เป็นที่รู้กันว่าร้าน NADZ หนึ่งในร้านเกมชื่อดังที่ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา มีดราม่าเพราะมีผู้เล่นสั่งสินค้าไปแล้วไม่ได้ของตามกำหนด แม้จะภายหลังจากมีการคืนเงินก็ตามแต่ก็ทำให้แฟนเกมเสียโอกาสในการเล่นไป แถมหน้าร้านยังถูกปิดทำให้เกิดข่าวลือมากมายไม่ว่าจะเป็นการเอาเงินของบริษัทไปลงทุนซื้อเหรียญคริปโท แล้วขาดทุนทำให้ไม่มีเงินซื้อเกมมาขาย
วันนี้ NADZ ได้ออกมาแถลงข่าวผ่าน Facebook อย่างเป็นทางการเพื่อชี้แจงถึงปัญหาทั้งหมด โดยผู้บริหาร ประชุม สินธพสิริพร (แอ๊ด) โดยประเด็นแรกที่ร้านไม่มีสินค้ามาส่งให้ลูกค้าเพราะว่าทาง NADZ ได้แยกทางกับพาร์ตเนอร์เดิมทำให้เกิดปัญหาภายในที่ส่งผลกระทบกับการเงินของบริษัท นอกจากนี้ยังมีการปรับโครงสร้างภายในใหม่ทำให้ต้องหยุดธุรกรรมทางการเงินทั้งหมดจนเกิดปัญหา
ส่วนข่าวลือที่ร้านได้นำเงินหมุนเวียนภายในไปลงทุนซื้อเหรียญคริปโทแล้วขาดทุน ทาง NADZ ได้ออกมายืนยันว่าไม่เป็นความจริงทางร้านไม่ได้เอาไปลงทุน ส่วนข่าวลือเอาเงินไปลงทุนธุรกิจเครื่องสำอางที่เป็นข่าว ก็เป็นธุรกิจของผู้บริหารทางร้านยืนยันว่าไม่ได้มีการเอาเงินออกไปลงทุนธุรกิจอื่นนอกจากเกมแน่นอน
นอกจากนี้ยังมีการระบุว่าทาง NADZ กับ NGIN แม้ว่าจะเป็นบริษัทในเครือเดียวกันแต่ได้แยกกันบริหาร รวมทั้งทาง NADZ ไม่ได้มีการถ่ายโอนทรัพย์สินเพื่อไปเปิดร้านใหม่แน่นอน ทางร้านยังคงยึดมั่นชื่อเดิมที่ใช้มาตลอด ส่วนปัญหาทั้งหมดตอนนี้ได้รับการแก้ไขได้เกือบหมดตั้งแต่ปลายเดือนเมษายน มีการสั่งสินค้าที่ค้างจ่ายอยู่ให้ลูกค้ารวมทั้งมีการคืนเงินแล้ว มีลูกค้าไม่เกิน 20 รายเท่านั้นที่ยังคงรอส่งสินค้า
ปิดท้ายกับการกลับมาในครั้งนี้ NADZ มาพร้อมกับพาร์ตเนอร์ใหม่แต่ยังไม่ประกาศในตอนนี้ ส่วนการเรียกความเชื่อมั่นของลูกค้าทางร้านประกาศนโยบายใหม่ที่หากลูกค้าไม่ได้รับสินค้าตามเวลาที่กำหนดจะได้รับเงินคืน 2 เท่า รวมทั้งจะหน้าร้านจะมีบรรยากาศร้านเกมแบบเก่ากลับมา และยังรับประกันว่าจะไม่มีเหตุการณ์สินค้าขาดตลาดอย่างแน่นอน รวมทั้งจะจัดโปรโมชันราคาพิเศษด้วย
ส่วนหน้าร้านทาง NADZ ไม่ได้มีหน้าร้านแบบเดิมในตอนนี้ เพราะมีการยกเลิกสาขาลาดพร้าว และสยามดิสคัฟเวอรี่ ที่เป็นสาขาหลักไปแล้ว แต่จะมีร้านอยู่เป็นบูธแบบ Co-Space ที่ Power Mall ในห้าง สยามพารากอน, เอ็มโพเรียม, The Mall ท่าพระ, งามวงศ์วาน, บางกะปิ และเตรียมเปิดใน The Mall บางแค
เรียกว่าเป็นการแถลงการณ์เพื่อแก้ข่าวของร้านเกมที่มีประเด็นดราม่าในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา ก็ต้องรอดูกันต่อไปว่าจะสามารถกลับมาได้หรือไม่
ที่มา Facebook
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส