ผู้กำกับ Final Fantasy VII Rebirth ให้เครดิตการนำแอนิเมชันมารีเมกเป็นภาพยนตร์ของ Disney ถือเป็นแรงบันดาลใจให้ทีมงานนำเกม JRPG สุดคลาสสิกปี ค.ศ. 1997 กลับมาทำใหม่
นาโอกิ ฮามากุจิ (Naoki Hamaguchi) ผู้กำกับได้ให้สัมภาษณ์กับทาง Vandal สื่อจากประเทศสเปน ฮามากุจิเล่าย้อนกลับไปปี ค.ศ. 2017 เป็นช่วงที่เขาและทีมงานได้ชมภาพยนตร์ Beauty and the Beast โฉมงามกับเจ้าชายอสูร เวอร์ชันคนแสดง นำแสดงโดย เอ็มมา วอตสัน (Emma Watson) และ แดน สตีเวน (Dan Stevens)
หลังจากชมภาพยนตร์เสร็จ ฮามากุจิได้แรงบันดาลใจหลายอย่าง ขณะนั้นทีมงานกำลังอยู่ในช่วงเริ่มต้นการพัฒนา Final Fantasy VII Remake กันอยู่
“พวกเราไม่รู้ว่าพวกเราต้องการเปลี่ยนแปลงอะไรหรือพวกเราต้องรักษาสิ่งไหนของเกมไว้” ฮามากุจิอธิบาย “ผมรู้สึกพยายามหาแนวทางให้เกมออกมาดีที่สุด จนผมได้ชมภาพยนตร์ Beauty and the Beast ผมประทับใจมาก ผมรู้สึกได้เลยว่าผมกำลังทำสิ่งที่คล้ายกับสิ่งนี้อยู่”
ก่อนหน้านี้ Square Enix อยากนำเกมสุดคลาสสิกกลับมายกเครื่องใหม่ให้ทัดเทียมกับภาพยนตร์แอนิเมชัน Final Fantasy VII: Advent Children ส่วนหนึ่งก็มาจาก Disney นำแอนิเมชันยุคเก่ากลับมารีเมกเป็นภาพยนตร์
“สิ่งที่เหมือนกัน คือพวกเขานำแอนิเมชันยุคเก่ากลับมาปรับปรุงเนื้อหาให้สมจริงมากขึ้น” ฮามากุจิบอกต่อ “แรงบันดาลใจนี้เป็นตัวช่วยที่เยี่ยมมาก”
แน่นอนว่า Final Fantasy VII Remake ไม่ใช่เพียงแค่การยกระดับเกมจากต้นฉบับเดิม แต่ยังทำการเปลี่ยนแปลงเนื้อหาของเกมให้ออกมาในทิศทางที่สดใหม่ จนเนื้อหาของเกมกลายเป็นอีกจักรวาลหนึ่งของเกมต้นฉบับและยังสามารถสานต่อจนกลายเป็นไตรภาคในแบบของตัวเอง
Final Fantasy VII Rebirth จะวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการวันที่ 29 กุมภาพันธ์ ปี ค.ศ. 2024 เฉพาะ PlayStation 5
ที่มา Gamesradar
***