เมื่อพูดถึงค่าย Valve แฟนเกมคงนึกถึงบริษัทยักษ์ใหญ่ที่มีอิทธิพลอย่างมากต่ออุตสาหกรรมเกม โดยเฉพาะร้านค้าออนไลน์อย่าง Steam ที่เป็นร้านขายเกมบน PC ขนาดใหญ่ และมีเกมดังจำนวนมากมาย แถมยังลดราคาบ่อยจนแฟนเกมแทบจะหมดเนื้อหมดตัว แต่ใครจะเชื่อว่าค่ายที่ดูยักษ์ใหญ่แบบนี้จะมีทีมงานไม่กี่คนเท่านั้น
โดยปรกติแล้วค่ายใหญ่ที่ทำรายได้มหาศาลอย่าง EA หรือ Riot Games จะมีพนักงานหลายพันคน แต่สำหรับ Valve มีพนักงานเพียง 336 คนเท่านั้น โดยเป็นข้อมูลจาก พาเวล จุนดิก (Pavel Djundik) ผู้สร้างเว็บไซต์ SteamDB ที่เปิดเผย เอกสารในคดีต่อต้านการผูกขาดระหว่างค่าย Wolfire กับ Valve และมีข้อมูลในส่วนของทีมงานทั้งในฝ่ายซอฟต์แวร์อย่าง Steam กับฮาร์ดแวร์อย่าง Steam Deck
สาเหตุที่เรามีข้อมูลภายในของ Valve น้อยมาก ไม่รู้รายได้ ไม่รู้กำไร ไม่รู้จำนวนพนักงาน เพราะ Valve เป็นบริษัท Private ไม่ได้ระดมทุนในตลาดหุ้น จึงไม่ต้องเปิดเผยข้อมูลการดำเนินงานภายใน
ซึ่งข้อมูลเริ่มจากปี 2003 ถึงปี 2021 โดยในปี 2003 มีพนักงานเพียง 5 คน และมีค่าใช้จ่ายในส่วนของการจ้างพนักงาน 454,142 เหรียญ (ประมาณ 16,429,900 บาท) และข้อมูลระบุว่าเป็นทีมงานในส่วนของ admin ในส่วนของเกมมีค่าใช้จ่าย 142,290,300 เหรียญ และมีทีมงานในส่วนเกม 57 คน (ในปี 2003)
และข้อมูลล่าสุดในปี 2021 ในส่วนของเกมมีค่าใช้จ่ายในส่วนของเงินเดือนที่ 192,355,985 เหรียญ (6,959,054,825 บาท) และมีทีมงานจำนวน 181 คน และทีมงานในส่วนของ Steam ต้องจ่ายเงินให้ทีมงานจำนวน 79 คนที่ 76,446,633 เหรียญ (2,765,686,280 บาท) และปิดท้ายกับทีมงานในส่วนฮาร์ดแวร์ ที่มีทีมงาน 41 คน และมีเงินเดือนรวม 17,706,376 เหรียญ (640,581,270 บาท)
เป็นที่น่าสังเกตว่าแม้ทีมงานโดยรวมของ Valve จะมีเพียง 336 คนเท่านั้น แต่เงินที่ต้องจ่ายให้ทีมงานสูงมาก เพราะแค่แผนกฮาร์ดแวร์ที่มีรุ่นที่วางขายแค่ Steam Deck แต่ก็ต้องลงเม็ดเงินไปมากกว่า 17 ล้านเหรียญ อย่างไรก็ตามข้อมูลจาก Wolfire เมื่อเอาจำนวนคนมาเทียบกับรายรับของค่าย Valve แล้วกำไรต่อพนักงาน 1 คน อาจจะอยู่ที่ประมาณ 15 ล้านเหรียญต่อปีกันเลย แม้อาจจะเป็นข้อมูลที่ยังไม่ได้รับการยืนยัน แต่ข้อความในคู่มือพนักงานของ Valve ได้กล่าวว่า ทางค่ายสามารถทำกำไรต่อพนักงาน 1 คนมากกว่าค่าย Google, Amazon และ Microsoft เลย ถือว่าเป็นข้อมูลที่แสดงให้เห็นว่า Valve เป็นหนึ่งในค่ายเกมที่ไม่ธรรมดา