ก่อนหน้านี้มีข่าวว่าค่าย Ubisoft ได้ทำการยกเลิกภาคต่อของเกม Prince of Persia: The Lost Crown รวมทั้งยุบสตูดิโอสร้างเกม ถือว่าเป็นเรื่องน่าเศร้าเพราะมีข่าวลือว่ามันขายได้เพียง 1 ล้านชุดเท่านั้น ถือว่าน้อยเมื่อเทียบกับฟอร์มของเกม อีกทั้งตัวเกมก็ทำออกมาดีสนุกได้รับเสียงวิจารณ์ในแง่บวกจากแฟน ๆ และสำนักรีวิวแต่กลับทำยอดขายไม่เข้าเป้า
และดูเหมือนว่าจะมีผู้ไม่พอใจกับยอดขายนี้ และก็ไม่ใช่ใครที่ไหนแต่เป็น ไมเคิล โดส (Michael Douse) ผู้อำนวยการสร้างของ larian studios ผู้สร้างเกมดังอย่าง Baldur’s Gate 3 ที่เขาได้โพสต์ผ่าน X ระบุว่า ฝ่ายบริหารของค่าย Ubisoft ต้องรับผิดชอบที่ทำให้ยอดขายของเกม Prince of Persia: The Lost Crown ต่ำกว่าที่คาดไว้
และโดสยังได้กล่าวเสริมว่าความล้มเหลวของยอดขายของเกม Prince of Persia: The Lost Crown ไม่ได้เกิดจากการทีมพัฒนา แต่เกิดจากฝ่ายบริหารของ Ubisoft เพราะประเด็นปัญหาแรกคือค่าย Ubisoft ควรเปิดตัวเกมบน Steam ตั้งแต่วันแรกที่วางขาย ไม่ใช่เปิดตัว 7 เดือนหลังจากนั้น แต่กลับเปิดตัวเกมบน Epic Games Store และ Ubisoft Store ที่เข้าถึงคนได้น้อยกว่า ซึ่งเป็นเพราะว่าค่ายต้องการขายบริการเล่นเกมแบบต้องจ่ายเงินรายเดือนระบบ Subscription มากกว่า
โดสยังได้บอกว่าเกมที่น่าสนใจของค่าย Ubisoft ที่ประสบความสำเร็จบนบริการออนไลน์ของ Ubisoft Store ในความคิดของเขาคือ Far Cry 6 ที่วางขายในปี 2021 ส่วนเกมที่ออกในปี 2023 อย่าง The Crew, Assassin’s Creed Mirage และ Avatar ได้รับเสียงตอบรับที่ไม่ค่อยดีนัก ซึ่งคาดเดาได้ง่าย ๆ ว่ามันเป็นเพราะผู้ที่เสียเงิน Subscription เพื่อเล่นเกมแบบรายเดือนของ Ubisoft มีจำนวนลดลง และมันส่งผลให้เห็นได้ชัดกับการเปิดตัวเกม Prince of Persia ที่ออกวางขายในปี 2024
โดสยังกล่าวเสริมว่า หากคำนึงถึงความสำเร็จด้านคำวิจารณ์ของเกมที่ได้ระดับ 85-87% จาก Metacritic เกมเหล่านี้ควรจะทำยอดขายได้ดีกว่านี้มาก หาก Ubisoft ปล่อยให้เล่นบน Steam ตั้งแต่เปิดตัวในวันแรก และไม่เพียงแต่จะประสบความสำเร็จในตลาดเท่านั้น แต่ยังมีแนวโน้มที่จะมีภาคต่อด้วยเนื่องจากพวกเขามีทีมงานสร้างที่เก่งมาก และมันเป็นการวางกลยุทธ์ที่ผิดพลาดมาก โดยในตอนนี้เกม Prince of Persia: The Lost Crown เปิดตัวบน PC ผ่าน Steam แล้วแต่ดูเหมือนจะสายเกินไป เพราะมันขาดความสดใหม่และดูเหมือนว่าคอเกมจะหันไปเล่นเกมอื่นมากกว่า