ก่อนหน้านี้เกมจากตะวันตกมาแรงกว่าเกมจากญี่ปุ่นพอตัว ด้วยรูปแบบการเล่นที่สนุกและแปลกใหม่กว่าทำให้เกมที่พัฒนาจากผู้สร้างยุโรปและอเมริกาจะประสบความสำเร็จมากกว่า แต่ดูเหมือนว่าหลังการมาของเกมหนึ่งที่พัฒนาโดยทีมจากแดนอาทิตย์อุทัยจะมีการเปลี่ยนแปลงไป
ซึ่งข้อมูลนี้มาจากปากของ ชูเฮ โยชิดะ (Shuhei Yoshida) ที่ได้ให้สัมภาษณ์กับ AV Watch ได้วิเคราะว่าในช่วงเวลาหนึ่งอุตสาหกรรมเกมของญี่ปุ่นกลายเป็นผู้ตาม เพราะผู้สร้างจากตะวันตกทำได้ดีกว่า เพราะเกมเริ่มมีความใกล้เคียงกับหนังฮอลลีวูดและมีความสมจริงมากขึ้น เขายกตัวอย่างเช่นเกม GTA, Gears of Wars และ The Last of Us ในยุค PS3, Xbox 360 ที่ประสบความสำเร็จจนผู้พัฒนาจากญี่ปุ่นเริ่มมีการเลียนแบบ
แต่การมาของเกม Nier: Automata ออกวางจำหน่ายในปี 2017 แม้อาจจะไม่ได้โด่งดังในทันทีที่เปิดตัว แต่มันก็ค่อย ๆ กลายเป็นเกมฮิตติดลม จนสามารถทำยอดขายได้มากกว่า 9 ล้านชุด และทำให้ตัวละครหลักอย่าง 2B เป็นภาพจำและเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ของวงการเกมในช่วงเวลานั้น

นอกจากนี้การมาของ Nier: Automata ยังช่วยกระตุ้นยอดขายเกมอื่น รวมทั้งสินค้าของค่าย Square Enix ที่ออกในช่วงเวลานั้นได้ด้วย และเขายังได้บอกว่าตอนนั้น 2B ได้รับความนิยมมากกว่าตัว “สไลม์” ตัวละครสุดน่ารักในเกม Dragon Quest ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของค่าย Square Enix เลยด้วยซ้ำ
อย่างไรก็ตามโยชิดะเชื่อว่าในตอนแรกผู้สร้าง Nier: Automata ไม่ได้คาดคิดว่ามันจะประสบความสำเร็จในตลาดต่างประเทศ เพราะเห็นได้ชัดจากเกมเพลย์และงานออกแบบก็รู้ทันทีว่ามันเป็นเกมจากผู้สร้างชาวญี่ปุ่น แต่มันก็ขายดีในตลาดต่างประเทศ เพราะเป็นที่รู้กันว่า Nier: Automata เป็นเกมที่ยอดเยี่ยม
และหลังจากนั้นก็ได้เห็นการเปลี่ยนแปลงจากผู้สร้างเกมชาวญี่ปุ่น เพราะเกมที่ออกหลังจากนั้นจะเห็นได้ว่าผู้สร้างเกมจากญี่ปุ่นได้หยุดเลียนแบบเกมจากตะวันตกแล้วหันมาสร้างเกมที่สนุก มีเอกลักษณ์ และมีอิสระในการพัฒนามากขึ้นด้วย และทำให้เขาคิดว่าการมาของ Nier: Automata ช่วยฟื้นคืนชีพอุตสาหกรรมเกมของญี่ปุ่นอีกครั้ง
