PlayStation 2 เครื่องเล่นเกมคอนโซลจากอดีตกาลที่ฮิตถล่มทลายในบ้านเรา โดยหนึ่งในแนวเกมที่ใครหลายคนน่าจะโปรดปรานบนคอนโซลเครื่องนี้ แน่นอนละครับว่าย่อมหนีไม่พ้นเกมแนว ‘แอ็กชัน’ ที่ก็เกมไตเติลคุณภาพคับแก้วจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็น God of War, Devil May Cry, Dynasty Warriors, Shadow of the Colossus, Metal Gear Solid และอีกมากมายนับไม่ถ้วน ที่ก็มีเกมแอ็กชันที่เป็นดั่งเพชรในตม ที่หลายคนอาจจะลืมมันไปแล้วหรือไม่เคยได้สัมผัสมาก่อน บทความนี้ผู้เขียนเลยอยากจะนำเสนอ 5 เกมแอ็กชันเพชรในตมยุค PlayStation 2
Chaos Legion
อาจกล่าวได้ว่า Chaos Legion เป็นหนึ่งในเกม PlayStation 2 ของทาง Capcom ค่ายเกมที่เด่นชัดเรื่องแอ็กชันฮิตบอกซ์เป๊ะ ฮาร์ดคอร์จัด ที่เต็มไปด้วยลูกสูตรของเกมค่ายนี้แบบครบถ้วน และเอาจริง ๆ ตัวเกมก็ไม่ได้แย่เลย มันมีความสนุกและการบังคับที่โอเคตามยุคสมัย โดยตัวเกมจะให้เราจะได้รับบทเป็น ซีก (Sieg) สุดหล่อผมแดงแรงสามเท่า ที่ออกตามล่าอดีตเพื่อนรักแต่ดันมีอุดมการณ์เปลี่ยนไปกลายเป็นอยากจะชำระล้างโลกที่เต็มไปด้วยความชั่วร้าย (ก็นะ บทตัวร้ายเกมสมัยก่อนมันก็อย่างนี้แหละ …)
รูปแบบการเล่นของเกมนี้จะมีความคล้ายคลึงกับเกมแนว Action Hack & Slash ทั่วไปในยุคนั้น แต่สิ่งที่แตกต่างออกไปคือ เรามีความสามารถในการใช้สัตว์อสูรออกแรงแทนเราได้ที่มีชื่อว่าเหล่า Legion ที่มีหลากหลายตัว และเราจะต้องสลับใช้ความสามารถของพวกมันในการปราบศัตรูที่ก็จะมีความแพ้ทางเหล่าสแตนด์ เอิ่บ หมายถึง Legion แต่ละตน เช่นตัวดาบเก่งระยะประชิด, ตัวธนูเก่งระยไกล, ตัวเล็บก็เร็ว ตัวเวทก็ตามชื่อปล่อยเวท เป็นต้น (ซึ่ง ๆ จริงตอนเริ่มเกมมา เราจะมีอสูรเก่งรอบด้านให้ใช้เลย ก่อนที่จะถูกตัวร้ายแยกส่วนทำให้เราต้องไปตามเก็บคืนมาเพื่อปลุกมาใช้อีกทีในด่านหลัง ๆ ซึ่งมันก็มีเป็นแรงจูงใจให้เราอยากเล่นเกมนี้จนจบแบบเบา ๆ)
แต่บอกเลยว่านี่ไม่ใช่เกมที่จะเล่นแบบตี ๆ โดด ๆ แล้วจะผ่าน เพราะตัวเกม ‘ยากใช้ได้’ ทั้งจำนวนของศัตรูในแต่ละด่านที่ยกโขยงกันมาเป็นขบวนพาเหรดน้อง ๆ เกมสามก๊ก ซึ่งก็อาจจะเป็นเพราะความยากของเกมนี้เองไม่ปรานีผู้เล่น เกมเมอร์จำนวนมากในยุคนั้นเลยอาจจะไม่เคยได้สัมผัสกันแบบแมส ๆ แต่ถึงกระนั้นก็ปฎิเสธไม่ได้ว่า Chaos Legion เป็นเกมที่มีคอนเซ็ปต์น่าสนใจใช้ได้
God Hand
คุณพระะะะ นี่คือเกมที่ผู้เขียนเสียดายมากที่ไม่ได้ไปต่อหรือมีโปรเจกต์รีมาสเตอร์เหมือนเกมอื่นของ Capcom ทั้ง ๆ ที่รีวิวจากสื่อและเกมเมอร์ออกมาแบบดีบวกบวกบวกบวก แต่ดันยอดขายแย่มาก ๆ God Hand คือเกมจากเสด็จพ่อ ชินจิ มิคามิ (Shinji Mikami) ที่ต้องการยกระดับเกมแนว Beat ’em Up ใช้แค่หมัดมวยซัดกันให้ถึงพริกถึงขิง ที่จะให้ผู้เล่นได้สวมบทบาทเป็นไอหนุ่มคนหนึ่งที่สูญเสียแขนไป แต่กลับได้หัตถ์เทวะหรือตามชื่อก็คือ God Hand แขนที่มอบพลังสุดแสนจะ OP
ตัวเกมต้องบอกว่าเป็นลูกผสมที่ลงตัวมากระหว่างความตลกโปกฮาของเนื้อหาที่นำเสนอ ไม่ว่าจะคัตซีน ตัวร้าย หรือแม้แต่พลังของพระเอกที่มันบ้าบอมาก หนึ่งในท่าใครเล่นครั้งแรกแล้วต้องหลุกก๊ากคือท่าเตะ Ball Buster (ยังไงลองเสิร์ชกันดูนะ ฮ่า ๆ) ส่วนอีกครึ่งหนึ่งก็คือความเป็นแอ็กชันที่ท้าทายตามสไตล์เกมจากค่าย Capcom คือมีเรื่องของคอมโบ เฟรมของท่าโจมตีช้าเร็ว การหลบหลีก การทำลายการ์ดศัตรู เรียกได้ว่าเสมือนกับเราได้เล่นเกมแนวไฟติ้งที่ตัวเรามันโหดเพราะมีพลังบ้าดีเดือดจากแขนเทพเจ้านี่แหละ และอีกจุดที่ผู้เขียนคิดว่าเกมในสมัยนี้ควรเอาไปใช้ดูคือ Dynamic Difficulity ถ้าแปลก็คือความยากของเกมที่แปรผันตามฝีมือผู้เล่น มันจะมีเกจเลเวลตรงหลอดเลือดที่หากเราเล่นดี เลเวลตรงนี้ก็จะเพิ่ม และในทุกครั้งที่เพิ่มศัตรูก็จะแกร่งขึ้น แต่ไอเทมที่ดรอปได้จากมันก็จะดีตาม
และที่ผู้เขียนชอบอีกอย่างก็คือเราสามารถปรับแต่งท่าโจมตีให้ออกมาเป็นสไตล์เราได้ เช่นใครที่ชอบการเตะ ก็เปลี่ยนให้แอ็กชันทุกท่วงท่าเป็นลีลาลูกถีบ หรือใครสายกำปั้นก็เอาท่าที่ราวกับถอดทักษะนักมวยมาใช้เช่น ท่าแย็บหมัด อัปเปอร์คัต และอีกมากที่พูดไปก็ไม่หมด พวกหมัดเมา ท่าแนวกังฟู คาราเต้อะไรมีหมด เหลือแค่รอให้ผู้เล่นปรับใช้ได้ตามใจชอบ
แต่เห็นแบบนี้นอกเหนือจากแอ็กชัน God Hand ก็มีจุดด่างพร้อยอยู่ ว่ากันตามตรงคือมันไม่ใช่เกมที่เนี้ยบอะไรเลย เช่นการบังคับแบบ Tank Control (นึกไม่ออกก็ตระกูล Resident Evil) ที่แบบว่าเฮ้ย! มันไม่ควรจะมาอยู่ในเกมแนวนี้เปล่าวะ มุมกล้องเองหลายฉากก็แย่, เลเวลดีไซน์ที่บางทีก็วางศัตรูแบบไม่สมดุล บางด่านนึกจะง่ายก็ง่าย บางด่านนึกครึ้มจะเอาตัวโหดมาทั้งหมดก็ใส่มา นี่ยังไม่นับฉากการเล่นที่เรียกว่างานเผา แต่ถามว่ารักไหม? ฉันตอบเลยว่ามาก <3
Genji: Dawn of the Samurai
อีกหนึ่งเกมเอ็กซ์คลูซีฟของทาง PlayStation 2 ที่ผู้เขียนสนุกกับมันพอสมควรในสมัยที่ได้เล่นเมื่อครั้งยังเยาว์วัย นี่คือเกมที่อาจจะเรียกได้ว่ามีกลิ่นอาย Onimusha อยู่พอสมควร แต่ก็มีเอกลักษณ์เป็นของตัวเองประมาณหนึ่ง โดยในเกมนี้จะการดัดแปลงประวัติศาสตร์ของญี่ปุ่นผ่านการนำเสนอบุคคลที่มีอยู่จริงในอดีต คือ มินาโมโตะ โยชิสึเนะ (Minamoto Yoshitsune) และ มุซาชิโบ เบงเค (Musashibo Benkei) ผสมเข้ากับมหากาพตำนานเฮเกะ โดยทั้ง 2 ตัวละครจะมีการเล่นที่แตกต่างกัน โยชิสึเนะจะเป็นนักดาบที่เน้นความพริ้วไหวในการเคลื่อนที่ ส่วนเบงเคจะเป็นสายพละกำลังจ้องจะหวดคุณด้วยท่อนไม้ขนาดมหึมา ในขณะที่ที่ท่าไม้ตายทั้งคู่จะเหมือนกันและสร้างสรรค์ท้าทายการตอบสนองผู้เล่นที่จะเป็นชลอเวลาให้เรามีช่องว่างโจมตี และหากกด Quick Time Event ที่ขึ้นมาในตอนนั้นได้ทัน จะเป็นการทำดาเมจมหาศาล หรืออาจปลิดชีพศัตรูได้ในการโจมตีเพียงครั้งเดียว
ในขณะที่ด้านอื่น ๆ ก็ทำออกมาได้ดี เช่นดนตรีประกอบและสภาพแวดล้อมของฉากที่นำเสนอก็เต็มไปด้วยกลิ่นอายญี่ปุ่นโบราณพาให้เราอินไปกับลีลาการวาดลวดลายของตัวละครทั้งสอง และจริง ๆ ตัวเกมภาคนี้ก็ได้เสียงวิจารณ์และรายได้ในระดับที่โอเคจนมีภาคต่อบน PlayStation 3 อยู่นะ ทว่าไอภาคต่อนี่แหละที่ทำให้ตัวเกมไม่ได้ไปต่อเพราะทั้งรีวิวและรายได้ดันสวนทางกลับภาคแรกเสียจน PlayStation ขอเอาเกมนี้กลับเข้าไหไม่ปล่อยออกมาอีกเลยละกัน
Altered Beast
เกมที่ถูกรีเมกมาจากต้นฉบับเกมตู้อาเขตจากปี 1988 ที่กิมมิกของเกมน่าสนใจ คือการที่ตัวเอกสามารถแปลงร่างเป็นสัตว์อสูรรูปแบบต่าง ๆ เพื่อรับมือกับศัตรูให้ถูกประเภท พร้อมใช้ความดุร้ายในการรับมือกับศัตรูที่บอกเลยว่าโหดถึงพริกถึงขิง ได้ตั้งแต่มนุษย์หมาป่าซึ่งเป็นฟอร์มหลักแต่ไหนแต่ไรตั้งแต่เกมภาคต้นฉบับ, มนุษย์ปลาที่เก่งด้านการเคลื่อนไหวในน้ำ, มนุษย์ครึ่งกอริลลาที่ใช้พละกำลังอันมหาศาลเป็นจุดเด่น, มนุษย์ครึ่งนกที่เด่นชัดด้านการโจมตีทางอากาศ ฯลฯ
ในแง่คอนเซปต์บอกเลยว่า Altered Beast ไม่แพ้เกมในยุคเดียวกันหรือเกมปัจจุบันจริง ๆ แต่จุดที่ทำให้ตัวเกมไม่ได้เป็นที่โด่งดังก็คงจะเป็นตัวเกมที่ยากใช้ได้ แถมการบังคับเองก็ดันเป็นอุปสรรคใหญ่หลวงกับผู้เล่นอีก Altered Beast เลยกลายเป็นเกมที่น่าจดจำ แต่ไม่น่าหวนกลับไปสัมผัสมันอีก
Shinobi
Shinobi จะให้ผู้เล่นได้สวมบทเป็นนินจาระดับตำนานที่ภาพรวมการเล่นของเกมที่นำเสนอ จะมาในรูปแบบแอ็กชันไฮสปีดสูงราวกับ Kamen Rider Kabuto เปิดไฮเปอร์คลอกอัป! (สปีดตามยุคสมัยของแรงเครื่องน่ะนะ …) ชนิดที่ว่าพลาดโดนคือเจ็บหนัก เรียกได้ว่าเป็นเกมยากเกมนึงที่ไม่ปรานีผู้เล่น หรืออีกนัยคือไม่ออมมือกับการที่เราจะต้องสวมรอยเป็นปรมาจารย์นินจา เพราะตัวละครของเราความสามารถเยอะมาก ความคล่องแคล่วในการเคลื่อนไหวก็สูง เลเวลดีไซน์ที่ทั้งวางพื้นที่ต่างระดับ สิ่งกีดขวาง และตำแหน่งศัตรูที่คิดจะปองร้ายเราแบบไม่ให้เกิด เรียกได้ว่าเป็นเกมที่ไม่ต้อนรับเกมเมอร์สายแคชวลเลย
แต่ดูเหมือนจุดที่ทำให้ Shinobi ดูจะไม่ใช่เกมที่อยู่ในความทรงจำของเกมเมอร์หมู่มาก ไม่ใช่เพราะตัวเกมด้อยหรือคุณภาพต่ำ หากแต่เป็นเพราะการมาถึงของ Ninja Gaiden ที่เกมเพลย์โคตรดุดันอย่างเกมนินจาติดไนตรัส โหดกว่า เร็วกว่า ยากกว่า และว่ากันตรง ๆ ตัวเกมนี้มันก็เท่กว่าดูเป็นนินจาที่ไม่การ์ตูนหลุดมาจากอนิเมะ ทีนี้พอแกนกลางของทั้งสองเกมมันเหมือนกัน ไม่แปลกเลยที่ Ninja Gaiden จะกลายเป็นเกมที่โด่งดังกว่าและเป็นที่จดจำของเหล่าเกมเมอร์
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส