เมื่อถึงเกม ‘Resident Evil 4 Remake’ ที่เปิดตัวมาพร้อมกับคำจั่วหัวที่ว่า เรื่องราวนี้เกิดขึ้นหลังจากการล่มสลายของบริษัทร่ม ‘Umbrella’ ไปแล้ว ที่ในตอนนั้นแฟน ๆ บางส่วนของ ‘Resident Evil’ ต่างเอามือทาบอกขอบคุณไปทาง ‘Capcom’ ที่สามารถหลุดเนื้อเรื่องตัวเองออกมาจาก ‘Raccoon City’ เสียที และเมื่อพูดถึงการล่มสลายของ ‘Umbrella Corporation’ เชื่อว่าหลายคนคงจะต้องสงสัยแน่ ๆ ว่าแล้วบริษัทนี้มันล่มสลายยังไงใครเป็นคนทำให้เกิดขึ้น และการล่มสลายของยักษ์ใหญ่แบบนี้มันมีผลกระทบอะไรตามมาบ้าง และนอกจาก ‘Raccoon City’ แล้วยังมีหายนะอะไรที่เกิดขึ้นกับบริษัทร่มแดงขาวนี้อีก เรามาตามติดเรื่องราวของเหตุการณ์ครั้งนี้กัน โดยข้อมูลที่เรารวบรวมมานั้นคือเนื้อหาที่เกิดขึ้นจากในเกมภาคต่าง ๆ ที่บอกเอาไว้ รวมถึงเอกสารต่าง ๆ ที่บอกเราคนเล่นว่าหลังจากนั้นเกิดอะไรขึ้นกับบริษัทแม่อย่าง ‘Umbrella’ ซึ่งเราได้รวบรวมข้อมูลเหล่านี้ให้คุณได้อ่านกัน ถ้าพร้อมแล้วก็มาตามติดความหายนะของบริษัทร่มที่ไม่ได้ขายร่มแต่ขายยากับสัตว์ประหลาดไปพร้อมกันเลย
หลังเหตุการณ์ Raccoon City สหรัฐอเมริกาบังคับให้ Umbrella รวบรวมสินทรัพย์ของบริษัทให้เป็นสหพันธรัฐและให้กลุ่มบริษัทระหว่างประเทศต้องรับผิดในการเสียชีวิตครั้งนี้
เริ่มต้นเรื่องแรกที่หลายคนอาจจะไม่ทราบเพราะมันถูกบันทึกอยู่ในเอกสารตามเกมภาคต่าง ๆ เกี่ยวกับเหตุการณ์การล่มสลายของ ‘Umbrella’ ที่หลังจากเหตุการณ์ใน ‘Raccoon City’ สื่อต่าง ๆ ทั่วโลกต่างก็ประโคมข่าวความอื้อฉาวในสิ่งที่ ‘Umbrella’ ทำเอาไว้แบบรุมบาทาสามัคคี เพราะก่อนหน้านี้สื่อต่าง ๆ ทั่วโลกต่างถูกปิดปากทั้งทางตรงและทางอ้อมและเก็บนักข่าวที่รู้เห็นเหตุการณ์ต่าง ๆ อย่าง เบน เบอร์โตลุชชี (Ben Bertolucci) หรือคนในเองที่คิดจะหักหลังอย่างพ่อของและตัวของ สตีฟ เบิร์นไซด์ (Steve Burnside) ก็ถูกจับมาเป็นหนูทดลองเพราะคิดจะเอาความลับ ‘Umbrella’ มาขาย ที่คราวนี้ทางบริษัทร่มไม่มีใครมาคุ้มกะลาหัวแล้ว แม้แต่ทางรัฐบาลสหรัฐอเมริกาที่เป็นหนึ่งในผู้ได้รับการสนับสนุนจาก ‘Umbrella’ ยังต้องลงดาบเป็นคนแรกด้วยการบังคับให้ ‘Umbrella’ รวบรวมสินทรัพย์ของบริษัทให้เป็นสหพันธรัฐ (เงินกองกลางที่พอจ่ายต้องได้รับความเห็นชอบจากสมาชิก) และให้กลุ่มบริษัทระหว่างประเทศต้องรับผิดในการเสียชีวิตครั้งนี้ ซึ่งเอาจริง ๆ เงินที่ถูกบังคับจ่ายนั้นเป็นแค่เงินของ ‘Umbrella’ สาขาอเมริกาเท่านั้น และนี่เป็นแค่หนึ่งในสาขาย่อยของบริษัทร่ม เพราะพี่แกมีสาขาต่าง ๆ อีกมากมายทั่วโลกที่มีทั้งแบบเปิดเผยและแบบแอบเงียบ ๆ แถมที่ยึดไปก็แค่ส่วนของผลิตภัณฑ์ยาที่เป็นบริษัทลูกเท่านั้น แต่ชื่อเสียงหน้ากากคนดีหัวโขนที่สร้างมันถูกทำลายทิ้งแบบไม่เหลือชิ้นดี แต่ใครจะสนเพราะเรายังมีตลาดมืดที่เป็นตลาดใหญ่ที่ผีเห็นผีพร้อมซื้อผลิตภัณฑ์อยู่จะกลัวอะไร
การล่มสลายของ Raccoon City ทำให้เชื้อไวรัสถูกขโมยออกมาขายตลาดมืดมากมาย
ย้อนกลับไปในช่วงที่ ‘Raccoon City’ กำลังเกิดความวุ่นวายผู้คนหนีตายจากฝูงซอมบี้สัตว์ประหลาดที่หลุดจากห้องทดลอง ลีออน (Leon) กับ แคลร์ (Claire) และก็ จิล (Jill) ต่างก็กำลังหนีตายในเมืองกันอย่างสนุกสนาน เต็มไปด้วยรอยยิ้มและเสียงกรีดร้องของผู้คนที่กำลังหนีตายอย่างมีความสุข ในตอนนั้นก็มีพนักงานของบริษัทร่มที่คิดว่าไหน ๆ บริษัทก็จะเจ๊งอยู่แล้วโบนัสคงไม่ต้องหวัง และไม่ต้องมาระแวงว่าจะเห็นประธานบริษัทปลอมตัวยามอีก เมื่อเป็นอย่างนั้นพนักงานดีเด่นเหล่านี้เลยขโมยเชื้อไวรัสข้อมูลไปขายตลาดมืดที่ไม่ใช่แถวคลองถม และที่แบบเห็น ๆ แบบคาหนังคาเขาเลยก็คือ โมนิก้า (Monica) พนักงานดีเด่นจาก ‘Resident Evil Outbreak’ ที่นางคิดจะขโมย ‘G-larva’ ตัวอ่อนและฐานข้อมูลไปขายระหว่างหลบหนี แต่ทำไม่สำเร็จเพราะฟ้ามีตาเวรกรรมมีจริงที่เธอถูกฆ่าตายระหว่างหนีออกมา อีกคนที่ทำสำเร็จก็คือ มอร์เฟียส ดี. ดูวัล (Morpheus D. Duvall) ที่เป็นคนละคนกับมอร์เฟียสที่ให้เลือกยาสองสีที่คุณกำลังคิด ที่คนหลังเป็นถึงผู้บริหารระดับสูงของบริษัทร่มที่ไม่เคยปลอมตัวมาเป็นยามเพราะหล่อเกินไป ที่พอรู้ว่าปีนี้แกอดโบนัสแน่ ๆ เลยขโมยข้อมูลไปขายซะเลย แต่ดันพลาดตรงที่พี่แกจะคิดการใหญ่ขู่เรียกเงินประเทศต่าง ๆ ด้วยอาวุธชีวภาพแทนที่จะขายตามตลาดมืด ผลที่ได้คือการถูกสายลับหน้ามึนกับสาวหมวยน่ารักปราบในเกม ‘Resident Evil Dead Aim’ นี่ยังไม่นับพนักงานคนอื่น ๆ ที่ข้อมูลไม่ได้บอกอีกนะ ที่บอกเลยว่าวงการตลาดมืดตอนนั้นซื้อขายกันสนุกยิ่งกดซื้อของลดราคาในช่วงวันเลขคู่เลขคี่อีก
การหักหลังของ Albert Wesker ทำให้บริษัทคู่แข่งหลักของ Umbrella สามารถเข้าถึงการวิจัย BOW ได้ผ่านข้อมูลที่รั่วไหล
แน่นอนว่าการกระทำที่มันใหญ่แบบนี้ต้องมีประธานเป็นตัวเปิด และคนที่สานต่อเหมือนอย่างการจัดงานทอดผ้าป่าสามัคคีที่มีวัดเป็นผู้ริเริ่ม ก่อนจะแจกซองให้คุณ ๆ มาเป็นประธานในงานพร้องเงินใส่ซองที่มากกว่าคนอื่น ความวอดวายของบริษัทร่มก็เช่นกันที่เมื่อมีตัวเปิดใน ‘Resident Evil 0’ ที่เราจะพูดถึงในช่วงท้าย ก็มีคนมารับไม้ต่อประหนึ่งได้รับซองมาและเขียนชื่อคุณเป็นประธานทอดผ้าป่า นั่นก็คือชายแว่นดำ อัลเบิร์ต เวสเกอร์ (Albert Wesker) ที่เป็นคนละคนกับในซีรีส์อย่าเอาไปรวมกันเชียว ที่พอทางเวสเกอร์รู้ว่ามีการรั่วไหลของเชื้อไวรัสที่เทือกเขาอาร์คเลย์ ที่เป็นห้องทดลองของ ‘Umbrella’ พี่แว่นดำก็แอบตีเนียนทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นส่งหน่วยพิเศษใส่ไข่ดาวมั้ยรูปหล่อแบบป้าขายข้าวหน้าปากซอย อย่างหน่วย ‘S.T.A.R.’ ทีมแรกที่ชื่อ ‘Bravo Team’ ไปก่อนใน ‘Resident Evil 0’ ก่อนจะส่งอีกทีมไปเพื่อเก็บข้อมูลของสัตว์ทดลองพร้อมกับเชื้อตัวอย่างเอาไปเป็นเงินทุนธุรกิจ แบบอายุมากร้อยล้านและทำเป็นแกล้งตายเพื่อหลอก ‘Umbrella’ ในการทำงานลับ ๆ แต่ไม่ลับอยู่เบื้องหลัง ซึ่งบริษัทแรกที่เวสเกอร์ไปตีซี้ด้วยคือบริษัทคู่แข่งอย่าง ‘Tricell’ โดยมีเจ๊คนสวย เอ็กซ์เซลล่า จิออน (Excella Gionne) เป็นหัวเรือในการโดนหลอกใช้ นอกจากนี้พี่แว่นดำเราก็ยังแอบไปขายความลับตามบริษัทอื่น ๆ อีกมากมาย เพื่อเอามาเป็นเงินทุนในการสร้างโลกใหม่ที่ผู้ที่ถูกเลือกเท่านั้นจะอยู่รอด แบบฝันเป็นตัวร้ายในการ์ตูนญี่ปุ่นเลยทีเดียว แต่จะว่าแบบนั้นก็ไม่ได้เพราะพี่แกมีปมเรื่องที่ตัวเองเป็นมนุษย์ทดลองไม่ใช่คนแท้ ๆ เลยอยากจะทำลายโลกนี้ และเพราะเหตุนี้เราถึงได้เห็นสัตว์ประหลาดตามสงครามต่าง ๆ ที่หนักกว่าของเหล่าพนักงานบริษัทที่ขโมยข้อมูลไปขายอีก เพราะพวกนั่นแค่ไปเร่ขายตามคลองถมตลาดมืดแต่ของเฮียเวสเกอร์แกเอาไปขายที่บริษัทยักษ์ใหญ่ที่โหดกว่าพวกรายย่อยอีก
การสูญเสีย Tyrant Plant บนเกาะ Sheena ทำให้การผลิต Tyrant รุ่นต่อไปหยุดลงทาง Umbrella ก็ขาดเงินทุนก้อนโต
เรียกว่าผลกระทบเป็นลูกโซ่ก็ว่าได้เมื่อบริษัท ‘Umbrella’ สาขาใหญ่ล้มไม่เป็นท่าทางบริษัทลูก ๆ ที่อยู่ตามที่ต่าง ๆ ก็พยายามอุบเงียบทำตัวเล็ก ๆ ไม่ให้เป็นที่สนใจ แต่ก็อย่าลืมไปว่าตราบใดที่ฟ้ายังมีตาเวรกรรมมีจริง เหล่าผู้คนที่เคยหวาดกลัวบริษัทร่มเพราะทางนั้นมีอำนาจปิดปากคนที่จะเปิดเผยความลับ ที่พอสื่อต่าง ๆ ออกมาแฉแบบรายการโหนกระแสผู้คนต่างก็ให้ข้อมูลกับคนที่บอกได้มากขึ้น หนึ่งในนั้นคือข้อมูลของเกาะเล็ก ๆ ที่ชื่อว่า ‘Sheena’ ที่มี วินเซนต์ โกลด์แมน (Vincent Goldman) เป็นผู้ดูแลเกาะในการผลิตสร้าง ‘Tyrant Plant’ ขายตามตลาดมืด ใครคิดไม่ออกว่ามันคือตัวไหนก็คิดถึง ‘Mr. X’ ใน ‘Resident evil 2 Remake’ ซึ่งคนที่ได้ข่าวเรื่องนี้คือพี่ลีออนสมัยที่พี่เขายังฝึกเป็นหน่วยพิเศษที่ตัวเองไม่สามารถมาสืบเรื่องนี้เองได้ เลยส่งเพื่อนรักอย่าง อาร์ค ทอมป์สัน (Ark Thompson) มาสืบเรื่องนี้ที่ปรากฏในเกม ‘Resident Evil Survivor’ จนกลายเป็นการทำลายฐานการผลิตใหญ่ของบริษัทร่มจนทำให้บริษัทร่มขาดรายได้ เพราะ ‘Tyrants’ เป็นหนึ่งในสินค้าขายดีเป็นอันดับต้น ๆ ของบริษัทที่จากเคยยิ้ม ๆ ว่าเสียเงินแค่นี้ขนหน้าแข้งพี่ไม่ร่วง แต่พอเจอแบบนี้ไปขนร่วงยันหัวเลยทีเดียว
เมื่อเกาะ Rockfort ถูกทำลาย Umbrella เลยสูญเสียสถานที่ฝึกทหารและขาดหน่วยสายลับที่จะตามเก็บพนักงาน Umbrella ที่ขโมยไวรัสไปขาย
ต่อเนื่องจากหัวข้อก่อน ๆ เกี่ยวกับการล่มสลายของ ‘Umbrella’ ที่เราพูดถึงเหล่าสื่อและผู้คนที่เคยโดนบริษัทร่มข่มขู่สั่งเก็บจนไม่มีใครมายุ่งเรื่องนี้ จนเมื่อบริษัทร่มล้มลงทุกสื่อต่างออกมาแฉประหนึ่งการฟ้องพี่หนุ่ม กรรชัยในรายการโหนกระแส จนเราสงสัยว่าคนพวกนั้นไม่กลัวโดนบริษัทร่มสั่งเก็บหรอ เพราะถึงเบื้องหน้าจะถูกแฉยับไปแล้วแต่อำนาจและเงินทุนของพี่แกก็ยังอยู่ก็น่าจะสั่งเก็บสั่งปิดข้อมูลได้ แต่ทำไมทางบริษัทร่มถึงไม่สั่งเก็บคนพวกนั้น ก็เพราะเกาะ ‘Rockfort’ ที่เป็นศูนย์ฝึกเหล่าสายลับหน่วยพิเศษของ ‘Umbrella’ ถูกทำลายไปแล้วในเกม ‘Resident Evil Code Veronica’ ที่แม้แต่สายลับที่เก่งที่สุดอย่าง ‘HUNK’ ก็ถูกฝึกจากที่นี่ และเกาะนี้จะถูกทำลายโดยเฮียแว่นดำกับสองพี่น้องขวางนรกถล่มยับ จนทำให้บริษัทล่มจมขาดแขนขาในการทำเรื่องแบบนี้ เพราะเหตุนี้ทางบริษัทเลยถูกแฉรัว ๆ หนึ่งในนั้นก็มี ลินดา บอลด์วิน (Linda Baldwin) กับ โยโกะ ซูซูกิ (Yoko Suzuki) ที่เป็นหัวเรือใหญ่ในการออกมาแฉเรื่องนี้ เพราะทั้งคู่คือผู้รอดชีวิตมาจาก ‘Raccoon City’ และทั้งคู่ก็เป็นอดีตพนักงานที่ถ้าเป็นสมัยก่อนทั้งคู่คงโดนเก็บไปแล้ว โดยเรื่องราวของทั้งคู่นั้นอยู่ใน ‘Resident Evil Outbreak’
การสูญเสีย Sergei Vladimir ทำให้ Umbrella ขาดเงินทุนหมุนเวียนในตลาดมืด
มาถึงตรงนี้หลายคนคงจะสงสัยแน่ ๆ ว่าบริษัท ‘Umbrella’ ที่โดนแฉโดนถล่มฐานสร้างอาวุธชีวภาพรัว ๆ แบบนี้เขาจะทำอย่างไรต่อไป คำตอบคือไม่ต้องกลัวเลยเพราะถ้าฐานนี้ถูกทำลายเราก็สร้างฐานขึ้นมาใหม่เพราะเรามีเงินทุนมีข้อมูลอยู่แล้ว แถมยังมี เซอร์เกย์ วลาดิมีร์ (Sergei Vladimir) ชายผู้ภักดีกับบริษัทร่มประหนึ่งมีหุ้นส่วนในแชร์ลูกโซ่ที่รักและเทิดทูน ออสเวลล์ อี. สเปนเซอร์ (Oswell E. Spencer) ประดุจศาสดาที่เป็นหัวเรือใหญ่ในการสร้างฐานผลิตอาวุธชีวภาพตามที่ต่าง ๆ และขายผลผลิตไปยังตลาดมืดในชื่อ ‘Umbrella Corporation’ ชื่อนี้คุณมั่นใจได้เลยว่าจะได้ของดีของแท้แน่นอน ไม่ใช่พวกที่ขโมยข้อมูลมาขาย แต่แล้วความวอดวายก็มาถึงเมื่อคู่หูขวางนรกอย่างพี่ต่อยหินและน้องจิลที่ไม่ได้มากับนุ่นแล้วก็ไม่ได้มากับโบว์ (ชื่นใจไม่ได้เล่นมานานมุกนี้) มาทำลายฐานที่มั่นของพี่แกในรัสเซีย และทำลายต้นแบบโครงการ ‘T-ALOS’ ลง แต่ตัดบัวยังเหลือใยเพราะวลาดิมีร์ยังอยู่และพี่แกบอกว่าเดี๋ยวอั๊วก็ไปสร้างฐานที่อื่นต่อได้เว้ย ก่อนที่เฮียแว่นดำจะมาจัดการพี่วลาดิมีร์และเอาข้อมูลต่าง ๆ ที่อยากได้ไปจนหมด เป็นการตัดแขนสุดท้ายของ ‘Umbrella’ ไปเรียบร้อย และเกร็ดความรู้แถมตัววลาดิมีร์นั้นเป็นต้นแบบให้ ‘Tyrant’ ทุกรุ่นในซีรีส์ ‘Resident Evil’ เพราะร่างกายของพี่แกเหมาะเป็น ‘Tyrant’ สุด ๆ ทางบริษัทเลยขอพี่แกโคลนร่างออกมาเพื่อผลิตเป็น ‘Tyrant’ นั่นเอง ที่พอพี่แกตายสายการผลิต ‘Tyrant’ ก็หยุดลงตรงนี้เราเลยไม่เห็น ‘Mr. X’ และ ‘Tyrant’ รุ่นต่อมาอีกเลยนับตั้งแต่นั้น โดยเรื่องราวนี้เกิดขึ้นใน ‘Resident Evil The Darkside Chronicles’
การตายของ Spencer ทำให้บริษัทคู่แข่งกล้าเปิดเผยตัวและผู้ลงทุนเริ่มถอนตัวจนหมด
ทั้งหลายทั้งปวงที่ผ่านมามันอาจจะดูเหมือนบริษัท ‘Umbrella’ ย่ำแย่ขาดทุนอันนั้นก็แย่อันนี้ก็ไปต่อไม่ไหวแถมยังถูกแฉรัว ๆ ตามสื่อมือขวาอย่างวลาดิมีร์ก็โดนเก็บโดยเวสเกอร์อีก จนใคร ๆ ก็คิดว่า ‘Umbrella’ นับเวลาล่มสลายแน่นอน แต่ความจริงแล้วบริษัทร่มยังอยู่ได้และไปต่อเรื่อย ๆ แบบแลนด์สไลด์ เพราะยังมีผู้ก่อตั้งใหญ่ที่เป็นเหมือนหัวเรือหางเสือควบคุมทิศทางบริษัทอย่างสเปนเซอร์อยู่ ที่เห็นลุงแกแก่แบบนี้ลุงแกยังมีไฟแถมยังโหดเหี้ยมเลือดเย็นเป็นปีศาจในร่างมนุษย์อย่างแท้จริง และเมื่อแกใกล้ตายทางสเปนเซอร์ก็สั่งให้ อเล็กซ์ เวสเกอร์ (Alex Wesker) สร้างยาที่ทำให้ตนเองเป็นอมตะอยู่ทำชั่วไปนาน ๆ แต่ทางอเล็กซ์บอกว่าใครจะไปทำยาแบบนั้นได้ละลุง มีแต่วิธีย้ายจิตไปยังร่างใหม่เท่านั้นซึ่งเจ๊แกทำสำเร็จมาแล้วใน ‘Resident Evil Revelations 2’ แต่ก่อนที่จะได้ทำอะไรลุงสเปนเซอร์ก็โดนกรรมติดจรวดถูกเวสเกอร์ฆ่าตายใน ‘DLC Lost in Nightmares’ ของ ‘Resident Evil 5’ เสียก่อน ที่พอหัวเรือใหญ่หางเสือตายลงบริษัทร่มจากที่เป็นเสาหลักปักขี้เลนอยู่แล้ว พอขาดคนมาค้ำจุนเลยทำให้บริษัทล้มไม่เป็นท่าในทันที เพราะผู้ลงทุนเริ่มไม่มั่นใจว่าจะมีใครมีวิสัยทัศน์ที่ชั่วร้ายแต่มีหัวธุรกิจเท่าลุงสเปนเซอร์อีกแล้ว ทางบริษัทย่อยที่เคยเป็นพันธมิตรก็ค่อย ๆ ถอนตัวจนหมดเรียกว่าขาดเสาหลักของจริงแล้วคราวนี้ จน ‘Umbrella’ ล่มสลายของจริงนับตั้งแต่นั้น
จุดเริ่มต้นที่แท้จริงของหายนะครั้งนี้คือ James Marcus
ปิดท้ายกับเรื่องราวที่ติดค้างเอาไว้ในตอนต้น ที่จะบอกเล่าเรื่องราวของต้นตอของหายนะที่แท้จริงของเรื่องราวทั้งหมด ที่ไม่ได้มาจากพี่แว่นดำหน้าขาวเวสเกอร์แต่พี่แกเป็นแค่ประธานใส่ซองไม่ใช่กรรมการวัดที่จัดการพิธีทอดกฐินผ้าป่า หรือพูดง่าย ๆ เวสเกอร์คือคนที่เห็นช่องทางเข้ามาเสียบเท่านั้น แต่คนที่เป็นจุดเริ่มจริง ๆ มาจากตาลุง เจมส์ มาร์คัส (James Marcus) จากเรื่องราวใน ‘Resident Evil 0’ ที่ลุงมาร์คัสคือหนึ่งในสามผู้ก่อตั้งบริษัทร่มและเป็นคนคิดค้นเชื้อนรกนี้ขึ้นมา แต่แล้วลุงสเปนเซอร์ก็คิดจะเอาทุกอย่างมาเป็นของตน เลยสั่งให้ลูกศิษย์อย่างเวสเกอร์และ วิลเลียม เบอร์กิน (William Birkin) คิดล้างครูฆ่าอาจารย์ตัวเองทิ้ง แต่โชคดีที่ปลิงในการทดลองหล่นใส่ปากลุงแกและใช้เวลา 10 ปีเพาะเชื้อเหมือนดั่งที่ว่า 10 ปีแก้แค้นก็ไม่สาย ลุงมาร์คัสเลยกลับมาในสภาพหนุ่มฟ้อหล่อเฟี้ยวพร้อมกับกองทัพปลิงออกมาแก้แค้น โดยการปล่อยไวรัสใส่ห้องทดลองผ่านทางรถไฟที่เทือกเขาอาร์คเลย์จนมันบานปลายมายังเมือง ส่วนสเปนเซอร์ที่ตอนนั้นอยากได้ ‘G-Virus’ จากวิลเลี่ยมเลยไปแย่งมายิ่งเป็นการปะทุเชื้อไฟให้ ‘T- Virus’ รั่วไหลออกมากลายเป็นหายนะลูกโซ่ ที่พอมีคนเปิดทุกคนก็พร้อมจะมารุมทึ้งแบบไม่เหลือชิ้นดีอย่างที่เห็น
เป็นอย่างไรกันบ้างกับการสรุปเรื่องราวหายนะของบริษัทร่ม ‘Umbrella’ ว่าหลังจากที่เกิดเหตุการณ์เมืองห่าผีแล้วบริษัทนี้เป็นอย่างไรต่อไปที่เราได้รวบรวมมาให้อ่านกัน โดยข้อมูลเหล่านี้ถูกทิ้งเอาไว้ในโครงเรื่องภาคต่าง ๆ ที่ถ้าคุณไม่ใช่แฟน ‘Resident Evil’ อาจจะงงเราเลยรวบรวมข้อมูลเหล่านั้นมาย่อยและสรุปให้คุณอ่านกันง่าย ๆ ที่ถ้าข้อมูลตกหล่นตรงไหนไปก็ขออภัยมาด้วย เพราะยังมีรายละเอียดปลีกย่อยในภาคเสริมอื่น ๆ ที่เราไม่ได้หยิบมาพูดถึงอย่าง ‘Umbrella’ โลโก้ฟ้าใน ‘Resident Evil 7’ ที่ยังไม่ได้บอกเราว่าบริษัทนี้คืออะไรเราเลยไม่ได้หยิบมาบอกกัน เอาไว้มีโอกาสเราจะหยิบมาพูดถึงแน่นอน ส่วนคราวหน้าจะเป็นเรื่องราวอะไรในวงการเกมและ ‘Resident Evil’ ก็ติดตามที่แบไต๋ได้เลย เพราะเรายังมีบทความอีกหลายเรื่องรอคุณอยู่เข้ามาอ่านกันตอนนี้ได้เลย
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส