ดูเหมือนว่าสถานการณ์ของค่าย Ubisoft ยังคงเผชิญกับวิกฤตทางการเงินอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าทางค่ายยังไม่ได้มีผลงานออกมาในช่วงปลายปี แต่เนื่องจากเกมที่วางขายในปี 2024 ทำยอดได้ไม่เข้าเป้า และยังเลื่อนวันวางขายของเกมฟอร์มยักษ์อย่าง Assassin’s Creed Shadows ออกไป ทำให้นักลงทุนยังคงไม่มั่นใจตัวค่าย Ubisoft
และส่งผลให้รายงานมูลค่าของหุ้นค่าย Ubisoft ออกมาพบว่าตัวเลขลดลงมากกว่า 45% ทำให้เกิดความกังวลในหมู่นักลงทุนและนักวิเคราะห์ตลาด และการที่หุ้นตกแสดงให้เห็นว่านักลงทุนขาดความเชื่อมั่นในอนาคตของบริษัท
อย่างที่บอกไปว่าสาเหตุหลักเพราะเกมดังที่วางขายในปี 2024 ทำยอดได้ไม่ดีเท่าที่ควร ไม่ว่าจะเป็น Star Wars Outlaws ที่นอกจากจะมีดราม่าความ Woke และเกมเพลย์ยังพบ Bug มากมาย ทำให้บริษัทต้องปรับลดการคาดการณ์รายได้ในปีงบประมาณ 2025 จาก 2,300 ล้านยูโร เหลือเพียง 1,950 ล้านยูโร
และการเลื่อนวันวางขาย Assassin’s Creed Shadows ไปออกในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2025 ยิ่งทำให้ราคาหุ้นตกต่ำลงไปอีก และเกมฟอร์มยักษ์ระดับ AAAA อย่าง Skull and Bones ก็ล่มเหลวอย่างหนัก เพราะเปิดตัวพร้อมผู้เล่นบน Steam เพียง 400 คน ซึ่งถือว่าน้อยมาก ๆ เมื่อเทียบกับฟอร์มเกม
นอกจากนี้ค่าย Ubisoft ยังประสบปัญหาภายใน เช่นการเลิกจ้างและการปิดสตูดิโอในเครือ โดยในเดือนธันวาคม 2024 บริษัทได้ประกาศปิดตัวเกม XDefiant และยังส่งผลให้ต้องปิดสตูดิโอในซานฟรานซิสโก และโอซากา พร้อมกับการเลิกจ้างพนักงานจำนวนมาก และทำให้มีข่าวลือว่าตระกูล Guillemot ผู้ก่อตั้ง Ubisoft จะขายบริษัทให้กับยักษ์ใหญ่จากจีนอย่าง Tencent โดยในปัจจุบัน Tencent ถือหุ้น Ubisoft จำนวน 9% ในขณะที่ตระกูล Guillemot ถือหุ้นมากกว่า 20%