เป็นที่รู้กันว่าในยุคนี้มีการใส่ความหลากหลายเข้าไปในสื่อต่าง ๆ เช่น ภาพยนตร์, ซีรีส์ และวิดีโอเกม เพราะด้วยกระแสสังคมที่มีการยอมรับความแตกต่างได้มากขึ้น และการเปิดโครงการ “DEI” (Diversity Equity Inclusion) ที่เป็นคะแนนใส่ใจสังคม ใส่ใจสิ่งแวดล้อมของบริษัท และความเท่าเทียมก็เป็นส่วนหนึ่ง
อย่างไรก็ตามการที่ยัดเยียดความหลากหลายเข้าไปในสื่อมากเกินไปก็เกิดกระแสต่อต้าน เพราะก่อนหน้านี้เกมที่ใส่ความหลากหลายเข้าไปแบบยัดเยียดล้วนล้มเหลว เช่น Concord เกมยิงออนไลน์ที่โดนวิจารณ์อย่างหนักจนต้องปิดตัวหลังจากเปิดให้เล่นเพียง 2 สัปดาห์ และยังมีเคสของเกม Suicide Squad: Kill the Justice ที่ทำยอดขายได้น่าผิดหวังและได้รับเสียงวิจารณ์ในแง่ลบอย่างมาก
และในเมื่อ “ความหลากหลายทั้งเชื้อชาติและเพศ” ได้เป็นประเด็นพูดคุยกันตลอด ทำให้ล่าสุดมีการทำผลสำรวจที่แฟนเกมมากถึง 95% ได้โหวตว่า “ไม่ให้ความสนใจและไม่ให้ความสำคัญ” กับความหลากหลายที่ใส่เข้ามาในวิดีโอเกม โดยเป็นการโหวตผ่านเว็บ NeoGAF
เรื่องประเด็นความหลากหลายอีกส่วนที่เป็นประเด็นหลัก คือการมาของบริษัท Sweet Baby Inc. ที่มีส่วนร่วมในการสร้างส่วนของการปรับเปลี่ยนเนื่อเรื่องและการออกแบบให้มีความหลากหลาย ซึ่งค่ายยักษ์ใหญ่อย่าง Santa Monica, Xbox Game Studios, Warner Bros, Ubisoft และอีกมากมายได้ใช้บริการ แต่หลังจากดราม่าและแฟนเกมไม่ชอบทำให้หลายค่ายเริ่มถอนตัวไม่ใช้บริการเช่น Square Enix
รวมถึงยังมีดราม่าที่ทีมงานของ Sweet Baby ยอมรับว่าเป้าหมายของบริษัทคือการ “เผาทำลายอุตสาหกรรมเกมให้สิ้นซาก” ซึ่งบ่งชี้ถึงภัยคุกคามครั้งใหญ่ต่ออุตสาหกรรมเกม ที่แฟน ๆ อาจจะปล่อยผ่านไปไม่ได้เพราะในอนาคตเกมอาจจะกลายเป็นเครื่องมือทางการเมืองมากกว่าจะส่งความสนุกให้กับผู้เล่น