ในการแถลงผลประกอบการล่าสุดของ Nintendo ที่มีการประกาศยอดขายเครื่องเกม Nintendo Switch ที่ทำยอดเกิน 143 ล้านเครื่องไปแล้ว รวมทั้งเกมดังที่ยังเดินหน้าทำยอดขายเพิ่ม แต่เป็นที่สังเกตว่าเกมส่วนใหญ่จะเป็นเกมเก่าที่วางขายมาเป็นปีแล้ว เกมใหม่ ๆ ของปู่นินทำยอดขายไม่ค่อยดีนัก
ทำให้มีข้อมูลส่วนหนึ่งจากการแถลงผลประกอบการ ระบุว่าผลกำไรจากการดำเนินงานของ Nintendo ได้กำไรไปทั้งหมดเป็นจำนวนเงิน 366 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 12,905 ล้านบาท แม้จะดูเยอะแต่มันลดลงมากถึง 70% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว
สิ่งที่เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้รายได้ลดลง เพราะกำไรจากธุรกิจวิดีโอเกมลดลง 46.4% เมื่อเทียบกับปี 2023 เพราะเมื่อปีที่แล้วมีการเปิดตัวเกมฟอร์มยักษ์อย่าง ‘The Legend of Zelda: Tears of the Kingdom’
แต่ในปี 2024 มีเกมดังออกไม่มากและทำยอดขายไม่เท่ากับปีที่แล้ว โดยไตรมาสล่าสุดมีเกมขายเกินล้านเพียง 2 เกมเท่านั้นคือ ‘Paper Mario: The Thousand Year Door’ ที่ขายได้ 1.76 ล้านชุด และ ‘Luigi’s Mansion 2 HD’ ที่ขายได้ 1.19 ล้าน ซึ่งไม่สามารถเทียบเท่ากับ ‘The Legend of Zelda: Tears of the Kingdom’ ที่ทำยอดขายได้มากกว่า 10 ล้านชุดในเวลา 3 วันแรกที่วางขายเท่านั้น
ส่วนรายได้จากธุรกิจมือถือและทรัพย์สินทางปัญญา โดยยอดขายในไตรมาสที่ 1 ลดลง 53.8% เมื่อเทียบกับปี 2023 เนื่องจากการเปิดตัว ‘The Super Mario Bros Movie’ เมื่อปีที่แล้วแต่ปี 2024 ไม่มีหนังจากเกมของ Nintendo เข้าฉายในปีนี้ทำให้ไม่น่าแปลกใจที่รายได้จะลดลง
อย่างไรก็ตาม แม้ดูเหมือนว่ากำไรและยอดขายที่ลดลง แต่ Nintendo ไม่ได้เปลี่ยนเป้าหมายยอดขาย โดยปู่นินยังตั้งเป้าว่าจะขาย Nintendo Switch ได้เพิ่มอีกจำนวน 13.5 ล้านเครื่องภายในเดือนมีนาคม 2025 ซึ่งหากทำได้ Switch จะทำยอดขายแซงหน้า Nintendo DS ไปได้
อย่างไรก็ตามนักวิเคราะห์การตลาดอย่าง เซอร์คาน โตโต (Serkan Toto) ได้บอกว่าเขายังไม่เชื่อว่าปู่นินจะขาย Nintendo Switch ได้ตามเป้าหมายได้ เพราะเขาคาดว่า Nintendo ไม่น่าจะมีเกมฟอร์มยักษ์อยู่ในมือที่จะช่วยเพิ่มยอดขาย ทำให้ไม่น่าจะทำยอดขายคอนโซลได้ตามเป้าหากไม่มีการลดราคาเครื่องเกม