ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมามีการเปลี่ยนในธุรกิจหรืออุตสาหกรรมเกมอาร์เคด จากเกมอาร์เคดแบบดั้งเดิมกลายเป็นเกมเครนหรือเกมแบบตู้คีบ ทำให้เกมอาร์เคดได้รับความนิยมลดลง และเริ่มหายไปจากญี่ปุ่นอย่างเห็นได้ชัด
จากตัวเลขงบประมาณปี 2023 พบการล้มละลายและการปิดสถานที่ให้บริการเกมหรือเกมเซนเตอร์สูงสุดเป็นประวัติการณ์ถึง 18 ครั้ง นับเป็นการเพิ่มขึ้นเป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน และมากที่สุดในรอบ 5 ปีที่ผ่านมา หากคิดเป็นช่วงทศวรรษ หรือ 10 ปีที่ผ่านมา มีเกมเซนเตอร์ที่ปิดตัวลงถึง 8,000 แห่ง ถือว่าเป็นสัญญาณขาลงของอุตสาหกรรมอย่างชัดเจน
Japan Amusement Industry Association รายงานว่ามีรายได้จากการประกอบธุรกิจเพิ่มขึ้น 10% หลังจากการแพร่ระบาดของ Covid-19 ในปีงบประมาณ 2021 เกมประเภทตู้คีบสร้างความท้าทาย และได้รับความนิยมมากกว่าเกมอาร์เคด นอกจากประเภทของเกมแล้ว ต้นทุนต่าง ๆ ก็เพิ่มขึ้นด้วย อย่าง การขึ้นภาษี ค่าธรรมเนียมการแลกเปลี่ยน และอัตราค่าไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้น เป็นปัจจัยที่กดดันอุตสาหกรรมโดยตรง
เกมเซ็นเตอร์ขนาดเล็กได้รับผลกระทบเป็นพิเศษจากราคาเครื่องเกมที่เพิ่มขึ้นรวมถึงต้นทุนของของรางวัลทำให้ผู้ประกอบการที่ไม่ไหวก็ต้องถอนตัวจากธุรกิจดังกล่าว ตรงกันข้ามกับร้านค้าขนาดใหญ่ในห้างสรรพสินค้าต่าง ๆ ที่มีกำลังในการขยายธุรกิจเพื่อให้รองรับความต้องการได้เพียงพอ
สื่อต่างประเทศมองว่าหากตัวเลขยังคงเป็นแบบนี้ อนาคตอาจไม่เหลือเกมอาร์เคดให้เล่นเลยก็เป็นได้