เชื่อว่าหลายคนที่ได้อ่านบทความนี้อยู่คงจะเริ่มเล่นหรืออาจจะเล่นเกม ‘God of War Ragnarok’ จบกันไปเรียบร้อยกันหมดแล้ว หรือบางคนที่กำลังตัดสินใจว่าจะซื้อมาเล่นดีไหมเพราะยังไม่รู้ว่าเรื่องราวมันเป็นมาอย่างไร เพราะตั้งแต่ที่เกมซีรีส์ ‘God of War’ ปล่อยออกมาในเดือนมีนาคมปี 2005 บนเครื่อง ‘PlayStation 2’ ตัวเกมก็ได้ออกภาคเสริมภาคแยกภาคก่อนหน้าภาคแรกออกมาตามเครื่องเกมต่าง ๆ มากมาย แถมทุกภาคยังเชื่อมโยงกันไปมาจนหลายคนที่ไม่ได้เล่นบางภาคอาจจะงุนงง กับการเดินทางของเฮียโล้นซ่าล่าทวยเทพคนนี้ ว่าเขามีความเป็นมาเป็นไปอย่างไรกว่าจะมาถึงตรงจุดนี้ ซึ่งนั่นก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้หลายคนไม่รู้สึกอยากเล่นเกมนี้ เพราะไม่เข้าใจเรื่องราวของเกมที่ผ่านมา เมื่อเป็นอย่างนั้นเราเลยไปรวบมัดเนื้อเรื่องเกมทุกภาคของซีรีส์ ‘God of War’ มาสรุปสั้น ๆ เข้าใจง่ายแต่ครบทุกเนื้อหามาให้ได้อ่านกัน เพื่อจะได้เล่นเกม ‘God of War Ragnarok’ ได้สนุกยิ่งขึ้น โดยเราจะเรียงตามเนื้อเรื่องแบบเล่าไปเรื่อย ๆ ตั้งแต่ต้นจนถึง ‘God of War 3’ โดยจะไม่พูดถึงตัวเกมว่ามาจากภาคไหน แต่จะเล่ายาว ๆ ทีเดียวยาว ๆ พออ่านจบก็จะรู้เลยว่ากว่าเฮียโล้นแกจะมาถึงตรงนี้ เครโทส (Kratos) ต้องผ่านอะไรมามากมายขนาดไหน ถ้าพร้อมแล้วก็มาดูสรุปเนื้อหาโล้นซ่าล่าเหล่าทวยเทพกันได้เลย
เด็กแห่งคำทำนายที่จะล้างบางเหล่าทวยเทพ
จุดเริ่มต้นเรื่องของ ‘God of War’ มันเริ่มต้นง่าย ๆ จากคำทำนายที่ถูกบันทึกเอาไว้ในอดีตที่บอกเอาไว้ว่า “เด็กชายผู้มีปานสีแดงพาดบนตัวจะเป็นผู้ทำลายเหล่าเทพ” นับจากวันนั้นเหล่าเทพต่างก็เฝ้าดูว่าจะมีเด็กชายคนนั้นเกิดเมื่อมาเมื่อใด จนวันหนึ่งก็ได้มีเด็กชายชาว ‘Spartan’ นามว่า ดีมอส (Deimos) น้องชายของเครโทสที่เกิดมาพร้อมปานสีแดงที่พาดตามตัว จึงทำให้เทพเจ้าสูงสุดอย่าง ซุส (Zeus) สั่งให้ แอรีส (Ares) เทพเจ้าแห่งสงครามไปจับเด็กชายคนนั้นมา ต่อหน้าเครโทสที่ไม่สามารถช่วยน้องชายของตัวเองได้ แถมในครั้งนั้นเครโทสยังโดนแอรีสตบสั่งสอนไปหนึ่งทีข้อหามาทำให้เทพเสียเวลา ซึ่งเอาจริง ๆ ทั้งเครโทสและดีมอสต่างก็เป็นลูกของซุสที่ไข่ทิ้งไว้กับมนุษย์ หลังจากเหตุการณ์ในตอนนั้นเครโทสก็สักสีแดงที่หน้าและตัวของเขาให้เหมือนน้องชาย เพื่อเป็นการเตือนตัวเองถึงความไร้ซึ่งพลังในการต่อสู้และเพื่อนึกถึงน้องชายของเขา ซึ่งหลังจากวันนั้นเครโทสก็ฝึกฝนตัวเองจากเด็กชายผอมแห้งมาเป็นโล้นซ่าหุ่นล่ำแม่ทัพของชาว ‘Spartan’ อาฮู้ (เสียงร้องในหนังเรื่อง 300)
จุดเริ่มต้นเข้าสู่วงการเทพ
วันเวลาผ่านไปอย่างช้า ๆ เครโทสเติบโตเป็นหนุ่มที่แข็งแกร่งเขาไม่ยอมให้อดีตมาฉุดรั้ง พร้อมกับเดินหน้าเพื่อฝึกฝนตัวเองให้เป็นนักรบอันแข็งแกร่ง เพราะที่ ‘Spartan’ อาฮู้ เราไม่รับคนที่อ่อนในหมู่บ้าน ซึ่งเครโทสก็สามารถไต่เต้าจากนายทหารธรรมดามาเป็นหัวหน้าหมู่ของกองทัพ พร้อมกับมีครอบครัวและลูกน้อยหนึ่งคนชื่อ คัลไลโอพี (Calliope) ที่จู่ ๆ ลูกสาวก็มีอาการป่วยอย่างไม่ทราบสาเหตุ ที่ไม่มีหมอคนใดสามารถรักษาอาการป่วยนี้ได้ และสิ่งเดียวที่จะช่วยลูกน้อยให้รอดจากชะตากรรมอันโหดร้ายนี้ได้คือ ‘Ambrosia’ หรืออาหารของเหล่าทวยเทพที่สามารถรักษาทุกโรคได้ดั่งใจ การเดินทางเพื่อตามหาอาหารเทพจึงเริ่มขึ้น ซึ่งเมื่อเฮียโล้นของเราก็ไปขออาหารเทพจากแอรีสเทพที่ตนบูชา แอรีสก็ยื่นข้อเสนอให้เครโทสมาเป็นหมากของเขาในการแข่งขันเกมต่อสู้ ที่เหล่าเทพจะเลือกมนุษย์เก่ง ๆ มาต่อสู้กันจนเหลือคนสุดท้าย ซึ่งคน ๆ นั้นจะขออะไรก็ได้ถ้าเขาชนะการแข่ง หรือจะพูดง่าย ๆ คือเหล่าเทพเบื่อเลยหาอะไรสนุก ๆ ทำ เมื่อเป็นอย่างนั้นเครโทสก็รับอาสาลงแข่งในตัวแทนเทพแอรีส ไปไล่กระทืบตัวแทนของเทพคนแล้วคนเล่าจนสามารถเอาอาหารเทพมาช่วยลูกสาวได้
พันธสัญญาเทพเจ้า
หลังจากเหตุการณ์ในครั้งนั้นชื่อเสียงของเครโทสก็เลื่องลือถึงความแข็งแกร่ง จนพระราชา ‘Spartan’ อาฮู้ ได้แต่งตั้งเครโทสเป็นแม่ทัพเพื่อรุกรานดินแดนต่าง ๆ มาเป็นของตน ซึ่งเครโทสที่ได้เลื่อนขั้นก็บ้างานแบบสุด ๆ จนแทบไม่สนใจลูกเมียที่บอกให้เขาลาพักร้อนมาอยู่กับครอบครัวเขาก็ไม่สนใจ จนมีศึกหนึ่งเครโทสกำลังจะพ่ายแพ้ให้กับ ‘Barbarian King’ ที่กำลังจะสังหารเขาในสนามรบ แต่ในวินาทีแห่งความเป็นความตายเครโทสก็ได้ร้องเรียกเทพเจ้าแห่งสงครามแอรีสให้มาหา เพื่อยื่นข้อเสนอว่าตนเองจะเป็นทาสรับใช้แอรีสเพื่อแลกกับชัยชนะในครั้งนี้ ซึ่งแอรีสที่เคยเห็นฝีมือเครโทสมาจึงรับข้อเสนอทันที โดยการเขียน ‘Death Note’ ให้ทหารของฝั่ง ‘Barbarian King’ ตัวติดไฟหัวระเบิดตายยกกองทัพ ส่วน ‘Barbarian King’ ก็ถูกเครโทสใช้ดาบโซ่ ‘Blades of Chaos’ (ของแถมในสัญญาทาส) ตัดคอของ ‘Barbarian King’ สำเร็จ หลังจากนั้นเครโทสที่บ้าเลือดก็สั่งกองทัพ ‘Spartan’ อาฮู้ ไปฆ่าล้างบางเมืองอื่น ๆ ตามคำสั่งของแอรีสแบบไม่รู้สึกตัว
กำเนิดผีร้ายแห่ง Sparta
เครโทสที่หน้ามืดตามัวคิดว่าตนเองต่อสู้ในสงครามแบบไม่ลืมหูลืมตา จนมาถึงครั้งสุดท้ายในสนามรบนั้นเอง เครโทสก็ได้สติกลับมาและรู้สึกตัวว่าซากศพที่อยู่ตรงหน้าตอนนี้คือลูกและภรรยาตนเองที่เขาเพิ่งสังหารไป ตามคำสั่งของแอรีสที่ต้องการให้เครโทสเป็นนักรบที่ไร้พันธะผูกพันเพื่อก้าวขึ้นสู่หมากมือหนึ่งของเทพแห่งสงคราม หลังจากเหตุการณ์ในตอนนั้นเครโทสได้เผาศพลูกและภรรยาตัวเองด้วยความเศร้าโศกและรู้สึกผิดในสิ่งที่ทำลงไป ซึ่งในตอนนั้นเองซากเถ้ากระดูกของลูกเมียเครโทสก็ลอยมาเกาะที่ตัวของชายโล้นที่กำลังเศร้าโศก จนทำให้ตัวเขาขาวซีดเหมือนผี ซึ่งในตอนนี้เราสามารถตีความได้ว่า นั่นคือคำสาปของลูกเมียเครโทส เพื่อให้เขารับรู้ว่าตนเองได้ทำอะไรลงไป กับการตีความว่าฝุ่นผงเถ้ากระดูก (ที่ไม่ใช่แป้ง) นั้นมาเกาะตามตัวเครโทสเพื่อการโอบกอดและอยู่กับคนที่รัก เพราะลูกเมียรู้ว่าเครโทสไม่มีวันทำแบบนี้แน่นอน นับจากวันนั้นก็ถือกำเนิดผีร้ายแห่งสปาร์ต้า ‘Ghost of Sparta’ ที่ต้องการล้างพันธสัญญาเทพเจ้าแห่งสงคราม
ชายผู้ผิดสัญญากับเทพ
6 เดือนหลังจากที่เครโทสฆ่าลูกเมียตัวเองไปเรียบร้อย เขาก็ประกาศแกรดจบการศึกษาจากการเป็นนักรบของเทพเจ้าสงคราม แต่แค่การประกาศว่าจะเลิกรับใช้เทพมันไม่ใช่แค่บอกแล้วจะเลิกเป็นได้เลย เพราะสัญญาทาสไม่ได้ระบุวันหมดอายุ เครโทสจึงถูกจับมาขุมขังที่เรือนจำผู้ถูกสาปที่สร้างบนตัวยักษ์ 10 แขน อีเกียน (Aegaeon) และถูกทรมานจากเหล่า ‘Furies’ ที่ให้เขาต้องทนทรมานไปกับภาพการสังหารลูกเมียซ้ำไปมา จนเมื่อเฮียโล้นหลุดจากพันธนาการเฮียก็จัดการเหล่า ‘Furies’ รวมถึงยักษ์ 10 แขนลงอย่างง่ายดาย (ยักษ์ตัวใหญ่เท่าภูเขาเฮียโล้นตัวเท่ามดคิดดู) และได้พบกับ โอลคอส (Orkos) ลูกชายผู้ไม่เอาไหนของเทพแห่งสงครามแอรีส ที่ทางนั้นก็ต้องการตัดพันธสัญญาของเทพเหมือนเครโทส ที่สุดท้ายแล้วสิ่งที่เครโทสต้องทำเพื่อจะออกจากวงการลูกน้องเทพคือการฆ่าโอลคอสเสีย เพราะเขาคือพันธสัญญาของเครโทสและแอรีสที่เหล่า ‘Furies’ ทำไว้ เครโทสที่แม้ไม่อยากทำแต่ก็ต้องจำใจสังหารโอลคอส ด้วยการมอบความตายอย่างมีเกียรติแก่เขา จนพันธสัญญาของเครโทสและโอลคอสหลุดจากแอรีส ที่คราวนี้ก็ถึงเวลาแก้แค้นแล้ว เฮียโล้นที่จบการศึกษาประกาศแกรดของจริงอย่างเป็นทางการ
ภารกิจช่วยโลก
10 ปีหลังจากที่เครโทสประกาศแกรดจบการศึกษาอย่างเป็นทางการ เขาก็เข้าร่วมต่อสู้ในกองทัพต่าง ๆ มากมายจนได้ฉายาผีร้ายแห่งสปาร์ต้า และตามหาแอรีสไปด้วยเพราะเทพแห่งสงครามต้องปรากฏตัวในสงครามที่ใดที่หนึ่งอย่างแน่นอน และในระหว่างที่เครโทสกำลังทำสงครามกับกองทัพ ‘Persian’ อย่างสนุกสนาน จู่ ๆ พระอาทิตย์ก็หายไปจากท้องฟ้า แถมเหล่าเทพต่างก็หลับสนิทเพราะถูกเทพแห่งความฝัน มอร์เฟียส (Morpheus) กล่อม ซึ่งถ้าโลกไร้ซึ่งดวงอาทิตย์และเหล่าเทพมนุษย์คงตายอย่างแน่นอน เฮียโล้นเราเลยตามสืบเพื่อหาสาเหตุจนทราบว่าสาเหตุที่พระอาทิตย์หายไปเกิดจากในนรกเป็นต้นเหตุ การเดินทางท่องนรกของเครโทสจึงเริ่มขึ้น ซึ่งในนั้นเครโทสได้เจอกับลูกสาวอีกครั้ง ที่ตรงนี้เครโทสสามารถเลือกจะใช้ชีวิตกับลูกสาว หรือจะเลือกช่วยโลกด้วยการกดปุ่ม “O” รั่ว ๆ เพื่อสลัดลูกสาวให้ออกจากตัวเพื่อไปช่วยโลก ที่ตรงนี้คนทำเกมใจร้ายมากให้เราคนเล่นกดปุ่มแทนที่จะให้เครโทสทำเอง ประมาณว่าเราคือคนเลือกให้เครโทสไม่ใช่เครโทสเป็นคนเลือก ซึ่งคนที่อยู่เบื้องหลังในครั้งนี้คือ เพอร์เซโฟนี (Persephone) ภรรยาของเทพเจ้าแห่งนรกที่ถูกลักพาตัวมาแบบไม่ตั้งใจ จนเธออยากจะใช้โอกาสนี้ทำลายสวรรค์ทิ้งด้วยการลักพาตัวเทพแห่งดวงอาทิตย์ เฮลิออส (Helios) เพื่อปลุกยักษ์ไททัน แอตลาส (Atlas) ให้ทำลายสวรรค์ก่อนที่จะถูกเฮียโล้นเราขัดขวางและเช็กบิลทุกคนที่เป็นต้นเหตุเรื่องนี้
หนทางฆ่าเทพ
หลังจากช่วยโลกและเหล่าเทพได้ ตอนนั้นเองแอรีสก็ปรากฏตัวเพื่อทำลายเมืองตามที่เคนโทสคิด แต่พอเทพเจ้าสงครามมาเครโทสกลับไม่มีพลังพอที่จะไปสู้กับเทพ เพราะเทพเจ้านั้นต่างกับยักษ์ตรงที่ตัวใหญ่อย่างเดียว แต่เทพมีพลังอำนาจที่สามารถเป่ามนุษย์แบบเครโทสเป็นฝุ่นได้ในการโจมตีเพียงครั้งเดียว แต่หนทางก็ใช่ว่าจะไม่มีโดยการชี้นำของ อาเธน่า (Athena) เทพแห่งการศึก (นักวางแผน) บอกเครโทสถึงหนทางการกำจัดเทพเจ้าได้ ด้วยการไปเอาพลังมาจาก ‘Pandora’s Box’ ที่อยู่บนหลังของยักษ์ โครนอส (Cronos) จนสามารถเครโทสเปิดกล่อง ‘Pandora’ เขาก็ได้พลังเทียบเท่าเทพเจ้าสงครามจนสามารถเอาชนะเทพเจ้าสงครามแอรีสลงได้ และตัวเองก็ขึ้นรับตำแหน่งเทพแห่งสงครามคนใหม่
แก้ปมในอดีต
เมื่อขึ้นเป็นเทพเจ้าแห่งสงครามสิ่งแรกที่เครโทสทำก็คือการออกเดินทางเพื่อทำลาย ‘Ambrosia’ หรืออาหารเทพเพื่อให้แน่ใจว่าแอรีสจะไม่ได้รับการชุบชีวิตขึ้นมาจากสาวกของแอรีส ซึ่งในภารกิจนี้ก็ทำให้เครโทสเห็นภาพแม่ของเขาในวิหาร ‘Poseidon’ จึงทำให้เครโทสต้องเดินทางไปยังใต้สมุทร ‘Atlantis’ โดยไร้ซึ่งพลังเทพ ที่นั่นเครโทสได้เจอท่านแม่ที่คิดว่าตายไปแล้ว และรับทราบว่าดีมอสน้องชายที่ถูกจับไปยังไม่ตาย แต่ด้วยการยุยงของเหล่าเทพที่ไม่อยากให้ครอบครัวมาพบเจอกัน เพราะเทพเจ้าบางส่วนก็ไม่ชอบเครโทสที่ฆ่าเทพแล้วยึดอำนาจมา แม่และน้องชายของเครโทสจึงถูกสาปให้สู้กับเครโทส จนเขาต้องปลิดชีพแม่และน้องชายของตัวเอง ที่ตรงจุดนี้มันได้สร้างความบาดหมางให้เครโทสและเหล่าเทพ เมื่อเขารู้ความจริงทั้งหมดว่าเทพเจ้าที่เขาเคารพนั้นอยู่เบื้องหลังเรื่องนี้
ความบาดหมางที่เริ่มก่อตัว
หลังจากเหตุการณ์ในตอนนั้นเครโทสก็เริ่มไม่พอใจเหล่าเทพ จึงได้ก่อสงครามไปทั่วเพื่อยั่วโมโหเทพตามภาษาคนหัวร้อน จนมีครั้งหนึ่งระหว่างที่เครโทสกำลังช่วยเหล่า ‘Spartan’ อาฮู้ โจมตีเมือง ‘Rhodes’ โดยมีเฮียโล้นเทพสงครามแปลงร่างเป็นตัวใหญ่ช่วยทำลายเมืองเหมือนเด็กน้อยทำลายข้าวของ จนทำให้ซุสไม่ถูกใจสิ่งนี้จึงลงมือขโมยพลังเทพของเครโทสไปพร้อมส่งรูปปั้นยักษ์มาจัดการเขา และปั้นคำโกหกว่าถ้าอยากได้พลังคืนก็ไปเอา ‘Blade of Olympus’ มาแล้วพลังจะคืนมา จนเมื่อได้ดาบแห่งสวรรค์มาเครโทสก็สามารถเอาชนะรูปปั้นยักษ์ได้แต่ตัวเองกลับถูกดูดพลังเทพไปจนหมดแทน เมื่อถูกดูดพลังเทพไปหมดเครโทสก็เป็นแค่คนธรรมดา แถมยังถูกซุสสมน้ำหน้าบอกโง่เองที่เชื่อเทพก่อนจะเอาดาบ ‘Blade of Olympus’ แทงเครโทสจนเขาตายตกนรก (อีกแล้ว)
แต่เฮียโล้นก็ไม่ยอมตกลงนรกง่าย ๆ เพราะแกลงไปบ่อยจนรู้ทางดีจึงสามารถขึ้นมาจากนรกได้แบบง่ายดาย และหาทางเอาคืนซุสโดยการแนะนำของ ไกอา (Gaia) ยักษ์ไททันที่เป็นดั่งแม่ของซุสที่ต้องการล้างแค้น จึงแนะนำให้เขาไปทำลาย ‘Sisters of Fate’ เพื่อควบคุมชะตาตนเอง เพราะ ‘Sisters of Fate’ คือผู้กำหนดพรหมลิขิตของทุกชีวิตแม้แต่เทพเจ้า ถ้าสามคนนี้ตายก็ไม่มีคนมากำหนดชะตาให้เขาและเทพ (ประมาณว่าเทพองค์นี้มีกำหนดตายอีก 500 ปีตอนนี้เครโทสจะฆ่าให้ตายเทพก็รอด) คราวนี้เครโทสก็จะเป็นคนกำหนดชีวิตให้เทพได้ และยังเดินทางข้ามเวลามาเพื่อกำจัดซุสไปช่วงก่อนที่ตัวเองจะถูกแทงตาย จนผลิกเกมกลับมาเอาชนะซุสท่านพ่อสุดที่รักได้ แต่ในวินาทีที่จะฆ่าพ่อตัวเอง อาเธน่าก็มาขวางจนเธอรับดาบ ‘Blade of Olympus’ ไปเต็ม ๆ ขณะที่ซุสก็หนีไปได้ หลังจากนั้นเครโทสก็ร่วมมือกับไกอาและยักษ์ไททันคนอื่น ๆ บุกสวรรค์เพื่อล้างแค้น
โล้นซ่าฆ่าล้างทวยเทพ
เรื่องราวเกิดขึ้นต่อเนื่องแบบทันทีทันใด เครโทสบุกสวรรค์เพื่อฆ่าเหล่าเทพโดยมีท่านจ้าวสมุทร โพไซดอน (Poseidon) เป็นเหยื่อคนแรก ก่อนจะตามด้วยไกอาที่หันมาทรยศเครโทสเพราะถึงแม้ทั้งคู่จะร่วมมือกันแต่ต่างฝ่ายต่างก็ไม่ไว้ใจกันจนเกิดเป็นการฆ่ากันเอง (ก่อนหน้านี้เครโทสก็ฆ่ายักษ์ไปหลายตน) หลังจากนั้นเครโทสก็ตามฆ่าเทพไปเรื่อย ๆ ไม่ว่าจะเป็น เฮอร์คิวลีส (Hercules) จ้าวนรก เฮดีส (Hades) จนแทบหมดสวรรค์ และสิ่งที่สำคัญที่สุดในการกำจัดเหล่าเทพก็คือ ‘Pandora’s Box’ ที่จะเป็นกุญแจแห่งชัยชนะอย่างแท้จริง เพราะในนั้นมีพลังยิ่งใหญ่ให้แก่ผู้เปิดกล่องที่เทพก็คิดจะใช้พลังนี้ไปตบเครโทส แต่เครโทสก็ไปชิงมาก่อนโดยกุญแจของ ‘Pandora’s Box’ ครั้งนี้ก็คือตัวเด็กสาวจนเธอต้องสละชีวิตเพื่อเปิดกล่อง ที่สุดท้ายเครโทสก็ได้พลังจากกล่อง ‘Pandora’ มาสู้กับซุสสมใจ จนสามารถฆ่าเทพเจ้าสูงสุดลงได้พร้อมกับโลกที่กำลังล่มสลายเพราะขาดเหล่าเทพมาสร้างสมดุล อาธีน่าจึงอยากให้เครโทสมาเป็นเทพเจ้าสูงสุดและปกครองทุกชีวิตต่อไปแทนซุส เพราะพลังความหวังของ ‘Pandora’s Box’ อยู่ในตัวเครโทส แต่เครโทสไม่สนใจสิ่งนั้นอีกแล้ว เขาใช้ ‘Blade of Olympus’ แทงตัวเองเพื่อคืนความหวังให้ทุกคน ก่อนที่เกมจะตัดจบให้เรารู้ว่าเครโทสยังไม่ตายเพราะมีเพียงกองเลือดเท่านั้น จนมาถึงเรื่องราวใน ‘God of War’ ปี 2018 ที่เป็นเครโทสคนเดิมเพิ่มเติมคือหุ่นหมีและหนวดเคราที่ยาวขึ้นกับเด็กชายบอย ซึ่งเราขอตัดจบเรื่องราวตรงนี้และให้คุณไปหาเกมภาคนี้มาเล่นเอง เพื่อความเข้าใจในเนื้อหาก่อนเข้า ‘God of War Ragnarok’
เป็นอย่างไรกันบ้างกับเรื่องราวของเทพเจ้าแห่งสงคราม ที่เราเล่าเรื่องแบบรวบรัดเอาแต่ส่วนที่สำคัญมาตั้งแต่เริ่มต้นจนจบ เพื่อให้แฟน ๆ เกม ‘God of War’ ได้ทราบเนื้อหาเรื่องราวในอดีตของเครโทสว่าเขาต้องผ่านและเจออะไรมาบ้างกว่าจะมาถึงตรงนี้ โดยเราจะขอข้ามภาค ‘God of War’ ปี 2018 ไปเพื่อให้หลายคนไปหามาเล่นเอาเอง เพื่อเท้าความก่อนเข้าสู่เนื้อหาใน ‘God of War Ragnarok’ ซึ่งทั้งสองภาคนี้แทบจะเป็นเรื่องราวใหม่ที่ไม่เกี่ยวกับภาคเก่า แถมในภาคปี 2018 ก็มีรายละเอียดมากมายที่ถ้าเราเอามาเล่าแบบละเอียดคงต้องใช้ทั้งบทความในการเล่าเพื่อไม่ให้ตกหล่น ดังนั้นคุณควรไปหามาเล่นเองจะดีกว่า และเราก็หวังว่าเนื้อหาในบทความนี้จะช่วยให้คุณรู้จักเรื่องราวของ ‘God of War’ มากขึ้น ซึ่งถ้าเนื้อหาบทความนี้ข้ามหรือขาดตกตรงไหนไปก็ขออภัยมาด้วย ส่วนคราวหน้าจะเป็นเรื่องราวอะไรในวงการเกมก็ติดตามกันได้ที่นี่ที่เดียว หรือจะไปอ่านบทความเก่า ๆ ที่ผ่านมาก็มีให้คุณเลือกดูมากมายไม่มีเบื่อแน่นอน เพราะที่แบไต๋มีครบทุกความบันเทิงเพื่อคุณ
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส