ในยุคที่ Nintendo ครองโลกด้วย แฟมิคอม ที่แทบจะยึดตลาดคอนโซลได้ทั้งหมด แต่ความจริงแล้วคู่แข่งในอดีตอย่าง SEGA ก็ถือว่าเป็นหนึ่งในค่ายเกมที่เคยสร้างเครื่องคอนโซล และก็ประสบความสำเร็จในยุคแรกๆกับ Mega Drive จนเกือบให้ Nintendo ต้องเสียแชมป์กันเลย ไปดูกันว่าในยุค 16 Bit มันมีดีอะไรทำให้มันขายดีในระดับ 40 ล้านเครื่องได้

สเปค Mega Drive
  • CPU Motorola 68000 7.67 MHz
  • Ram  64k
  • แสดงสีได้ 512 สี
  • รูปแบบสื่อ ตลับเกม และ CD (อุปกรณ์เสริม)
  • วันวางจำหน่าย ญี่ปุ่น  29 ตุลาคม 1988  , อเมริกา 14 สิงหาคม 1989
  • จอยเกม แบบถอดได้ เสียบได้ 2 จอย

ก่อนจะเข้าสู่ยุค Mega Drive ต้องย้อนไปไกลถึงช่วงต้นยุค 80 ทางค่าย Sega ได้ออกเครื่องเกมคอนโซลมาลงตลาดแข่งขัน จากเดิมเป็นค่ายเกมที่เน้นทำธุรกิจเกมตู้(และเน้นตลาดอเมริกา) โดยรุ่นแรกที่ค่ายออกคือ Sega SG-1000 ที่ออกมาชนกับ แฟมิคอมในปี 1983 พอดี ด้วยรูปแบบที่คล้ายกับ อาตาริ รวมทั้งจอยที่เหมือนถอดกันมา หลังจากนั้นมีการอัพเกรดออกมาในรุ่น SG-1000 II  ที่ปรับให้จอยเหมือนเครื่องแฟมิคอม จนมาถึงรุ่น Sega Mark III หรือใน อเมริกาเรียก Sega Master System ที่ว่ากันตามสเปคถือว่าดีกว่าแฟมิคอมแล้ว แถมยังรองรับทั้งตลับเกมและการ์ด

02-sega-sg-1000-horz

หลังจากนั้นค่าย SEGA ได้ออกเครื่อง Mega Drive ที่นับเป็นเครื่องเกมรุ่นที่ 4 ของค่าย SEGA ที่นับเป็นเครื่องเกม 16 บิทเครื่องแรกๆ ของโลก โดยเปิดขายในปี 1988 ในญี่ปุ่น และปีต่อมาก็ไปขึ้นฝั่งอเมริกาด้วยชื่อว่า Sega Genesis ด้วยกราฟิกที่ทรงพลังกว่า แฟมิคอม มาก รวมทั้งค่าย SEGA เองก็ถนัดสร้างเกมอาเขต มาก่อนทำให้เกมช่วงแรกๆจะถูกย้ายมาลงเครื่อง Mega Drive อย่างใกล้เคียงต้นฉบับมาก ทำให้เป็นที่ตื่นตาตื่นในเด็กยุคนั้นมาก ผู้เขียนจำได้ว่าตอนเห็นภาพจากเครื่องเกมครั้งแรกถึงกับตะลึงถึงกับอุทานว่า อะไรมันจะละเอียดสมจริงแบบนี้ ไม่ต่างจากเด็กยุคนี้ที่เห็นภาพของเกมเทพๆระดับ 4K เลยทีเดียว

01mega-drive-horz

เพียงแต่ในช่วงแรกเครื่อง Mega Drive ยังไม่ประสบความสำเร็จในตลาดญี่ปุ่นนัก เพราะในตอนนั้น เกม ซูเปอร์ มาริโอ 3 ซึ่งถือว่าเป็นเกมในตำนานเพิ่งจะวางจำหน่ายทำให้กระแสของแฟมิคอมยังคงแรง อีกทั้งด้วยราคาที่แพงกว่าคู่แข่ง และในยุคนั้นการที่จะให้ผู้เล่นเปลี่ยนเครื่องเกมหรือซื้อเครื่องเพิ่ม เป็นเรื่องยากมาก ในยุคนั้นแต่ละบ้านมีทีวีแค่เครื่องเดียว และเกมยังเป็นของใหม่การที่จะให้ซื้อเครื่องใหม่อีกเครื่องคงไม่ใช่เรื่องง่ายๆนัก โดยเฉพาะในไทยที่ราคา Mega Drive ในช่วงแรกสูงมากถึง 7,000 กว่าบาทถือว่าแพงมากๆสำหรับเครื่องเกมในยุคนั้น แต่มันก็ขายได้ในระดับหนึ่งโดยเฉพาะร้านเช่าเกมในไทยที่เอาไว้เป็นตัวชูโรงแทนแฟมิคอม

videogaymes1-aaa-horz

แต่ SEGA ไม่ยอมแพ้ และนำ Mega Drive มุ่งสู่ตลาด อเมริกาเต็มรูปแบบในชื่อ Sega Genesis ด้วยการซื้อลิขสิทธิ์เกมกีฬาดังๆนั้นอเมริกันฟุตบอล เบสบอล และร่วมมือกับค่าย EA นำเกมบน PC ในยุคนั้นมาหลายเกมย้ายมาลงเครื่องเกมของตน และเครื่อง Mega Drive ยังถือเป็นจุดกำเนิดของซีรีย์ FIFA และยังเสริมทัพด้วยเกมจากราชาเพลง Pop Michael Jackson’s Moonwalker เกมที่สร้างจากภาพยนตร์ชื่อเดียวกัน ที่หาไม่ได้บนเครื่องเกมของ Nintendo

38401-golden_axe_world-3-horz

นอกจากนี้หลายเกมที่ย้ายมาจากเกมตู้ก็โดดเด่น ทั้ง Golden Axe , Ghouls ‘n Ghosts (Makaimura) หรือ Altered Beast (จูโอกิเจ้าป่า) ล้วนแต่ประสบความสำเร็จที่แม้จะไม่ได้ดังแบบถล่มทลายแบบ มาริโอ แต่ก็สร้างแรงสั่นสะเทือนถึงเจ้าตลาดอย่างนินเทนโดได้ สำหรับยุคแรกในอเมริกาได้ โดยเฉพาะโฆษณาที่ Sega แอบกัดจิกความเชื่องช้าของ CPU ของเครื่องเกม Nintendo แบบจัดเต็มพร้อม สโลแกน Genesis does what Nintendon’t!

SONY DSC

คอนโทรลเลอร์

โดยคอนโทรลเลอร์ของ Mega Drive ในยุคแรก ก็ยังเป็นไปตามสมัยนิยมที่เดินตามรอยแฟมิคอม ด้วยการจับจอยในแนวนอน มีปุ่ม D-pad ในการเล่น แต่ SEGA ก็ได้ต่อยอดมา ด้วยการเพิ่มปุ่ม C ทำให้จอยของ Mega Drive มี 3 ปุ่ม แต่ได้ตัดปุ่ม Select ออกไปมีเพียงแค่ปุ่ม Start โดยจอยมีการปรับปรุงโดย SEGA เพื่อให้เล่นเกมต่อสู้ยอดฮิตอย่าง Street Fighter 2 ได้ด้วยการเพิ่มปุ่ม X,Y,Z เข้ามา โดยจอยของ Mega Drive ถือเป็นรูปลักษณ์ที่โดดเด่น และเป็นเอกลักษณ์ของตัวเครื่อง ที่โดดเด่นมาคือ คุณสามารถนำจอย ไปเสียบกับเครื่องเกมรุ่นเก่าอย่าง Atari 2600 และใช้เล่นได้ด้วย

11-sonic-the-hedgehog-horz

เกมที่โดดเด่น

แน่นอนว่าในเมื่อ Nintendo มี มาริโอ เป็นตัวชูโรง SEGA ก็ต้องมีบ้างเพื่อไม่ให้น้อยหน้า และด้วยการระดมสมอง จนเกิดเป็น เจ้าเม่นน้อยสีฟ้า ความเร็วสูงนาม โซนิค ในเกม Sonic the Hedgehog ที่วางขายในปี 1991 สามปีหลังจากเครื่อง Mega Drive วางขาย และก็ได้สร้างตำนานบทใหม่ของวงการเกม ด้วยรูปแบบการเล่นแบบ 2 มิติที่เร่งสปีดความเร็วอย่างเต็มสูบ สมกับความแรงของ cpu โดยเฉพาะการวิ่งของโซนิคที่โดดเด่น การออกแบบด่านออกมารองรับความเร็วเหนือเสียงได้สมบูรณ์แบบ

โดยถ้ามาริโอ มีการเก็บเห็ดแล้วตัวโต ส่วน Sonic ก็มีการเก็บแหวนแทนค่าพลัง โดยถ้าโดนศัตรูโจมตีแหวนจะกระเด็นออกหมด และถ้าโดนซ้ำอีกครั้งก็จะตาย ผู้เล่นจึงต้องเก็บแหวนติดตัวตลอด โดยเจ้าเม่นของเรามีการโจมตี โดยการกระโดดเหยียบและกลิ้งหมุนตัวชน และเกมมี ไอเท็ม พิเศษ ให้ใช้มากมาย โดยเนื้อเรื่องในเกมโซนิคต้องไปช่วยเหลือสัตว์ที่ถูก ดร โรโบนิค จับไป โดยเกมจะเป็นเป็นด่านสั้นๆและมีเอเรียย่อยให้เล่น โดยหลายด่านก็สร้างออกมาเหมือนได้เล่นรถไฟเหาะในสวนสนุก

boss_6_bad_future-horz

โดยเจ้าเม่น โซนิคได้สร้างตำนานต่อเนื่อง ด้วยภาคต่อ ที่ได้เจ้าหมาจิ้งจอก เทล มาช่วยเล่นในภาค 2 และภาค 3 ที่โซนิคของเราได้กลายเป็นซูเปอร์โซนิค ที่เหมือนซูเปอร์ไซย่า อีกทั้งยังมีภาคต่อมากมายนับไม่ถ้วน เฉพาะเครื่อง Mega Drive ก็มีโซนิคถึง 5 ภาค และความดังของมัน ทำให้ ลุงหนวดมาริโอ กลายเป็นคนแก่อ้วนๆไปเลย ไม่แปลกที่เกมจะขายไปได้กว่า 15 ล้านตลับ (เฉพาะภาคแรก) ได้อย่างสบายๆ ในปัจจุบัน SEGA จะไม่ได้ทำเครื่องเกมแล้ว เจ้าเม่นโซนิคของเราจึงไปโผล่อยู่แทบทุกเครื่อง และในปัจจุบันก็ยังหาเล่นได้ต่อเนื่อง ทั้งภาคใหม่ภาคเก่า โดยภาคล่าสุดที่กำลังจะออกในชื่อ Sonic 2017 ที่จะวางขายบน PS4 XboxOne และ Nintendo Switch

13-phantasy-star-aa

ประสบความสำเร็จ ด้วยเกม ที่หลากหลาย

หลังจากค่าย SEGA ได้ออกเกม โซนิค ทางค่ายได้ตระหนักว่าต้องสร้างเกมที่น่าสนใจ ไม่ใช่แค่ยกเกมตู้มาลงเครื่องเกม แต่ต้องสร้างเกมให้หลากหลายถึงจะประสบความสำเร็จ ซึ่ง SEGA ทำการบ้านมาดีมาก เพราะได้สร้างเกมออกมาเทียบเคียงกับค่ายคู่แข่งได้ โดยไม่ต้องง้อค่ายอื่นมาทำเกมให้ ทั้ง โซนิค ที่ความสนุกสามารถทดแทนมาริโอได้ หรือได้สร้างเกม RPG ดังๆอย่าง phantasy star มาแทน เกม Final Fantasy ที่ในยุคนั้นผูกขาดออกเฉพาะเครื่อง นินเทนโด เท่านั้น หรือแม้แต่เกม Zelda ที่ทดแทนได้ด้วยเกม Landstalker และยังมีอีกมากมายที่ SEGA ได้สร้างมาตรฐานใหม่ให้กับวงการเกม และพิสูจน์ ตัวเองว่าสร้างเกมดีๆ ออกมารองรับไม่ได้มีแต่เกมอาเขต

ส่วนในไทยแม้ในช่วงแรกเกมจะไม่ประสบความสำเร็จนัก แต่เนื่องด้วย แฟมิคอมที่ครองตลาดมายาวนาน และ Nintendo ไม่ยอมออกเครื่องใหม่เสียที และราคาที่ค่อยๆถูกลงทำให้ Mega Drive ค่อยๆแทรกเข้ามาแทนที่เครื่อง แฟมิคอม อย่างเงียบๆ แม้ตลับจะราคาสูง และในช่วงแรกๆ ยังไม่มีตลับก็อป ก็ถึงมีก็ราคาแพง แต่ด้วยหลายเกมที่ออกและหาไม่ได้บนเครื่องอื่น ทำให้เด็กเล่นเกมในยุคนั้นต้องเก็บเงินซื้อ โดยเครื่อง Mega Drive สามารถทำยอดขายรวม ถล่มทลายเกือบ 40 ล้านเครื่อง น้อยกว่าคู่แข่งอย่าง ซูเปอร์แฟมิคอม เล็กน้อย ถือว่าเป็นสงครามคอนโซลที่สู้กันมันส์หยดในยุคแรกๆของวงการเกม

SONY DSC

อุปกรณ์เสริม

หลังจาก Mega Drive สามารถตีตลาดจาก Nintendo ได้ โดยเฉพาะในอเมริกา SEGA ไม่ได้หยุดนิ่ง เพราะได้ออกอุปกรณ์เสริม หรือรุ่นอัพเดท ออกมาอย่างต่อเนื่อง โดยไล่มาตั้งแต่ Mega Drive รุ่นที่ 2 และ 3 ที่เป็นการย่อขนาดเครื่องให้เล็กลง ซึ่งถือเป็นเรื่องปรกติที่แม้แต่วงการเกมยุคนี้ก็ทำกัน แต่ในยุคที่สื่อ CD เริ่มมาแรง จะออกเครื่องใหม่ก็ยังไม่ถึงเวลา ทำให้ SEGA ออกอุปกรณ์ต่อเสริมให้ Mega Drive ในชื่อ Mega CD หรือในอเมริกาเรียกว่า SEGA CD โดยตัวเครื่อง Mega CD มีแต่หัวอ่าน เราต้องเอาเครื่อง Mega Drive ไปเสียบด้านข้าง โดยในออกมา 2 เวอร์ชั่นทั้งแบบเสียบด้านล่างของเครื่อง และเสียบด้านข้าง และวางขายในญี่ปุ่นปี 1991 และ อเมริกา ในปี 1992

16-sega-cd

โดยเมื่อเล่นผ่าน CD หลายคนอาจคาดหวังว่า ภาพและเสียง จะสุดยอดอลังการขึ้น เสียดายที่ Mega CD ไม่ได้อัพเกรดอะไรมากนัก แต่ด้วยความจุที่มหาศาลของ CD-rom ทำให้มีคัทซีนเป็นภาพยนตร์ หรือ ใส่การ์ตูน กันแบบจัดเต็ม รวมทั้งระบบเสียงที่ดีขึ้นผิดหูผิดตา แม้เกมเพลย์ส่วนใหญ่จะดูธรรมดา ไม่ต่างจาก Mega Drive หรือ คัทซีนที่ใส่เข้ามาก็มีความละเอียดที่ต่ำมาก แต่ก็ถือว่าเป็นสีสันของวงการเกมยุคนั้นได้ในระดับหนึ่ง

18lunar-horz

ในไทยนั้น Mega CD เองก็มีการนำมาขาย แต่ไม่ได้แพร่หลายนัก เพราะด้วยราคาที่แพง แผ่น CD ก็ยังมีราคาสูงมาก แผ่นก็อปแผ่นผีก็ไม่มี แถมเกมเด่นๆขนาดที่จำเป็นต้องซื้อมาเล่น แต่ในยุคนั้นผู้เขียนก็มีโอกาสเป็นเจ้าของ MegaCD แม้จะไม่ได้ประทับใจอะไรมาก แต่หลายเกมก็ทำให้ตื่นตากับการบังคับตัวละครจากภาพคัทซีนได้ลื่นไหล และก็มีเกม โซนิค ซีดี ที่นับเป็นภาคที่ดีที่สุดในแบบ 2 มิติของเจ้าเม่นน้อย รวมทั้งซีรีย์ Lunar เกม RPG ที่มีความสนุกน้องๆ Final fantasy ที่โดดเด่นด้วยคัทซีนขั้นเทพและดนตรีประกอบสุดอลังการ แม้มันจะไม่ได้ขายดี และมีอายุที่สั้นในวงการเกมแต่ก็ถือว่าประสบความสำเร็จในระดับหนึ่ง สำหรับยุคแรกของเครื่องเกมที่ใช้ CD เป็นสื่อ

20-sega-32x

SEGA 32X อุปกรณ์ต่อพ่วงที่ไร้ค่า

นอกจาก MegaCD แล้ว SEGA ได้ออกอุปกรณ์เสริมต่อพ่วงกับเกม เพื่ออัพเกรดอีกตัว คือ SEGA 32X ซึ่งเป็นตัวต่อที่ใช้ใส่ที่ช่องเสียบตลับด้านบน และจะอับเกรดให้ Mega Drive กลายเป็นเครื่อง 32 Bit  ได้โดยไม่ต้องซื้อเครื่องใหม่ โดยออกปลายปี 1994 ซึ่งเป็นช่วงท้ายๆของยุค 16 Bit แล้ว ทำให้การมาของ 32X เป็นอะไรที่ดูไร้ประโยชน์มาก เพราะในอีกไม่กี่เดือน PS1 กับ Sega Saturn ซึ่งเป็นเครื่อง 32 บิทแท้ๆก็จะวางขายแล้ว ทำให้เกมที่ทำออกมารองรับ 32X มีน้อยมาก และวางขายได้ 1 ปีก็ต้องยกเลิกการผลิตไป แถมซอฟต์แวร์ก็เป็นตลับที่มีราคาแพง ทำให้ 32X เป็นอุปกรณ์เสริมที่ไร้ค่า และหายากโดยเฉพาะในไทย

SONY DSC

โดยในยุคท้ายๆของ Mega Drive ยังออกเครื่องรุ่นพิเศษอีกมากมาย ทั้ง รุ่น 3 ที่มีขนาดเล็กลงไปอีกจนแทบจะเล็กกว่าจอยเกมแล้ว หรือรุ่นที่เอา Mega CD มารวมร่าง หรือแม้แต่ ออกเครื่องเกมพกพา No Mad ที่ใช้ตลับ Mega Drive เสียบเล่นได้เลย  ก็ไม่ได้ช่วยดึงยอดขายในช่วงปลายยุคเท่าไรนัก ยิ่งในปลายยุคที่ ซูเปอร์ แฟมิคอม มีเกมเด่นๆ ที่มีคุณภาพออกมาเพียบแถมไม่ต้องมานั่งซื้ออุปกรณ์เสริม ทำให้ Mega Drive ไม่สามารถแซงหน้า ซูเปอร์แฟมิคอมได้ แต่ถึงอย่างไรก็ตาม เครื่อง 16 Bit ถือว่าเป็นยุคทองของ SEGA และเป็นเครื่องที่ทำยอดขายมากที่สุดของค่าย และเชื่อว่าชาวไทยหลายคนต้องเคยสัมผัสเครื่อง Mega Drive โดยในปัจจุบันคุณสามารถหาเล่นแบบถูกกฎหมายได้บริการดาวน์โหลดบนเครื่องคอนโซล เช่น Virtual Console ของ Wii WiiU , PSN และ Xbox live

Play video