เริ่มเข้าสู่ช่วงปลายปีตลาดวงการเกมก็เริ่มคึกคักมีเกมใหม่ ๆ เปิดตัวมากมายในช่วงนี้ จนหลายคนอาจจะกระเป๋าฉีกได้ ขณะที่บริการเช่าเกมอย่าง ‘PlayStation Plus Extra’ และ ‘Deluxe’ ประจำเดือนตุลาคมก็ไม่พลาดที่จะเข็นเกมน่าเล่นเอาใจผู้เล่นเก่าและผู้เล่นใหม่ให้มาเปิดใช้บริการในเดือนนี้ กับเกมเด่นเกมดังมากมายหลายซีรีส์ไม่ว่าจะเป็น ‘Assassin’s Creed’ ที่เกือบจะยกมาทั้งซีรีส์แล้ว นอกจากนี้ก็ยังมีเกม ‘RPG’ ฝั่งญี่ปุ่นอย่าง ‘Dragon Quest’ ที่เข็นภาคแยกภาคย่อยภาคเสริมมาให้เล่น จนหลายคนที่เป็นมือใหม่เพิ่งหันเล่นและไม่ใช่แฟนซีรีส์นี้ เมื่อมาเห็นชื่อเกมอาจจะไม่รู้ว่ามีเกมอะไรบ้าง เมื่อเป็นอย่างนั้นเราเลยไปคัดเกมเด่นเกมดังน่าสนใจของเดือนนี้มาแนะนำเบื้องต้น เพื่อให้คุณรู้ว่าเกมนี้เป็นอย่างไรน่าเล่นขนาดไหน เป็นการช่วยเหลือในการตัดสินใจว่าจะเสียเงินสมัครเช่าเกมเล่นในเดือนนี้ไหม โดยตัวเกมจะปล่อยให้เล่นวันที่ 18 ตุลาคมใครสนใจเกมไหนก็เตรียมหามาเล่นกันได้เลย
Assassin’s Creed Odyssey
เริ่มต้นซีรีส์แรกที่ขนทัพมาลงบน ‘PlayStation Plus’เกือบจะครบทุกภาคแล้ว กับซีรีส์นักฆ่าข้ามเวลาอย่าง ‘Assassin’s Creed’ ที่คราวนี้ได้ยกภาคหลัก 2 ภาคกับภาคย่อยอีก 3 ภาคมาให้เราได้เล่นแบบจุใจสำหรับแฟนซีรีส์นี้ ที่ไม่เคยเล่นภาคไหนก็จะได้เล่นครบ ๆ กันในคราวนี้ โดยภาคล่าสุดที่เอามาลงคราวนี้ก็มีภาค ‘Assassin’s Creed Odyssey’ หนึ่งในภาคที่ดีที่สุดในซีรีส์ที่แฟน ๆ ยกนิ้วให้ในความสวยสมจริงของการเล่นเป็นทหาร ‘Sparta’ ที่ต่อสู้กับ ‘Athens’ เมื่อ 431 ปีก่อนคริสตกาล ที่คราวนี้เราจะสามารถเลือกเพศได้ว่าจะเป็นนักรบชายสุดเท่หรือนักรบหญิงสุดแกร่ง ที่เนื้อเรื่องหลาย ๆ ส่วนของสองตัวละครจะต่างกันทำให้เราเล่นสองรอบเพื่อเก็บเรื่องราวได้ ตัวเกมคราวนี้ก็ยังคงการลอบเร้นแบบนักฆ่าและการต่อสู้แบบกองทัพสู้กันมัวไปหมด คนที่เพิ่งเริ่มเล่นเกมนี้ครั้งแรกอาจจะงงนิดหน่อยว่าอะไรคืออะไรในเนื้อเรื่อง แต่ถ้าคุณไม่สนใจเนื้อเรื่องหลักแต่เน้นความสนุกภาพสวยเหมือนเดินทางไปต่างโลกเกมนี้เหมาะกับคุณมาก ๆ
Assassin’s Creed Syndicate
หนึ่งคำถามที่ถูกถามมากที่สุดสำหรับมือใหม่ที่สนใจอยากเล่นซีรีส์ ‘Assassin’s Creed’ ควรเริ่มจากภาคไหนก่อนดีที่เป็นมิตรกับผู้เล่นมากที่สุด ถ้าไม่นับเนื้อเรื่องที่เชื่อมกันไปมาจนเรียงไม่ถูก เกม ‘Assassin’s Creed Syndicate’ คือคำตอบที่เราอยากแนะนำคุณ เพราะเกมภาคนี้จะย้อนกลับไปใช้ระบบเก่า ๆ ที่มีในภาคก่อน รวมถึงการตัดสิ่งต่าง ๆ ที่ยุ่งยากในภาคก่อน ๆ ทิ้งไป เหลือแค่ระบบที่เข้าใจง่ายคล้าย ๆ เกม ‘Grand Theft Auto V’ ที่เราสามารถเปลี่ยนตัวละครสลับเป็นพี่น้องชายหญิงได้ตลอดเวลา จะมีเพียงบางภารกิจเท่านั้นที่จะบังคับให้ใช้ตัวนั้น ๆ โดยในภาคนี้เราจะรับบทเป็นนักฆ่าที่จะยึดกรุง ‘London’ มาเป็นของเรา ในรูปแบบของกลุ่มนักเลงที่ทำงานอยู่เบื้องหลังในเมืองเพื่อทำภารกิจต่อสู้กับเหล่า ‘Templars’ แต่หลัก ๆ ที่เราจะได้ทำคือการปีนป่ายตามบ้านคนแล้วก็ไปตบกลุ่มต่าง ๆ ตามพื้นที่ในเมืองเพื่อยึดมาเป็นของเรา ตัวเกมภาคนี้จะต่างกับ ‘Assassin’s Creed Odyssey’ ตรงที่มีความเจริญกว่าแถมเมืองก็ใหญ่ที่อ้างอิงสถานที่จริง ๆ เนื้อเรื่องก็สนุกเหมาะสำหรับมือใหม่ที่เพิ่งเริ่มเล่นซีรีส์นี้
Assassin’s Creed Chronicles China, India, Russia
ขอมัดรวมแบบ 3 ภาคไปเลยกับซีรีส์ ‘Assassin’s Creed Chronicles’ ที่ตัวเกมนั้นจะมีรูปแบบเหมือนกันทั้งหมด นั่นคือมุมมองด้านข้างที่เราจะเห็นเป็นฉากขนาดใหญ่แล้วให้เราเล่นเป็นนักฆ่าเพื่อไปทำภารกิจต่าง ๆ ที่ไม่เหมือนกับ ‘Assassin’s Creed’ ภาคอื่น ๆ โดยทั้ง 3 เกมนี้จะเป็นเกมเล็ก ๆ ที่เน้นขายเนื้อเรื่องกับการเล่นที่ไม่ซับซ้อน แต่ค่อนข้างยากสำหรับมือใหม่ โดยตัวเกมทั้ง 3 ภาคจะบอกเล่าเรื่องราวของนักฆ่าในประเทศจีนอินเดียและรัสเซียที่มีฉากในยุคอดีตให้เราได้ทำ ตัวเกมเน้นการทำทุกอย่างแบบห้ามผิดพลาด เพราะถ้าโดนเจอตัวหรือทำภารกิจพลาดผิดที่เกมกำหนดจะต้องเล่นใหม่ทันที ใครที่ชอบความแหวกแนวเล่นเส้นทางที่หลากหลายข้ามไปได้เลย ส่วนใครที่เป็นแฟนซีรีส์นี้ควรหามาเล่นใครครบ
Dragon Quest XI S Echoes of an Elusive Age Definitive Edition
อีกหนึ่งซีรีส์เกมที่เดินทางมาอย่างยาวนานกว่า 11 ภาคแล้วกับซีรีส์ตามหามังกรอย่าง ‘Dragon Quest’ ที่ต้องอธิบายสำหรับคนที่ไม่ทราบว่าเกม ‘Dragon Quest XI Echoes of an Elusive Age’ นั้นมีสองแบบ นั่นคือแบบปกติกับแบบ ‘ Dragon Quest XI S Echoes of an Elusive Age Definitive Edition’ ซึ่งสิ่งที่เปลี่ยนแปลงในเกมไม่ได้มีแค่ตัว ‘S’ กับคำว่า ‘Definitive Edition’ บนชื่อเกมอย่างเดียว แต่ยังมีการเพิ่มระบบการเล่นที่สามารถเปลี่ยนมาเล่นแบบ ‘16 bit’ อย่างสมัยเครื่อง ‘Super Famicom’ ที่เคยมีเฉพาะบน ‘Nintendo 3DS’ มาเล่นได้ด้วย รวมถึงฉากใหม่ ๆ เนื้อเรื่องเสริมรวมถึงชุดใหม่ ๆ ที่เรียกว่าปรับปรุงให้ดีกว่าของเดิมจนแฟน ๆ ที่เล่นภาคนี้ไปแล้วต้องหามาเล่นอีกรอบ ส่วนมือใหม่ที่เพิ่งเริ่มเล่นก็เริ่มจากภาคนี้ได้เลย ตัวเกมไม่มีอะไรซับซ้อนเล่นสนุกฉากสวยตัวละครน่ารัก และที่เป็นจุดเด่นคือเนื้อเรื่องที่คุณต้องอุทานออกมาดัง ๆ ว่าเอาแบบนี้จริง ๆ หรอเลยทีเดียว ตัวเกมเหมาะสำหรับมือใหม่ที่เพิ่งจับเล่นซีรีส์นี้ ส่วนมือเก่าก็มาเล่นซ้ำอีกรอบเพราะเกมมีอะไรเพิ่มมาเยอะจริง ๆ
Dragon Quest Builders 1-2
เชื่อว่าหลายคนที่ไม่ใช่แฟนซีรีส์ ‘Dragon Quest’ พอมาเห็นปกและชื่อ ‘Dragon Quest Builders’ ทุกคนคงจะสงสัยว่าเกมภาคนี้มีรูปแบบอย่างไร เพราะเท่าที่ทุกคนรู้จักเกมในซีรีส์ ‘Dragon Quest’ หลัก ๆ จะเป็นเกม ‘RPG’ แบบเก่าที่ต้องเลือกคำสั่งในการทำสิ่งต่าง ๆ แต่พอมาเป็นซีรีส์ ‘Builders’ กับปกเกม หลายคนก็คงเดาไม่ถูกว่าคราวนี้เกมจะเป็นแนวไหน ซึ่งถ้าจะให้อธิบายแบบง่ายที่สุด ‘Dragon Quest Builders’ ก็คือเกม ‘Minecraft’ แค่เปลี่ยนตัวละครให้เป็นมอนสเตอร์ใน ‘Dragon Quest’ และเปลี่ยนกราฟิกให้สวยงามขึ้น ซึ่งตัวเกมก็มีอิสระให้เราสร้างทุกอย่างเหมือน ‘Minecraft’ แต่เกมนี้จะพิเศษตรงที่ตัวละคร ‘NPC’ จะมีการตอบรับและช่วยเหลือเราเมื่อสร้างสิ่งต่าง ๆ เสร็จด้วย โดยตัวเกมจะเนื้อเรื่องเกี่ยวกับการสร้างสิ่งต่าง ๆ ให้ตามที่ชาวบ้าน เพื่อฟื้นฟูโลกที่ถูกปีศาจทำลาย รวมถึงการต่อสู้ที่เล่นสนุกเพลินมาก ๆ ใครที่เคยเล่น ‘Minecraft’ มาก่อนก็สามารถเข้าใจระบบและการเล่นได้เลย สำหรับมือใหม่แนะนำให้เล่นภาค 2 ไปเลยเพราะตัวเกมจะเล่นง่ายเข้าใจง่ายกว่าภาคแรก ที่ระบบทุกอย่างยังยุ่งยากแต่ภาค 2 ตัดระบบให้เข้าถึงง่ายกว่า แล้วคุณจะสนุกเพลิดเพลินกับโลกนี้
Dragon Quest Heroes 1-2
เรียกว่าเป็นทุกอย่างให้เธอแล้วกับเกมซีรีส์ ‘Dragon Quest’ ที่มาลงบน ‘PlayStation Plus’ ที่เอาเกมภาคหลักมาแล้วยังเอาเกมภาคแยกภาคเสริมมาให้เราได้เล่นด้วย หนึ่งในนั้นก็คือเกม ‘Dragon Quest Heroes 1-2’ ที่คราวนี้ทางค่ายได้เปลี่ยนตัวเกม ‘Dragon Quest’ ให้เป็นเกมแอ็กชันคนเดียวลุยทั้งกองทัพมอนเสรอร์แบบเดียวกับซีรีส์ ‘Musou’ อย่าง ‘Dynasty Warriors’ ที่เราจะได้รับบทเป็นตัวละครใหม่ที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อทำภารกิจช่วยผู้คนจากกองทัพมอนสเตอร์ โดยความพิเศษของเกมนี้คือการดึงตัวละครจากซีรีส์ ‘Dragon Quest’ มาร่วมสู้ด้วย ซึ่งมันถูกอกถูกใจแฟน ๆ เกมซีรีส์ตามล่ามังกรมาก ๆ เพราะเราจะได้เห็นตัวละครจากภาคเก่า ๆ ที่ในเกมเราแทบไม่เห็นท่วงท่าหรือการแสดงอะไรของตัวละครเหล่านี้เลย พอมาภาคนี้เราจะได้เห็นตัวละครเหล่านี้ต่อสู้และใช้อาวุธตามในเกม รวมถึงตัวละครใหม่ที่สร้างมาเฉพาะเกมนี้ให้เลือกใช้เปลี่ยนได้ตลอดเวลา แถมกราฟิกก็สวยงามเล่นสนุกเพลินมาก ๆ ใครที่ชอบแนวแอ็กชันลุย ๆ เกมนี้คือสิ่งที่คุณต้องการ
The Medium
ออกมาจากซีรีส์นักฆ่าข้ามเวลากับนักรบตามหามังกรมาเป็นเกมเดี่ยว ๆ ที่น่าสนใจบ้าง โดยเริ่มจากเกมใหม่อย่าง ‘The Medium’ ที่เราจะได้รับบทเป็นหญิงสาวที่สามารถถอดวิญญาณตัวเองไปอีกมิติได้ โดยตัวเกมจะให้เราเล่นเกมทั้งสองฉากไปพร้อม ๆ กันในสถานที่เดียวกันเพื่อหาทางไปต่อ หรือบางครั้งก็ตัดเปลี่ยนมาเล่นอีกฝั่งเต็ม ๆ เพราะในบางอย่างโลกแห่งความเป็นจริงเราอาจจะมองไม่เห็น แต่สำหรับโลกวิญญาณแล้วมันคือประตูสู่การไขปริศนาที่เราไม่สามารถหาคำตอบได้ ตัวเกมเน้นการแก้ไขปริศนาหาทางไปต่อที่มีกลิ่นอายความหลอนนิด ๆ ให้พอขนลุก ใครที่อยากรู้ว่าเหล่าคนทรงสื่อวิญญาณเขาเป็นอย่างไรเกมนี้น่าจะเป็นคำตอบได้ และนอกจากการไขปริศนายังมีการต่อสู้ที่ทำออกมาได้ดี ใครชอบเกมแนวหลอน ๆ ต้องจัด แต่จะมีเฉพาะ ‘PlayStation 5’ เท่านั้น ใครที่มีแค่ ‘PlayStation 4’ ก็กดรับในห้องสมุดไปก่อนพอได้เครื่องมาค่อยโหลดมาเล่นก็ได้
Castlevania Lords of Shadow
มาต่อกันที่อีกหนึ่งเกมเก่าน้ำดีจากสมัย ‘PlayStation 3’ ที่คุณควรหามาเล่น กับเกม ‘Castlevania Lords of Shadow’ หนึ่งในภาคหลักที่ถูกเอามาสร้างและตีความใหม่ เพื่อบอกเล่าเรื่องราวของราชาปีศาจ ‘Dracula’ ว่าก่อนที่เขาจะเป็นอย่างนั้นต้องผ่านเรื่องราวอะไรมาก่อน ซึ่งถ้าให้เราอธิบายเกี่ยวกับเกมนี้มันก็คือเกมแอ็กชันที่ตัวเอกจะใช้แส้ในการต่อสู้เป็นหลัก แต่ก็มีอาวุธอื่น ๆ ในการปราบปีศาจด้วย ที่แม้คุณจะไม่รู้จักตำนานแส้ล่าข้ามศตวรรษ ‘Castlevania’ ก็สามารถเล่นเกมนี้ได้ เพราะเนื้อหาถูกเอามาตีความนับ 1 ใหม่ ตัวเกมมีทั้งหมด 2 ภาคที่คาดว่าไม่นานภาค 2 ก็คงตามมา ใครสนใจก็เอามาเล่นไปก่อน ตัวเกมค่อนข้างสนุกเนื้อเรื่องดี แล้วคุณจะรู้ว่าความรักมีพลังยิ่งใหญ่ที่ทำให้คน ๆ หนึ่งยอมโง่หรือถูกหลอกได้
Inside และ Limbo
ขอมัดรวม 2 เกมในเนื้อหาเดียวอีกครั้ง เพราะเกม ‘Inside’ และ ‘Limbo’ นั้นมีเนื้อหาคล้าย ๆ กัน นั่นคือเกมแอ็กชันมุมมองด้านข้างที่เราจะได้ควบคุมตัวละครเด็กชายปริศนาที่ต้องหนีจากสถานที่บางอย่าง โดยทั้งสองเกมจะเปิดเรื่องราวแบบงง ๆ ว่าทั้งคู่มาอยู่สถานที่แห่งนี้ได้อย่างไร แต่สิ่งที่ทั้งสองตัวละครนี้รู้กคือเขาจะต้องหนีไปเรื่อย ๆ เพื่อไปยังเป้าหมาย ซึ่งแม้ทั้งสองเกมจะมีรูปแบบการเล่นเหมือนกัน คือการเดินกระโดดแก้ปริศนา แต่อารมณ์การเล่นฉากเนื้อหากลับต่างกันมาก ๆ โดยฝั่ง ‘Inside’ จะเป็นแนวเทคโนโลยีกับผู้คนในโลกที่ดูเฉยชากับสิ่งที่เกิดขึ้น ส่วนตัวเราที่เป็นผู้เล่นก็ต้องหาคำตอบว่าที่นี่คือที่ไหนแล้วมันจะจบอย่างไร ส่วน ‘Limbo’ คือแดนรกร้างที่มีแต่ความตาย สัตว์ประหลาด และซากศพเด็ก ๆ ที่จนจบเกมเราก็ต้องตีความหาคำตอบเอาเองว่ามันคืออะไรอย่างไร ใครที่ชอบเกมแอ็กชันมุมมองด้านข้างที่ต้องแก้ปริศนา กับเนื้อเรื่องที่ต้องคาดเดาเอาเองเพราะเกมไม่บอกอะไรเราเลย แถมเล่น ๆ อาจจะหัวร้อนเพราะตายซ้ำตายซาก ใครชอบแนวแก้ไขปริศนา 2 เกมนี้คือสิ่งที่คุณต้องลอง
Grand Theft Auto Vice City The Definitive Edition
เมื่อพูดถึงตำนานเกมที่เหล่านักเล่นเกมยุคก่อนคิดถึงและอยากหามาเล่นอีกครั้ง หนึ่งในนั้นต้องมีเกม ‘Grand Theft Auto Vice City’ รวมอยู่ด้วยแน่นอน เพราะเกมนี้คือหนึ่งในเกมสร้างชื่อให้กับซีรีส์ ‘GTA’ ที่เปลี่ยนตัวเองมาเป็นมุมมอง ‘3D’ ที่มีมิติในโลกที่กว้างใหญ่ที่ให้อิสระเราทำสิ่งต่าง ๆ โดยคราวนี้เมื่อมาลงบนเครื่องเกมยุคใหม่ทางค่ายก็ปรับตัวเกมให้ดีขึ้น เพื่อให้คนยุคใหม่ที่ไม่เคยเล่นได้สนุกกับเกมนี้ด้วย ในชื่อ ‘Grand Theft Auto Vice City The Definitive Edition’ ที่ทุกอย่างในเกมยังคงเหมือนเดิมจากภาคก่อน จะมีเพิ่มเติมตรงกราฟิกและระบบการเล่นที่เข้าสมัย ใครที่เคยเล่นเกมนี้ไปแล้วในอดีตก็หามาเล่นใหม่อีกรอบได้เลย ส่วนใครที่เบื่อเกม ‘GTA Role-Play’ ก็มาเล่นเกมนี้ได้แม้จะสนุกไม่เท่าภาค 5 แต่ก็ให้อารมณ์กลิ่นอายความเก่าที่คุณไม่เคยเจอมาก่อน ที่บอกเลยว่าเล่นแล้วจะติดใจไม่อย่างนั้นเกมนี้คงไม่มาอยู่ใน ‘PlayStation Plus’ แน่นอน
Yakuza Remastered 3-5
อีกหนึ่งซีรีส์คู่บุญ ‘PlayStation Plus’ ที่เรียกว่าใจดีเอามาลงให้เราได้เล่นจนเกือบครบทั้งซีรีส์ไปแล้ว กับตำนานมังกรลูกผู้ชายตัวจริงอย่าง ‘Yakuza Remastered’ ที่คราวนี้ก็เอาภาค 3 ถึง 5 ของซีรีส์มา ‘Remastered’ ให้ภาพสวยขึ้นเพื่อให้สมเครื่องเกมยุคใหม่ ส่วนใครที่ไม่เคยเล่นไม่รู้จักเกมนี้จะให้เรารับบทเป็น คาซึมะ คิริว (Kazuma Kiryu) ที่ต้องเดินทางบนถนนนักเลง จากชายธรรมดาจนเป็นตำนานในวงการยากูซ่ากับเรื่องราวดราม่าดั่งละครญี่ปุ่น ที่มีเนื้อเรื่องแบบลูกผู้ชายยอมหักไม่ยอมงอ กับระบบการเล่นที่ให้อิสระผู้เล่นที่จะเดินไปตามเมืองต่าง ๆ ที่เหมือนในญี่ปุ่นจริง ๆ กับการต่อสู้ที่เป็นแบบแอ็กชันอัดแหลก ซึ่งข้อเสียเพียงอย่างเดียวของเกมนี้คือเนื้อเรื่องที่เชื่อมกัน ใครที่เพิ่งมาจับภาค 3 ถึง 5 ตอนนี้มีงงแน่นอน ยังไงก็ไปหาภาคแรก ๆ มาเล่นก่อนแล้วคุณจะรู้ว่าลูกผู้ชายตัวจริงคืออะไร
Ultra Street Fighter 4
ปิดท้ายกับความคุ้มค่าที่ต้องจ่ายไปเมื่อสมัคร ‘PlayStation Plus’ กับเกมที่โหลดมาทีเดียวได้ครบทุกตัวละครอย่างเกม ‘Ultra Street Fighter 4’ เกมต่อสู้ข้างถนนภาคที่ดีที่สุดในซีรีส์ แถมยังเป็นมิตรกับผู้เล่นใหม่มากกว่า ‘Street Fighter 5’ ที่เล่นยากแถมต้องต่อออนไลน์เพื่อหาคนเล่น รวมถึงสิ่งต่าง ๆ ที่หลายคนเบือนหน้านี้มาเล่นเกมภาคนี้แทน เพราะทั้งรูปแบบการเล่นกลิ่นอายจังหวะของการต่อสู้มันเข้าถึงง่าย แม้แต่คนที่เล่นเกมต่อสู้ไม่เก่งก็มั่วปุ่มเล่นได้สนุก แถมตัวละครยังมีกว่า 44 คนแบบสะใจกันไปเลย ถือว่าเอาไว้เล่นเพื่อฝึกระหว่างรอ ‘Street Fighter 6’ ที่กำลังจะมาก็ได้ หรือจะเอามาเล่นยามไม่มีเกมเล่นก็โอเคเลยทีเดียว
เป็นอย่างไรกันบ้างกับการแนะนำเกมน่าสนใจบน ‘PlayStation Plus’ ประจำเดือนตุลาคมมาแนะนำ สำหรับมือใหม่ที่เพิ่งเข้ามาในวงการนี้แล้วไม่รู้ว่าเกมไหนเป็นอย่างไร เพราะบางทีเห็นแค่ชื่อเกมกับรูปแล้วอาจจะไม่รู้ว่าจะโหลดมาเล่นดีไหม หรือมันคุ้มค่าเงินที่จ่ายไปรึเปล่า หวังว่าบทความนี้จะเป็นตัวช่วยได้ไม่มากก็น้อย ซึ่งต้องบอกก่อนเลยว่าเกมที่เราหยิบมานำเสนอในบทความนี้เป็นเพียงบางส่วนจากทั้งหมดเท่านั้น เพราะยังเกมอื่น ๆ อีกมากมายให้คุณได้เลือกหาเล่น แต่เกมเหล่านี้ที่เราหยิบมาแนะนำมันคือเกมดีเกมเด่นที่คุณไม่ควรพลาด โดยเฉพาะมือใหม่ที่บอกเลยว่าทุกเกมนั้นเล่นไม่ยาก เพียงคุณฝึก ๆ ลอง ๆ นิดหน่อยก็เล่นสนุกจนลืมเวลาแน่นอน และส่วนคราวหน้าจะเป็นเรื่องราวอะไรในวงการเกมก็รอติดตามกันได้ หรือจะย้อนไปอ่านบทความเก่าที่อยู่ด้านล่าง ที่มีเนื้อหาเรื่องราวที่น่าสนใจให้คุณได้ติดตามแบบไม่มีเบื่ออย่างแน่นอน เพราะที่นี่มีทุกข่าวสารความบันเทิงให้คุณเสมอติดตามแบไต๋เอาไว้ได้เลย
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส