Final Fantasy เกม JRPG ที่อยู่ในใจผู้เล่นมานานแสนนาน จริงๆแล้วต้องบอกเลยนะคะว่าเกมนี้มันไม่ใช่เกม JRPG ธรรมดาๆ มันเป็นอะไรที่มากกว่านั้นมากๆ มันคือจิตวิญญานที่รวบรวมเหล่าผู้กล้ามาผจญภัยร่วมกันในดินแดนแฟนตาซีโดยมี คริสตัล เป็นศูนย์กลางเรื่องราวบท”แฟนตาซีครั้งสุดท้าย” นี่ล่ะค่ะ หากนับแค่ตัวเกมหลักนั้นมีมามากถึง 14 ภาคและภาคที่ 15 ก็จะวางจำหน่ายในวันที่ 29 พ.ย 2016 นี่แล้ว แต่ก่อนหน้านั้นวันนี้เราจะมาแนะนำ 5 ลำดับเกม Final Fantasy ที่คุณผู้อ่านจะต้องไปหามาเล่นให้ได้ ไม่ว่าคุณจะเป็นแฟนเกมนี้ หรือไม่ก็ตามค่ะ

“ก่อนอื่นขอออกตัวก่อนเลยนะคะว่าตัวผู้เขียนเองเป็นแฟนเกมนี้มาอย่างยาวนานมาก เล่นมาเกือบทุกภาค ดื่มดำกลับโลกของแฟนตาซีครั้งสุดท้ายมานานนับสิบปีแล้ว เพราะฉะนั้นบทความนี้ถูกเขียนโดยความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียนเองล้วนๆ โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านด้วยนะคะ”

ลำดับที่ 5 Final Fantasy X

ถ้าหากจะให้พูดถึง Final Fantasy ภาคที่เล่นง่ายที่สุดก็คงจะไม่พ้นภาคที่ 10 นี่ค่ะ ตัวเกมใช้ระบบ CTB โดยที่ผู้เล่นกับมอนเตอร์จะสลับ Turn การโจมตีของตัวเอง แต่ถ้าหากใครมีค่าความว่องไวมากกว่า ก็จะสามารถได้จำนวน Turn ที่มากกว่านั้นเอง รวมไปถึงการเล่าเรื่อง ที่เป็นเส้นตรงเป็นอย่างมาก ระบบสอนเล่นตอนต้นเกมที่ทำออกมาได้ดี และมี Story Telling ที่ยอดเยี่ยมมากๆ ตัวเกมมีระบบ Sphere Grid เปรียบเสมือนการ Upgrade Skill Status ให้ตัวละครนั้นๆ โดยที่จะมีแนวทางการเล่นที่แตกต่างกันออกไปตามตัวละคร และความต้องการของผู้เล่นเองค่ะ

นอกจากนั้นแล้ว Final Fantasy X เป็นครั้งแรกที่ตัวเกมมาอยู่ในรูปแบบ Full 3D เพราะเกมนี้เป็น Final ภาคแรกที่ลงในกับ PS2 นั้นเอง แฟนๆในยุคนั้นคงฟินไม่ใช่น้อยเลยทีเดียว แต่ในขณะเดียวกันก็มีเสียงตอบรับจากแฟนเกมอีกกลุ่มได้ไม่ดีเท่าไรนัก เนื่องจากว่าด้วยการที่ตัวเกมนั้นเล่นง่าย และเป็นเส้นตรงมาก จนเกินไป ทำให้แฟนๆ รุ่นเดิมๆ ไม่ค่อยถูกใจนัก อย่างไรก็ตาม Final Fantasy X เป็นก้าวแรกสำหรับคนที่ต้องการทำความรู้จักกับซีรี่ส์ Final Fantasy นี้ค่ะ

ลำดับที่ 4 Final Fantasy VII

ไม่ต้องพูดอะไรมากกับ Final Fantasy VII ความโด่งดังของตัวเกมภาคนี้ ไม่ใช่แค่สร้างประวัติศาสตร์ให้กับวงการเกมเพียงอย่างเดียว แต่มันเป็นการปติวัติวงการกราฟฟิค , ซาวแทรค , เนื้อเรื่อง ของเกมในยุคนั้นทันที Final Fantasy VII เป็นอีกนึงเกมที่หลายๆคนที่มีเครื่อง PS1 ในตอนนั้นจะต้องได้เล่นเกมนี้ค่ะ รวมไปถึงเป็นตัวเกมภาคแรกสำหรับแฟนๆ ไฟนอลแฟนตาซีในปัจจุบันนี้อีกด้วย แต่ถึงแบบนั้นหากนำ Final Fantasy VII ไปเทียบกับเกมภาคก่อนหน้านี้อย่าง Final Fantasy VI แล้วยังถือว่าทำได้ไม่ถึงครึ่งเดียวด้วยซ้ำ แต่ด้วยการที่ตัวเกมนั้นยกระดับกราฟฟิค + Gameplay ของตัวเอง เข้าไปทำให้ตัวเกมภาคนี้อยู่ในใจใครหลายๆ คนไม่ว่าจะเป็นแฟนเกมหรือไม่ก็ตามนั้นเองค่ะ เนื้อเรื่องในเกมภาคนี้ทำออกมาได้ดีมากๆ เป็น Final Fantasy อีก 1 ภาคที่ตัวผู้เขียนเล่นจบแล้วไม่มีวันลืม ทุกๆฉากยังอยู่ในความทรงจำเสมอ อีกทั้งนี่เป็นครั้งแรกที่ตัวเกมนำเสนอ สถานที่ Gold Saucer เปรียบเสมือนสวนสนุก บ่อนคาสิโน ที่ทำเอาผู้เล่นหลายๆคนมัวแต่คลุกตัวอยู่ในนั้นจนไม่ได้สนใจตัวเกมหลักกันเลยทีเดียว และบอกได้คำเดียวค่ะว่า Final Fantasy VII เป็นอีกนึงภาคที่คุณจะต้องหามาเล่นให้ได้เด็ดขาด ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม

ลำดับที่ 3 Final Fantasy IV

Final Fantasy IV เป็นภาคที่ตัวผู้เขียนเองชื่นชอบที่สุด และเป็นไฟนอลภาคที่แฟนๆหลายคนยอมรับว่าเป็นภาคที่มีเนื้อเรื่องดีที่ที่สุดไม่แพ้ภาค 6 หรือภาค 7 เลย ทีเดียว ถึงกับมีภาคต่อเฉพาะภาคออกมาชื่อว่า “The After Years” ตัวเกมภาคนี้เป็นครั้งแรกที่ตัวเกมนำเสนอระบบ ATB หรือ Active Time Battle โดยหลังจากนี้มันจะกลายเป็นระบบหลักของ Final Fantasy ภาคหลังๆแล้ว จุดเด่นอีกอย่างของเกมภาคนี้คือ ผู้เล่นจะบังคับตัวละครในปาร์ตี้ได้สูงสุดถึง 5 คน แค่ภาคนี้ภาคเดียวที่สามารถบังคับได้เยอะขนาดนี้ ทำให้การต่อสู้ในเกมนี้นั้น สนุก และท้าทายมากค่ะ

แน่นอนว่าการที่ตัวเกมเปิดโอกาสให้เราบังคับตัวละครมากถึง 5 คนในการต่อสู้ มันจึงเป็นภาคที่เล่นได้ค่อนข้างยากมากที่สุดในบรรดาล 14 ภาค ถึงขนาดมีเวอร์ชั่น Easy Mode วางขายในยุคนั้น แต่ถึงแบบนั้นตัวเกมก็ไม่ได้ยากจนเกินไป และยังเหมาะกับผู้เล่นใหม่ๆ ที่ต้องการทำความรู้จักกับ ซีรี่ส์ Final Fantasy ยุค Original ด้วยล่ะค่ะ

Final Fantasy IV ถูก Remake มาหลายครั้งมากๆ ตัวเกมในเวอร์ชั่น DS , iOS, Android นั้นเป็นเวอร์ชั่นที่สมบูรณ์ที่สุด เพราะตัวเกมได้มาอยู่ในเวอร์ชั่น Full 3D และได้เพิ่มดันเจี้ยนใหม่เข้าไป อีกทั้งในเวอร์ชั่นสมาร์ทโฟน ก็มี “ภาษาไทย’ ในเกมอีกด้วย !! แบบนี้ผู้เล่นใหม่ใครที่อยากจะเสพเนื้อเรื่องซีรี่ส์นี้ ละก็ Final Fantasy IV เป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมมากๆ เลยล่ะค่ะ

ลำดับที่ 2 Final Fantasy VI

Final Fantasy VI เป็นไฟนอลภาคที่มีเนื้อหา ตัวละคร และองค์ประกอบ เยอะที่สุดใน 12 ภาคหากไม่นับภาคออนไลน์ จนถึงกับมีมุขล้อเลียนออกมาในอินเตอร์เน็ตว่าหากเกมภาคนี้มีการ Remake Blu-Ray 3 แผ่นก็คงยังไม่พอ เริ่มต้นด้วยตัวละครของภาคนี้มีทั้งหมด 14 ตัว !!!

โดยที่ผู้เล่นจะสามารถควบคุมตัวละครได้ทั้งหมด 14 ตัวนี้ แต่จำกัดในปาร์ตี้แค่ 4 คน ผู้เล่นสามารถสลับไปมาได้ มี World Map มากถึง 4 แห่ง และนี่เป็น Final Fantasy ภาคแรกและภาคเดียวที่มีสัตว์อสูรมากถึง 31 ตัว !!! เรียกได้ว่าเป็นการรวบรวมเหล่าบัลดาลสัตว์อสูรทั้งหมดมาไว้ในภาคนี้เลยทีเดียว เนื้อเรื่องในภาคนี้นั้นจะเป็นครั้งแรกที่ตัวเกมได้ใส่ส่วนผสมของนิยายวิทยาศาสตร์ Sci-Fi เข้าไปในเกม จนออกมาลงตัวอย่างไม่น่าเชื่อ ด้วยตัวละครที่มีมากถึง 14 ตัวหลัก แต่ทีมงานก็สามารถเล่าเรื่องออกมาได้ดีไหลลื่น อย่างไม่น่าเชื่อ ทำให้ผู้เล่นรู้สึกหลงรักและผูกไปพันไปกับตัวละครถูกตัวในเกมนี้จนถึงกับมีเสียน้ำตาให้หลายๆฉากในเกมนี้เลยทีเดียว หากถามว่าภาคนี้เป็นภาคที่เหมาะสำหรับหน้าใหม่ที่ต้องการอยากจะลองสัมผัสซีรี่ส์นี้ดู ก็คงต้องบอกเลยค่ะว่า นี่อาจจะไม่ใช่ก้าวแรกที่ดีนัก เพราะคุณอาจจะหลงรักเกมนี้ไปเลยโดยที่ไม่รู้ตัวค่ะ

ลำดับที่ 1 Final Fantasy XIV

จริงๆ แล้วต้องบอกเลยค่ะว่า Final Fantasy XIV นี่มันอาจจะไม่ใช่ Final Fantasy ภาคที่ “ดี” ที่สุดจนถึงกับต้องหามาเล่นให้ได้ แต่มันเป็น Final Fantasy ภาคที่ “สมบูรณ์” ที่สุดของซีรี่ส์นี้แล้วค่ะ ตัวเกมเป็นรูปแบบ MMORPG เสียค่าบริการรายเดือน แต่นั้นไม่ใช่ประเด็น เพราะนี้เป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 20 ปีที่ตัวเกมกลับมาเล่าเรื่องผ่าน Crystal และ “Wariror of Light” อีกครั้งหลังจากที่เคยใช้คำๆนี้มาครั้งแรกใน Final Fantasy 1 ปี 1987

แน่นอนว่าเกมนี้เป็น MMORPG ตัวเกมจึงมาพร้อมกับระบบ คลาส ที่ยังคงความเป็นไฟนอลแฟนตาซีไว้อย่างดี 1 ตัวละครสามารถเล่นได้ทุกอาซีพ Paladin, Dragoon, Black Mage, White Mage, Ninja, Scholar, Summoner, Bard อาซีพหลักๆในซีรี่ส์นี้มีให้เล่นหมดทุกอาซีพ พร้อมกับระบบ Cross Class Action ที่เปิดโอกาศให้ผู้เล่นนำสกิลของคลาสอื่นๆ มาใช้ในคลาสที่เราเล่นอยู่ได้ รวมไปถึง Theme และบรรยกาศในเกมที่บอกเลยว่าเป็นการนำเอา Final Fantasy ตั้งแต่ภาค 1-13 ยกรวมมาไว้ในนี้ทุกภาค ไม่ว่าจะเป็นสวนสนุก Gold Saucer จากภาค 7 หุ่นรบ Magitek จากภาค 6 Library of the Ancients จากภาค 5 และ Crystal Tower จากภาค 3 รวมไปทั้งอาวุธ และชุดเกราะที่นำมาจากภาคเก่าๆ แต่ถูกปรับปรุงใหม่ ให้สวยงามเป็นรูปแบบอุปกรณ์สวมใส่ให้ผู้เล่นได้ใส่กัน และแน่นอนว่า มนต์อสูรก็มีบทบาทให้ภาคนี้เช่นกัน ไม่ว่าจะเป็น Titan Garuda Shiva Ramuh หรือแม้กระทั่ง Bahamut และ Alexander ที่ปรากฎออกมาในรูปแบบสุดยอด Raid Boss สุดโหดของเกมนี้ Final Fantasy XIV จึงกลายเป็นโลกที่ได้รวมความเป็น Final Fantasy เอาไว้ในที่ๆ เดียวเลยล่ะค่ะ

หากคุณเป็นคนที่ไม่เคยรู้จักกับซีรี่ส์นี้มาก่อน Final Fantasy XIV ก็เป็นตัวเลือกที่ดี หากคุณต้องการทำความรู้จักกับซีรี่ส์นะ ค่อยๆซึมซับความเป็นตัวของมันเองเข้าไป แล้วคุณจะเข้าสู่โลกของ Final Fantasy ที่แท้จริงได้เอง ส่วนหากคุณเป็นแฟนซีรี่ส์นี้อยู่แล้ว Final Fantasy XIV เป็นอีกหนึ่งภาคที่ถ้ามีโอกาสก็ต้องหามาเล่นให้ได้ค่ะ ถึงแม้ว่าตัวเกมจะเป็น MMORPG มีค่าบริการรายเดือน แต่มันก็คุ้มที่จะเล่น หากคุณรักและชื่นชอบซีรี่ส์ Final Fantasy นี้ค่ะ