เกมแนว Open World หรือโลกอิสระ เป็นแนวเกมที่ได้รับความนิยมอย่างมาก ด้วยความสำเร็จของเกมซีรีส์ GTA หรือแนว RPG อย่าง Skyrim ทำให้หลายเกมเลือกที่จะนำแนวทางที่มีโลกกว้างๆให้สำรวจ แม้แต่เกมระดับตำนานอย่าง Final Fantasy 15 ยังเอาโลกกว้างๆไปยัดไว้ในเกม (แม้จะไม่ได้มีอะไรสำรวจเท่า) ซึ่งคาดว่าในอนาคตจะมีหลายเกมเอารูปแบบนี้ไปใช้ แม้แต่ Super Mario ยังมีข่าวลือว่าภาคต่อไปจะเป็นแนว Open World
ทำให้ช่อง WatchMojo ได้จัด 10 อันดับเกมดังที่ควรจะทำเป็นแนว Open World ที่ล้วนเป็นซีรีส์ดังๆระดับตำนาน ที่บางเกมไม่น่าเชื่อว่าจะทำเป็นเกมโลกอิสระได้
- 1 Pokemon กำลังโด่งดังจากภาค GO และ Sun , Moon โดยรูปแบบเกมแทบไม่ได้เปลี่ยนไปเลย แต่ด้วยรสนิยมของคอเกมทั่วโลกที่เริ่มเปลี่ยนไป ทำให้ไม่แน่ว่าเราอาจได้เห็นโลกที่กว้างใหญ่ในเกม (แต่อาจไม่ใช่ภาคหลัก)
- 2 Monster Hunter เกมล่าแย้ในตำนานจาก Capcom ที่ปรกติต้องออกไปท่องโลกเพื่อออกล่ามอนสเตอร์อยู่แล้ว หากภาคต่อออกบนเครื่องเกมที่แรงพอ เราอาจได้เห็นฉากที่กว้างกว่านี้จนกลายเป็น Open World
- 3 Halo เกมยิง FPS จาก ไมโครซอฟท์ และด้วยรูปแบบเกมแนว Open World ที่มีการนำรูปแบบเกมยิงมาใช้ จึงไม่น่าแปลกใจหากภาคใหม่จะนำแนวโลกอิสระมาใช้
- 4 Uncharted เกมยิงเรือธงจากค่าย Sony ที่ติดอันดับเพราะภาค 4 มีฉาก มาดากัสการ์ ที่มีฉากกว้างมากราวกับเกมแนว Open World ดังนั้นภาคต่อไปหากจะเอาแนวนี้มาใช้ก็เหมาะสมเป็นอย่างยิ่ง
- 5 Spyro the Dragon เกมแอ็คชั่นน่ารักที่เราจะได้รับบทเป็นมังกรที่ท่องไปในโลกแฟนตาซี น่าจะเป็นเรื่องดีหากทำออกมาเป็นแนว Skyrim
- 6 Sonic เม่นน้อยในตำนานที่กำลังหาแนวทางเกมที่เหมาะสม เป็นเรื่องน่าสนใจเพราะแนว Open World เป็นแนวที่ Sonic ไม่เคยทำมาก่อน
- 7 Sly Cooper เกมแอ็คชั่นจากค่าย Sony ที่เราจะได้เล่นเป็นแมวขโมย อยูู่แล้วจึงเข้ากับแนว GTA แน่นอน
- 8 Kingdom Hearts ซีรีส์แอ็คชั่น RPG ที่มีการแบ่งเป็นโลกที่มีการจำลองมาจากการ์ตูนของดิสนีย์ หากจะนำมารวมกันเป็นโลกกว้างๆใบเดียวก็คงน่าสนุกไม่น้อย
- 9 Mega Man Legends หรือ Rockman DASH เกมหุ่นสีฟ้าที่มีฉากเป็น 3D อยู่แล้วจึงไม่ยากที่จะดัดแปลงเป็นแนว โลกอิสระ
- 10 Deus Ex เกมยิงที่ผสมผสานแนวสายลับ ซึ่งเหมาะมากที่จะมีฉากกว้างๆให้สำรวจ