เริ่มต้นเข้าสู่เดือนตุลาคมเป็นที่เรียบร้อยกับเกมต่าง ๆ ที่เริ่มทยอยกันออกวางจำหน่ายช่วงปลายปีที่อาจจะทำให้คนเล่นเกมกระเป๋าฉีก แต่ในบรรดาเกมที่ออกวางจำหน่ายก็ยังมีเกมดี ๆ ที่เปลี่ยนตัวเองมาเป็นเกมฟรีอย่าง ‘Overwatch 2’ ที่จะปล่อยให้เราทุกคนได้เล่นพร้อมกันทั่วโลกในวันที่ 5 ตุลาคม ซึ่งก่อนหน้านี้ตัวเกม ‘Overwatch’ คือเกมเสียเงินซื้อที่เคยได้รับความนิยมอย่างสูงตอนที่เกมปล่อยออกมา จนเมื่อกาลเวลาผ่านไปตัวเกมก็ค่อย ๆ เสื่อมความนิยมจนเมื่อมีการประกาศภาค 2 ออกมา พร้อมกับการเล่นฟรีเลยทำให้มีผู้เล่นหน้าใหม่สนใจมากมาย แต่หลายคนที่จะเข้ามาก็ไม่รู้ว่าตัวเกมเป็นอย่างไร และมีอะไรน่าสนใจหรือสิ่งที่ควรรู้บ้าง เมื่อเป็นอย่างนั้นเราเลยจะมาแนะนำการเล่นเกม ‘Overwatch 2’ สำหรับมือใหม่ที่ไม่รู้จักเกมนี้เลย ให้รู้ว่าเกมนี้มีอะไรที่น่าสนใจบ้าง โดยเราจะขอข้ามระบบต่าง ๆ ที่ซับซ้อนออกไปสำหรับคนที่เป็นผู้เล่นเก่า แต่จะขอแนะนำระบบแบบพื้นฐานที่เข้าใจง่ายให้มือใหม่ที่สนใจได้รู้ว่าเกมนี้คืออะไรมีรูปอย่างไร เพื่อคุณจะได้เล่นเกมนี้สนุกมากขึ้น ถ้าพร้อมแล้วก็เตรียมตัวสวมชุดแล้วมาเป็นฮีโรปกป้องโลกกันเลย

ทำความรู้จักเกม Overwatch 2

Overwatch 2

เริ่มต้นเรื่องแรกเรามาทำความรู้จักเกม ‘Overwatch 2’ สำหรับคนที่ไม่รู้จักเกมนี้ว่าคืออะไร ตัวเกม ‘Overwatch 2’ คือเกมออนไลน์แบ่งทีม 5 ต่อ 5 มุมมองบุคคลที่ 1 (เห็นแค่มือกับปืน) เพื่อแข่งกันในสนามต่าง ๆ ตามที่เกมกำหนด ไม่ว่าจะเป็นการแข่งกันยึดจุดให้ได้นานที่สุด การคุ้มกันรถที่กำลังวิ่งหรือเป็นฝ่ายตรงข้ามที่ไม่ให้รถไปถึงที่หมายก่อนเวลาหมด ซึ่งความสนุกของเกมนี้คือตัวละครจะถูกแบ่งออกเป็น 3 สายหลัก ๆ คือ ‘Tank’ ตัวบุกหรือป้องกันที่หัวใจหลักของทีม ‘Damage’ ตัวบุกของทีม และ ‘Support’ หน่วยรักษา ซึ่งทุกคนจะมีหน้าที่ของตัวเองในการเล่น ที่เกมจะแบ่งให้เราว่าจะอยู่สายไหน และเราสามารถเปลี่ยนตัวละครในสายตัวเองได้อย่างอิสระเพื่อให้เหมาะกับตัวเกมในตอนนั้น โดยในหนึ่งทีมจะถูกแบ่งเป็น ‘Tank’ 1 ที่เหลือจะแบ่งเป็นสายละ 2 คน โดยทุกตัวละครจะมีรูปแบบการควบคุมการใช้ท่าที่ต่างกัน จนเราต้องมาเรียนรู้ทีละตัวว่าตัวไหนเป็นอย่างไรถนัดมือไหม ที่ต่างกับเกมอื่นที่ทุกตัวละครจะมีรูปแบบควบคุมเหมือน ๆ กันหมด ที่ตอนแรกคุณลองเลือกจากตัวที่ชอบก่อนแล้วค่อย ๆ ฝึกรับรองว่าคุณจะสนุกกับเกมนี้แน่นอน

Overwatch 2

Overwatch 2 คือเกมฟรีที่ลงให้กับทุกเครื่อง

Overwatch 2

มาต่อกันกับสิ่งที่แฟน ๆ เกมนี้อยากรู้มากที่สุดก็คือเกม ‘Overwatch 2’ นั้นสามารถเล่นบนเครื่องเกมไหนได้บ้าง ซึ่งจากข้อมูลที่ทาง ‘Blizzard Entertainment’ ผู้พัฒนาเกมต้องการให้เกม ‘Overwatch 2’ เข้าถึงผู้เล่นให้มากที่สุด ตัวเกมจึงแทบไม่มีการเปลี่ยนแปลงเพิ่มเติมกราฟิกให้มากไปกว่าเดิมเพื่อสิ่งนี้ ดังนั้นจึงสบายใจได้เลยว่าถ้าเครื่อง ‘PC’ ของคุณสามารถเล่น ‘Overwatch’ ภาคแรกได้ ก็สามารถเล่นเกมนี้ได้ในภาค 2 ได้ไม่มีปัญหา ซึ่งนั่นก็รวมถึงเครื่องเกมพกพาอย่าง ‘Nintendo Switch’ ก็สามารถเล่นเกมนี้ได้ ซึ่งล่าสุดข้อมูลบอกว่าบนเครื่อง ‘Nintendo Switch’ สามารถเข้ามาเล่นเกมได้เลยไม่ต้องสมัคร ‘Nintendo Switch Online’ หรือจะสรุปง่าย ๆ ก็คือทุกเครื่องเกมในตลาดตอนนี้สามารถเล่นเกมนี้ได้หมด แถมทุกเครื่องจะมาพบกันหมดไม่มีการแยกเครื่องใครเครื่องมันแบบภาคแรกอีกแล้ว หรือพูดง่าย ๆ ถ้าเพื่อนคุณเล่นบน ‘PC’ ส่วนคุณเล่นบน ‘PlayStation 5’ ก็สามารถเจอกันได้นั่นคือความพิเศษของภาคนี้ที่หลายคนรอคอย

Overwatch 2

สายฟรีอยู่ได้แค่ขยันเล่น

Overwatch 2

อีกหนึ่งคำถามที่หลายคนสงสัยว่าเมื่อเกมนี้เป็นเกมฟรี นั่นก็หมายถึงการเติมเงินในเกมเพื่อซื้อสิ่งต่าง ๆ ที่อาจจะกลายเป็นคนเติมเยอะก็เก่งเร็วกว่าคนไม่เติมแบบเกมอื่น ๆ รึเปล่า นั่นคือคำถามที่คนไม่เคยเล่นเกมนี้สงสัย คำตอบก็คือไม่ต้องกลัวไปเพราะเกมนี้จะมีระบบการเติมเงินเพื่อซื้อชุดแต่งตัวละครแบบต่าง ๆ ไปจนถึงตัวละครในเกมเท่านั้น ซึ่งทั้งหมดไม่มีผลกับตัวเกม จะเก่งหรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับฝีมือของคุณในการเล่น และความสามัคคีของเพื่อนร่วมทีมว่าจะช่วยกันเอาชนะอีกฝ่ายได้ไหม ส่วนสายฟรีที่ไม่อยากเติมก็สามารถได้ชุดสวย ๆ แบบคนเติมแต่อาจจะต้องเล่นเกมบ่อย ๆ หรือทำตามที่เกมกำหนดเพื่อรับเหรียญมาแลกชุดหรือสิ่งต่าง ๆ ในเกม แต่บางชุดก็มีแค่การเติมเงินเท่านั้นที่จะได้มา ซึ่งตัวคุณจะทนได้ไหมอันนี้ก็อีกเรื่อง และนอกจากนี้ผู้เล่นใหม่ที่เป็นสายฟรีเมื่อเปิดเกมมาจะมีตัวละครให้เล่นไม่กี่ตัว คุณต้องเล่นเพื่อปลดตัวละครออกมาตามที่เกมกำหนด หรือถ้าไม่อยากเสียเวลาและอยากได้ตัวละครครบก็ต้องซื้อชุดพิเศษหรือมีข้อมูลเกมจากภาคก่อนจึงจะมีตัวละครครบ พอเป็นเกมฟรีก็จัดทุกเม็ดจริง ๆ

Overwatch 2

3 สายอาชีพหลักของเกม

Overwatch 2

คราวนี้มาดูอาชีพหรือสายหลัก ๆ ของเกมนี้ที่ตัวเกมจะแบ่งออกเป็น 3 สายที่เกมจะให้เราเลือกก่อนเข้าสนามว่าจะเลือกเล่นสายไหน หรือจะเลือกมันทั้งสามสายไปเลยแล้วรอเกมสุ่มเลือกให้ เพราะถ้าคุณเลือกสายเองบางทีอาจจะต้องรอห้องนานอย่างสาย ‘Damage’ ที่มีคนเล่นเยอะอาจจะรอนานกว่าจะคุณจะได้เล่น ส่วนสำหรับมือใหม่ที่ยังไม่รู้ว่าสายไหนทำหน้าที่อะไรเรามาดูกันทีละหัวข้อเลย

Overwatch 2

Tank

Overwatch 2

เริ่มต้นด้วยสาย ‘Tank’ หัวใจหลักของทีมที่จะมีได้ 1 คนต่อหนึ่งทีมเท่านั้น โดยสายนี้จะทำหน้าที่เป็นทั้งตัวบุกแนวหน้าให้กับเพื่อน ๆ และยังเป็นแนวตั้งรับที่ยอดเยี่ยมที่ยากจะล้ม เพราะพลังโจมตีและพลังป้องกันที่สูงกว่าสายอื่น จึงสามารถยืนเดียวลุยแหลกได้ แต่ข้อเสียคือความเชื่องช้าและไม่สามารถรักษาตัวเองได้ จึงต้องคอยอาศัยเพื่อนช่วยสนับสนุน แถมหลายตัวในสายนี้ก็ตัวใหญ่จึงเป็นเป้าให้ยิงได้ง่ายแต่ก็ถูกทดแทนด้วยโล่หรือรักษาตัวเองได้ ที่คุณต้องลองเอามาใช้ดูเพราะนอกจากโล่แล้วบางตัวก็เคลื่อนที่เร็วบางตัวรักษาตัวเองได้ แต่ก็ถูกชดเชยด้วยพลังโจมตีที่ไม่สูง แต่หลัก ๆ ที่เหมือนกันคือความอึดถึงทน ใครชอบแนวลุยเดี่ยวสายนี้ไม่ควรพลาด

Overwatch 2

Damage

Overwatch 2

มาต่อที่สายยอดนิยมประจำเกมนี้กับ ‘Damage’ ที่มีตัวละครให้เลือกเล่นที่สุดจากทั้งหมด โดยสายนี้จะเป็นหน่วยโจมตีเป็นหลัก ที่จะเน้นการบุกลุยตามหลัง ‘Tank’ หรือไปปั่นป่วนแนวหลังก็สามารถทำได้ ซึ่งในเกมจะมีตัวละครจะหลากหลายแบบให้เราเลือกใช้ ทั้งการโจมตีระยะไกล แบบตั้งป้อมปืนดักศัตรู แบบปืนกลกรายิงรัว ๆ ไปจนถึงการวางกับดักก็มีให้เลือกใช้ ใครที่อยากเล่นสายนี้อาจจะต้องรอห้องนานกว่าสายอีก แต่เมื่อได้เล่นรับรองว่าสนุกไม่ผิดหวังแน่นอน

Overwatch 2

Support

Overwatch 2

ปิดท้ายด้วยสายที่สำคัญที่สุดแต่มีคนเล่นน้อยที่สุดอย่าง ‘Support’ หรือหน่วยสนับสนุนที่มีพลังโจมตีที่เบากว่าสายอื่น แต่ทดแทนด้วยการรักษาตัวเองได้เมื่อไม่ถูกโจมตี และสามารถรักษาเพื่อน ๆ ทั้งแบบทีละคนไปจนถึงฟื้นพลังทั้งกลุ่ม นอกจากนี้ยังมีการสนับสนุนทางพลังโจมตีพลังป้องกันได้ด้วย ซึ่งสายนี้มักจะอยู่แนวหลังเพื่อคอยช่วยเพื่อนจึงไม่ค่อยได้ลุยเมื่อเทียบกับเพื่อน ๆ อีกสองสาย แต่เชื่อเถอะว่าถ้าขาดสายนี้ไปทีมเก่งขนาดไหนก็ไม่รอด ลองฝึกดูดี ๆ แล้วคุณจะเก่งแกร่งกว่าทั้งสองสายเสียอีก

Overwatch 2

ระบบการเล่น 4 โหมดหลักที่มือใหม่ควรรู้

Overwatch 2

หลังจากที่รู้จักสายของตัวละครไปแล้วคราวนี้มาดูโหมดการเล่นที่เป็นหัวใจหลักของเกมนี้กัน ซึ่งจะแบ่งการเล่นออกเป็น 4 หมวดใหญ่ ๆ ก็คือ ‘Payload’ คุ้มกันรถ ‘Control’ ยึดจุดที่เกมกำหนดรวมถึงลูกผสมอย่าง ‘Control Point’ ที่เอาทั้งสองอย่างมารวมกันในฉากเดียว และโหมดใหม่อย่าง ‘Push’ ที่ทั้ง 4 โหมดนั้นจะมีรูปแบบการเล่นที่ต่างกัน ซึ่งมือใหม่ควรรู้เอาไว้ว่าโหมดไหนเล่นอย่างไร พอเข้าไปจะได้รู้ว่าฉากนี้คืออะไรจะได้ไม่ถูกเพื่อน ๆ ว่าตอนเล่น เรามาดูกันว่าโหมดต่าง ๆ มีอะไรบ้าง

Overwatch 2

Payload

Overwatch 2

โหมด ‘Payload’ หรือพูดภาษาชาวบ้านคือโหมดคุ้มกันรถ ที่เมื่อเปิดเกมมาเราจะถูกแบ่งเป็น 2 ทีมฝ่ายหนึ่งต้องคุ้มกันรถให้วิ่งไปถึงจุดหมายก่อนเวลาหมด ซึ่งตามจุดต่าง ๆ บนแผนที่ก็จะมีการเพิ่มเวลาเมื่อรถวิ่งไปถึง ขณะที่อีกฝ่ายก็ต้องพยายามทำให้รถไปไม่ถึงที่หมาย และจะถูกปล่อยตัวออกมาก่อนถึงเวลาเพื่อวางแผนดักอีกฝ่าย ซึ่งเมื่อฝ่ายบุกยึดรถได้ด้วยการกำจัดฝ่ายตรงข้ามที่อยู่รอบรถจนหมดตัวรถจะหยุดวิ่งและรถจะค่อย ๆ วิ่งถอยหลังอย่างช้า ๆ  ขณะที่ฝ่ายรับก็สามารถทำด้วยวิธีเดียวกัน การต่อสู้ในโหมดนี้จึงต้องใช้การรุกและรับที่รู้หน้าที่ว่าใครต้องบุกใครสนับสนุนและใครควรล้วงหลัง ที่บอกเลยว่าสนุกตื่นเต้นมาก ๆ

Overwatch 2

Control

Overwatch 2

โหมด ‘Control’ หรือยึดจุดเป็นโหมดการเล่นง่าย ๆ ที่ทั้งสองฝ่ายจะต้องวิ่งมายังพื้นที่ตรงกลางของสนามเพื่อแย่งชิงพื้นที่กัน โดยการแย่งชิงพื้นที่จะทำได้ต่อเมื่อฝ่ายเรายืนอยู่ในพื้นที่ตรงนั้นโดยที่ไม่มีฝ่ายศัตรูอยู่เกมก็จะคิดเวลาฝ่ายเรา แต่ถ้าอีกฝ่ายเข้ามาต่อสู้เกมก็ยังคงนับเวลาฝั่งเราไปเรื่อย ๆ จนกว่าฝ่ายเราจะตายจนหมดหรือออกจากจุดเกมก็จะเริ่มนับเวลาฝ่ายที่ยึดได้ หรือบางครั้งก็จะเป็นการป้องกันจุดกับฝ่ายบุกมายึดจุดที่มีรูปแบบการเล่นคล้าย ๆ กัน โดยในหนึ่งสนามจะมี 2 จุด ที่เมื่อจุดแรกถูกยึดเกมก็จะไปยังจุดที่ 2 ทันที ตัวเกมในโหมดนี้ก็เน้นการปะทะกันที่จุดเดียวที่บอกเลยว่ายิงกันมั่วแน่นอน ซึ่งฉากนี้ฝ่ายสนับสนุนอย่าง ‘Support’ จะเป็นหัวใจสำคัญในการช่วยฟื้นพลังเพื่อนตอนสู้มากกว่าฉากอื่น

Overwatch 2

Control Point

Overwatch 2

อย่างที่ได้บอกไปในหัวข้อก่อนหน้านี้ว่าตัวโหมดการเล่น ‘Control Point’ นั้นจะเป็นลูกผสม ที่เริ่มต้นจากการยึดจุดที่เป็นรูปแบบฝ่ายบุกและฝ่ายป้องกัน ที่ฝ่ายบุกต้องทำการยึดจุดนั้นให้สำเร็จก่อนเวลาหมด ซึ่งถ้ายึดได้ก็จะได้เวลาบวกเพิ่มและจะเข้าสู่การดันรถต่อ โดยคราวนี้ฝ่ายป้องกันจุดก็จะเป็นเปลี่ยนฝ่ายบุกเพื่อทำให้รถไม่สามารถไปถึงจุด ส่วนฝั่งบุกก็จะเปลี่ยนมาเป็นฝ่ายป้องกันแทน ซึ่งเป็นการสลับฝั่งที่เล่นสนุกไม่แพ้โหมดก่อนหน้านี้ ที่ตอนเล่นเราต้องคอยรุกและรับคอยเปลี่ยนตัวละครให้เหมาะสมกับหน้าที่ของเกมที่เปลี่ยนไป เพราะบางทีตัวละครตัวเดิมอาจจะไม่เหมาะแก่การบุกหรือป้องกัน ต้องลองฝึกหลาย ๆ ตัวละครแล้วคุณจะรู้เองว่าตัวไหนเหมาะกับรูปแบบการเล่นตอนไหนของเกม

Overwatch 2

Push

Overwatch 2

โหมดใหม่ที่เพิ่งถูกเพิ่มเข้ามาในภาคนี้กับ ‘Push’ ที่มีรูปแบบคล้าย ๆ การดันและคุ้มกันรถแต่คราวนี้จะเปลี่ยนเป็นหุ่นที่ดันจุดของเราไปถึงที่หมายหรือให้ใกล้ที่สุดก่อนหมดเวลา แต่รูปแบบการเล่นจะดูน่าสนใจกว่าตรงที่ทั้งสองฝ่ายต่างต้องแย่งหุ่นกันในตอนเริ่มให้มันเดินไปจุดของเรา และเราต้องคุ้มกันหุ่นตัวนั้นให้เดินไปเรื่อย ๆ ซึ่งถ้าตอนนั้นไม่มีเพื่อนร่วมทีมอยู่ใกล้หุ่นมันก็จะหยุดเดิน หรือถ้าฝั่งเราตายหมดหุ่นก็จะวิ่งกลับไปที่ฝั่งตรงข้าม ซึ่งระหว่างทางที่หุ่นวิ่งไปนั้นเราก็สามารถเอาหุ่นคืนมาได้ เป็นการสู้กันเพื่อแย่งหุ่นเป็นจุดหมาย ซึ่งฝ่ายถูกแย่งหุ่นไปก็สามารถเอาหุ่นคืนมาได้ทันทีระหว่างที่หุ่นวิ่งไปมาระหว่างสองจุด จึงไม่มีใครได้เปรียบเสียเปรียบในการเล่นที่บอกเลยว่าโหมดนี้ยิ่งกันสนั่นใช้ฉากคุ้ม ๆ มาก ๆ

Overwatch 2

ผู้เล่นเก่าสามารถเอาข้อมูลที่มีไปเล่นบนเครื่องอื่นได้

Overwatch 2

ปิดท้ายกับคำถามที่ผู้เล่นเก่าสงสัยว่าถ้าเรามีตัวเกมภาคแรก จะสามารถถ่ายโอนชุดที่เคยสะสมมาในภาค 2 บนเครื่องอื่นได้ไหม คำตอบคือได้ไม่มีปัญหาจากข้อมูลบอกว่า 1 บัญชี ‘Battle.net’ สามารถโอนข้อมูลไปยังเครื่องอื่น ๆ ได้ด้วย และผู้เล่นเก่าที่มีตัวเกมภาคก่อนก็จะได้รับตัวละครใหม่อย่าง คิริโกะ (Kiriko) มาเล่นได้เลย และถ้าคุณมีทั้งเครื่อง ‘PC’,   ‘PlayStation 4-5’ หรือ ‘Nintendo Switch’ ก็สามารถโอนข้อมูลมาที่เครื่องเหล่านี้ได้เลย เพราะตัวเกมภาคนี้จะให้ผู้เล่นทุกเครื่องได้เจอกันหมด และไม่ต้องกลัวว่าผู้เล่น ‘PC’ จะเก่งเทพจนสู้ไม่ได้ เพราะหลายตัวละครในเกมนี้ก็เหมาะกับการใช้ ‘Controller’ มากกว่าในการเล่น บวกกับการเล่นที่เน้นการประสานงานแบบทีม ที่ต่อให้ผู้เล่นคนหนึ่งจะเก่งเทพขนาดไหนก็ไม่สามารถแบกทีมคนเดียวได้ คุณที่เป็นผู้เล่นใหม่จึงสามารถสนุกกับเกมนี้ได้ไม่อยากเพียงแค่คุณรู้หน้าที่ต้องทำในเกมเท่านั้น แล้วคุณจะค้นพบความสนุกที่คนเล่นเกมนี้มาแล้วต่างติดใจ

Overwatch 2

ก็จบกันไปแล้วกับการแนะนำเบื้องต้นสำหรับมือใหม่ที่เพิ่งรู้จักเกม ‘Overwatch 2’ โดยเนื้อหาในบทความนี้จะเป็นการบอกแค่ระบบพื้นฐานที่มือใหม่ควรรู้เบื้องต้นเท่านั้น ซึ่งในเกมยังมีโหมดการเล่นต่าง ๆ รวมถึงระบบแต่งตัวละครและหลาย ๆ อย่างอีกมากมายที่อยู่ในเกม แต่สิ่งเหล่านั้นผู้เล่นจะสามารถเรียนรู้ได้เองหลังจากที่คุณเล่นเป็นแล้ว แต่ก่อนจะไปถึงตรงนั้นคุณควรรู้พื้นฐานของพื้นฐานก่อน ซึ่งนั่นคือเป้าหมายของบทความนี้หวังว่าจะช่วยให้มือใหม่เข้าใจสิ่งต่าง ๆ ในเกมนี้มากขึ้น รวมถึงการตอบคำถามที่หลายคนสงสัยเกี่ยวกับเกมนี้ว่ามีอะไรบ้าง เพื่อให้คุณสามารถเล่นเกมนี้ได้สนุกมากขึ้น แล้วพบกันในเกม ‘Overwatch 2’ เหล่าฮีโรและวายร้ายทั้งหลาย

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส