ก่อนหน้านี้ Bungie ค่ายเกมผู้สร้าง ‘Destiny 2’ ประกาศปลดพนักงานมากถึง 220 คน ในวันที่ 31 กรกฎาคม 2024 ที่ผ่านมา ถือเป็นการปลดออกครั้งใหญ่ แม้ว่าจะไม่ได้มีจำนวนมากเมื่อเทียบกับค่ายใหญ่ แต่สำหรับสตูดิโอในเครือ Sony ทีมงานได้หายไปประมาณ 17% กันเลย
แต่ดูเหมือนว่าการเลิกจ้างครั้งนี้จะไม่ได้จบเพียงแค่นี้แล้ว เพราะล่าสุดแฟนเกมได้แสดงความไม่พอใจและเรียกร้องให้ พีท พาร์สันส์ (Pete Parsons) CEO ของค่าย Bungie ลาออกจากค่ายตามไปด้วย เพราะมีคนพบว่าพาร์สันส์ได้ใช้เงินมากกว่า 2,300,000 เหรียญ ซื้อรถคลาสสิก โดยเหตุการณ์นี้เกิดหลังจาก Sony ได้เข้าซื้อ Bungie ในปี 2022
โดยมีการอ้างข้อมูลจากบัญชีชื่อของพาร์สันส์ในเว็บซื้อขายรถยนต์ “Bring A Trailer” ที่มีข้อมูลว่าเขาได้ใช้เงินไปหลายล้านเหรียญในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมากับการซื้อรถหรูราคาแพง ทำให้แฟนเกมหลายคนไม่พอใจและได้แสดงความรู้สึกผ่านสื่อโซเชียลมีเดีย กดดันให้เขาลาออกจากค่ายเพื่อแสดงความรับผิดชอบ แม้จะไม่มีข้อมูลว่าเขาได้เอาเงินจากไหนไปซื้อรถหรูก็ตาม
นอกจากนี้แหล่งข่าวจากทีมงานวงในได้ระบุว่าทีมงานที่ถูกเลิกจ้างได้ทำงานอย่างหนัก บางครั้งก็ไม่มีแม้วันหยุดในช่วงสุดสัปดาห์ และการทำงานล่วงเวลาในวันหยุดตามเทศกาลสำคัญก็ได้รับค่าตอบแทนที่น้อยกว่ามาตรฐานที่ควรจะได้รับ อย่างไรก็ตามแม้จะขยันทำงานแต่สุดท้ายก็โดยค่ายไล่ออก
ส่วนการประกาศปลดพนักงานครั้งนี้ เกิดขึ้นหลังจากความสำเร็จของ ‘Destiny 2: The Final Shape’ หรือ DLC ของเกม ซึ่งมีข้อมูลระบุว่ามันเป็น DLC ส่วนเสริมที่ประสบความสำเร็จสูงสุดเท่าที่เคยมีการสร้างมา จนเกือบจะแซงหน้าตัวเกมหลักเลยด้วยซ้ำ