่ลูกกันแท้ ๆ แต่ความรักและการดูแลปกป้องอาจจะมีมากกว่าคนที่เป็นแม่หลาย ๆ คนในชีวิตจริงเสียอีก

The Walking Dead

คุณแม่ยอดแย่แห่งวงการเกม

แม่รังแกฉัน Freya จาก God of War

 God of War

จากคุณแม่ยอดเยี่ยมไปแล้วคราวนี้มาดูคุณแม่ยอดแย่กันบ้าง เริ่มต้นคุณแม่ยอดแย่คนแรกกับคำจำกัดความว่า “พ่อแม่รังแกฉัน” กับ เฟรย่า (Freya) เทพเจ้าผู้รักลูกในทางที่ผิดจากซีรีส์ ‘God of War’ ที่ต้องเริ่มต้นทำความรู้จักเฟรย่ากันก่อน ว่าตัวของเธอนั้นเป็นเทพที่แต่งงานกับโอดินน์ (Odin) แต่ด้วยความผิดพลาดเมื่อครั้งอดีตจึงทำให้เธอถูกสาปจากโอดินน์ให้อยู่ใน ‘Midgard’ แต่ถึงอย่างนั้นทั้งคู่ก็มีลูกชายหนึ่งคนที่ชื่อ บราเดอร์ (Baldur) ซึ่งด้วยพลังเวทมนตร์ที่เฟรย่ามีเธอจึงรู้อนาคตว่าบราเดอร์ลูกชายของตนจะต้องตายก่อนวันอันควร ด้วยความรักจากผู้เป็นแม่เธอจึงเสกให้ลูกชายเป็นอมตะไม่ตายจากการต่อสู้ แต่สิ่งที่ต้องแลกกับความอมตะก็คือการไม่สามารถรับรู้อะไรได้เลย รวมทั้งรสชาติความรู้สึกความเจ็บปวดไปจนถึงความสุข ทำให้บราเดอร์มีแต่ความโกรธแค้นแม่ของตนและต้องการให้เฟรย่าผู้เป็นแม่ปลดคาถานี้ไปเสีย แต่ด้วยความรักที่มีเธอต่อลูกจึงไม่ยอมปลดคาถานี้แม้ลูกจะเกลียดเธอขนาดไหนก็ตาม แต่สุดท้ายแล้วบราเดอร์ก็จบชีวิตลงเพราะการช่วยเหลือจาก เครโทส (Kratos) ที่ฆ่าบราเดอร์ก่อนที่ลูกทรพีจะฆ่าแม่ของตน แต่แทนที่เฟรย่าจะขอบคุณเครโทสที่ช่วยผลกับตรงข้าม เพราะเฟรย่ากับโทษว่าความผิดทั้งหมดมาจากเครโทสเป็นคนทำ จนกลายเป็นว่าความรักของแม่นี่ละที่เป็นคนทำร้ายจิตใจของลูกจนวินาทีสุดท้าย ซึ่งแทนที่จะทำตามที่ลูกชายต้องการคือการตายอย่างนักรบให้สมศักดิ์ศรี แต่เฟรย่ากลับใช้ความรักของแม่ทำลายศักดิ์ศรีนักรบของลูกจนวินาทีสุดท้าย ที่แม้เราจะพูดแบบนี้แต่สุดท้ายเราก็คงต้องย้อนมาถามตัวเองว่า “ถ้าคุณเป็นพ่อแม่ที่รู้ว่าลูกตัวเองจะตายคุณจะทำแบบเฟรย่าไหม” ลองเอาไปคิดดูกัน

 God of War

แม่ที่รักลูกเปลี่ยนเป็นแม่ที่ใจร้าย Queen Brahne จาก Final Fantasy IX

Final Fantasy IX

อย่างที่เราได้บอกไปในตอนต้นว่าความรักจากผู้เป็นแม่นั้น ไม่จำเป็นต้องมาจากความรักของแม่แท้ ๆ ที่ให้กำเนิดเสมอไป เหมือนอย่างความรักระหว่าง ราชินี บราห์น (Queen Brahne) กับ เจ้าหญิง การ์เน็ต (Princess Garnet) จากเกม ‘Final Fantasy IX’ ที่เราได้เห็นความโหดร้ายจากผู้เป็นแม่เลี้ยงที่ต้องการดึงพลังจากลูกสาวออกมา เพื่อใช้ในการปกครองดินแดนต่าง ๆ จนเมื่อลูกสาวหมดประโยชน์ราชินีบราห์นก็สั่งประหารลูกสาวตนเองอย่างเลือดเย็นตามที่เราเห็นในเกม แต่ความจริงแล้วก่อนที่ราชินีบราห์นจะเป็นคนโหดเหี้ยมแบบนี้ ในอดีตเธอเคยเป็นแม่ที่แสนดีมาก่อน เพราะตั้งแต่ที่ราชินีบราห์นได้เจอกับเจ้าหญิงการ์เน็ตบนชายหาด ซึ่งหน้าของเจ้าหญิงก็เหมือนลูกสาวที่เสียชีวิตไปพอดี ราชินีบราห์นจึงรักและดูแลเจ้าหญิงการ์เน็ตเป็นอย่างดีและให้ความรักดุจแม่แท้ ๆ แต่เมื่อวันเวลาผ่านไปเมื่อพระราชาเสียชีวิต ตัวของราชินีบราห์นก็เปลี่ยนไปจากคนที่ใจดีน่ารักก็กลายเป็นคนขี้โมโหและใจร้ายกับทุกคนเพราะถูกคนที่ไม่หวังดียุยง แต่ถึงอย่างนั้นราชินีบราห์นก็ยังคงดีกับเจ้าหญิงการ์เน็ต จนเมื่อความโลภและความมืดปกคลุมจิตใจ จึงทำให้ราชินีบราห์นลืมความรักที่เคยมีให้เจ้าหญิงการ์เน็ต จนสั่งฆ่าลูกที่ตนเองรักไปโดยไม่รู้ตัวซึ่งสุดท้ายแล้วเมื่อทุกอย่างยุติลง ราชินีบราห์นก็ขอการให้อภัยจากลูกสาวที่ได้ทำไปก่อนตัวเองจะสิ้นใจ ซึ่งเจ้าหญิงการ์เน็ตก็ให้อภัยและยังรักท่านแม่คนนี้แม้เธอจะเปลี่ยนไปขนาดไหนก็ตาม ซึ่งเกมนี้ได้บอกให้เรารู้ว่าความรักของลูกนั้นไม่แปลงแม้แม่จะเป็นปีศาจไปแล้วก็ตาม

Final Fantasy IX

มีแม่เมื่อพร้อมแต่ใครจะเลือกได้ Dahlia Gillespie จาก Silent Hill

Silent Hill

ถ้ามีการจัดอันดับคุณแม่ยอดแย่ในโลกวิดีโอเกม แล้วขาด ดาห์เลีย กิลเลสพาย (Dahlia Gillespie) จากซีรีส์ ‘Silent Hill’ ไปบทความนี้คงจะขาดความสมบูรณ์ไปในทันที เพราะตัวของดาห์เลียนั้นจัดเป็นตัวละครตัวแสบของวงการเกมได้เลยทีเดียว เพราะถ้าใครเคยเล่นเกม ‘Silent Hill’ ภาคแรกมา คงจะจำได้ว่าตัวของดาห์เลียนั้นรักและเป็นห่วงลูกสาวขนาดไหน แถมยังพร้อมให้ช่วยเราในการไปช่วยลูกสาวที่หายตัวไปในเมืองห่าผีนี้ด้วย (แสนดีจริง ๆ) แต่สุดท้ายแล้วเราก็มาทราบความจริงว่าตัวของผู้เล่นนั้นโดนดาร์เลียเธอปั่นหัวมาตลอด เพราะสิ่งที่เธอช่วยเรานั้นมันคือการหลอกเราให้เธอไปเจอลูกสาว ซึ่งเหตุผลที่มีเมืองห่าผีนี้ของลูกสาวก็เพื่อกันแม่มาหาตน แต่เรากลับเป็นคนพาแม่ไปหาลูกสาวเสียอย่างนั้น แถมทุกสิ่งที่เกิดขึ้นมาทั้งหมดในเกมนี้ก็มาจากตัวของดาห์เลียที่ต้องการปลุกพระเจ้าในตัวลูกสาวออกมา โดยการจุดไฟเผา อเลสซ่า (Alessa) ลูกสาวตัวเองให้เป็นแผลไฟไหม้ระดับสี่ และเก็บลูกสาวเอาไว้ในความเจ็บปวดแสนสาหัสพร้อมความทุกข์ทรมานเป็นเวลา 7 ปี เพื่อดึงพลังที่อยู่ในตัวลูกสาวให้ออกมาเพื่อให้กำเนิดพระเจ้า แถมก่อนหน้านี้ดาห์เลียก็ไม่เคยสนใจใยดีลูกสาวอยู่แล้ว และการมีลูกของเธอก็เพื่อเป้าหมายเดียวนั่นคือการปลุกพระเจ้า ที่สุดท้ายแล้วพระเจ้าที่เธอปลุกขึ้นมาก็คือปีศาจขึ้นมาแทน ที่เรียกว่าเลี้ยงลูกอย่างไรก็ได้อย่างนั้น ซึ่งน่าสงสารอเลสซ่าที่มีแม่แบบนี้จริง ๆ

Silent Hill

ห่วงสามีมากกว่าลูก Annette Birkin จาก Resident Evil 2 Remake

 Resident Evil 2 Remake

ปิดท้ายกับฝั่งคุณแม่ยอดแย่ของวงการเกม ที่ถ้าใครเคยเล่น ‘Resident Evil 2 Remake’ มาจะทราบดีว่าตัวละคร แอนเน็ท เบอร์กิน (Annette Birkin) นั้นคือคุณแม่ยอดแย่อีกหนึ่งคนในวงการเกม เพราะตัวของแอนเน็ทนั้นแทบไม่สนใจใยดีลูกสาวของเธอเลย เพราะตั้งแต่ที่เกิดเหตุไวรัสรั่วไหลจนทำให้คนกลายเป็นซอมบี้ แถมสามีของเธออย่าง วิลเลียม เบอร์กิน (William Birkin) ก็กลายเป็นสัตว์ประหลาด แต่แอนเน็ทก็เอาแต่ตามสามีเพื่อดูผลการเปลี่ยนแปลงว่าจะเกิดอะไรขึ้น โดยที่ไม่สนใจหรือคิดจะตามหาลูกเลยว่าตอนนี้ปลอดภัยดีไหม ลองคิดดูว่าตอนนี้เมืองมีแต่ซอมบี้เดินไปมาเต็มเมืองคุณจะคิดถึงความปลอดภัยของลูกไหม แต่สิ่งที่แอนเน็ททำเมื่อเจอลูกเธอกลับต่อว่าลูกสาวที่มาหาตนที่โรงพักแทนที่จะแอบอยู่ที่บ้าน นี่ยังไม่นับการจับลูกสาวตัวเองขังเพื่อดูอาการเมื่อทราบว่า เชอร์รี่ เบอร์กิน (Sherry Birkin) ติดเชื้อจากผู้เป็นพ่อ ซึ่งตัวของแอนเน็ทก็รู้ว่ามียารักษาลูกแต่แทนที่จะทำแบบนั้น แอนเน็ทกลับขังลูกเอาไว้เพื่อดูความเปลี่ยนแปลงเสียอย่างนั้น จนวินาทีสุดท้ายของชีวิตตัวเองเพิ่งรู้ว่าได้ทำหน้าที่แม่ได้แย่และของการให้อภัยจากลูก ยังดีที่คิดได้ตอนวินาทีสุดท้ายของชีวิตแม้จะช้าไปหน่อยก็ตาม

 Resident Evil 2 Remake

ก็จบกันไปแล้วกับ 8 คุณแม่ยอดเยี่ยมและคุณแม่ยอดแย่ที่เราเอามานำเสนอ โดยเป้าหมายของบทความนี้ต้องการบอกให้หลายคนได้ทราบว่าเหรียญนั้นมีสองด้านเสมอ รวมทั้งความรักของแม่ที่บางครั้งความรักนั้นก็นำพายาพิษมาสู่ลูก จนกลายเป็นการทำร้ายลูกโดยที่ไม่รู้ตัว อีกด้านหนึ่งความรักของแม่ลูกนั้นบางทีก็ไม่จำเป็นต้องมาจากแม่ลูกแท้ ๆ เสมอไป เพราะคำว่าแม่นั้นมีหลายความหมายหลายแบบตามแต่ที่เราจะจำกัดความ และเมื่ออ่านบทความนี้จบก็ขอให้ลูกทุกคนรักแม่มาก ๆ บอกรักและกอดท่านเพื่อให้รู้ว่าลูกคนนี้ยังรักแม่อยู่ เพราะเชื่อเถอะว่าไม่มีแม่คนไหนที่ไม่อยากรับความรักจากลูก และขอให้คุณแม่ทุกท่านสุขภาพแข็งแรงอยู่กับลูก ๆ ไปนาน ๆ ทุกครอบครัว

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส