‘Helldivers 2’ หนึ่งในเกมม้ามืดของ Sony ที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในช่วงครึ่งแรกของปี 2024 และยังเป็นอีกหนึ่งเกมของ Sony ที่วางขายบน PS5 และ PC พร้อมกัน โดยมันเป็นเกมยิงมุมมองบุคคลที่ 3 ที่ใช้รูปแบบการหารายได้แบบ ‘Live Service’ หรือนอกจากจะขายแผ่นเกมแล้วยังมีการเก็บเงินจากบริการภายในเกมด้วย

โดยหากจะพูดถึงเกม ‘Live Service’ หรือเกมที่ใช้ระบบ ‘microtransactions’ แล้วก็ถือว่าเป็นไม้เบื่อไม้เมากับแฟนเกม เพราะมันเหมือนเป็นการหารายได้มากจนเกินไป เพราะในอดีตเกมที่ใช้รูปแบบนี้มักจะมีการขายของภายในเกมแทบจะทุกอย่าง เช่น แค่ปลดล็อกตัวละครสำคัญหรือไอเทมที่ควรจะมีตั้งแต่แรกก็ต้องเสียเงินเพิ่ม ทำให้แฟน ๆ ส่วนใหญ่ไม่ชอบกัน

แต่ล่าสุด โยฮัน พิเลสเตดท์ (Johan Pilestedt) โปรดิวเซอร์ของเกม ‘Helldivers 2’ และอดีต CEO ของค่าย Arrowhead ได้อธิบายถึงแนวทางการทำเกมแบบ ‘Live Service’ โดยเขาได้กล่าวว่า การหารายได้ด้วยระบบ ‘Live Service’ เป็นสิ่งที่ดีสำหรับอุตสาหกรรมเกม หากทำมันอย่างถูกต้อง

โดยเขาได้บอกถึงวิธีการที่นักสร้างเกมต้องนำไปใช้ หากอยากจะใช้ระบบ ‘Live Service’ ให้ประสบความสำเร็จ ซึ่งเขาบอกว่าประเด็นแรกคือราคาของเกมที่ควรมีราคาเบื้องต้นที่ต่ำกว่า 70 เหรียญ เพราะการตั้งราคาขายไว้เท่ากับเกมอื่นที่ขายราคาเต็ม แล้วยังมาขายสกินตัวละครในเกมเพิ่มเติม มันถือเป็นสิ่งที่ผิด เพราะเหมือนผู้สร้างให้ความสำคัญกับการดึงเงินจากกระเป๋าของแฟนเกมมากจนเกินไป และเขาแนะนำให้ผู้สร้างพิจารณาสิ่งที่ดีที่สุดให้ผู้เล่นที่ซื้อเกมของพวกเขาไปก่อนเสมอ