Finji ผู้จัดจำหน่ายเกมอินดี้ Tunic ได้เผยถึงความกังวลต่อความนิยมของระบบบริการเกมรายเดือน (Subscription) ในอนาคต เพราะกิจการเหล่านี้มาพร้อมกับเกม ‘จำนวนมาก’ ที่สมาชิกสามารถเล่นได้ในราคาที่ย่อมเยา ซึ่งก็เป็นที่มาของความนิยมและยังส่งผลให้เติบโตได้รวดเร็วกว่าการนำเกมวางจำหน่ายบนแพลตฟอร์มร้านค้า ด้วยเหตุนี้เอง เลยทำให้ Finji สงสัยว่าการเปลี่ยนแปลงในอุตสาหกรรมครั้งนี้ จะส่งผลอย่างไรต่อทีมพัฒนาเกมอินดี้เล็ก ๆ ในอนาคต

จากบทสัมภาษณ์ของ GamesIndustry.biz ประธานบริหารทีม Finji ‘เบคาห์ ซอลต์แมน’ (Bekah Saltsman) ได้กล่าวว่า เธอกังวลว่ากิจการเหล่านี้จะปฏิเสธการนำเข้าเกมจากทีมพัฒนากเกมเล็ก ๆ ร่วมคลัง เนื่องจากในคลังมีเกมเป็นจำนวนมากอยู่แล้ว และ พวกเขามักจะให้ความสำคัญกับเกมค่ายใหญ่ที่มีฐานผู้เล่นเยอะมากกว่า

นอกจากนั้นแล้ว ด้วยความที่ปัจจุบันคนส่วนใหญ่สมัครบริการเหล่านี้เพื่อเล่นเกมใหญ่ ๆ เพียงเกมเดียว พร้อมกับอีกกลุ่มที่สมัครใช้บริการนี้เพื่อเล่นเกม Day One ในราคาที่ถูก ซึ่งคำถามสำหรับประเด็นคือ กิจการเหล่านี้จะยอมลงทุนกับเกมอินดี้ที่สามารถสร้างกำไรได้ไม่เยอะเท่าเกมยอดนิยมที่พวกเขามีเข้าร่วมคลังต่อไปในอนาคตไหม?

‘เบคาห์ ซอลต์แมน’ (Bekah Saltsman) ประธานบริหารทีม Finji

อย่างไรก็ตาม ซอลต์แมนก็ได้ย้ำว่าที่กล่าวมาเป็นความคิดเห็นของเธอเท่านั้น แต่ตราบใดถ้ากิจการเหล่านี้ยังสามารถเปิดโอกาสให้กับทีมพัฒนาเกมเล็ก ๆ ได้ต่อไป (รวมไปถึงทีมของซอลต์แมน) เจ้าตัวก็ขอชื่นชมทางอุตสาหกรรมเกมที่ยังสามารถคงความสมดุลนี้เอาไว้

“ฉันเองก็อยากให้เกมเมอร์ได้ลองเล่นเกมแปลกใหม่มากขึ้น เพราะถ้าหากการออกแบบเกมบีบรัดมากเกินไป และ จะต้องเน้นดึงดูดเฉพาะฐานผู้เล่นขนาดใหญ่อย่างเดียว คุณจะพลาดของดีหลาย ๆ อย่างจากทีมพัฒนาเกมแบบเราไปเยอะเลยค่ะ สิ่งที่ฉันต้องการต่อจากนี้ขอแค่ให้ผู้พัฒนาเกมได้รับเงินจากผลงานที่พวกเขาทำตามความเหมาะสมก็พอแล้ว”

ที่มา GameRant, GamesIndustry.biz

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส