หลังจาก Nintendo Switch วางขายพร้อมกันทั่วโลก แม้แต่ในไทยก็มาแรงทั้งราคาและยอดขายเช่นกัน และในตอนนี้หากคุณเป็นเจ้าของ Nintendo Switch แล้วก็ขอแสดงว่ายินดีด้วย เพราะในตอนนี้ของเริ่มขาดตลาดกันแล้ว แต่ใช่ว่าซื้อแล้วมันจะจบ เพราะมีหลายสิ่งที่ต้องทำหลังจากซื้อแทบจะในทันทีที่ซื้อเครื่องมา ไปดูกันว่ามีอะไรบ้างที่เจ้าของ Nintendo Switch ต้องทำและมีอะไรต้องเสียเงินเพิ่มบ้าง
1. ติดแผ่นกันรอย
อย่างแรกที่ต้องทำคือคุณต้องติดแผ่นกันรอย แม้ว่า Nintendo Switch จะมีหน้าจอสัมผัส แต่ก็ไม่ค่อยได้ใช้เท่าไรนัก แต่ก็ต้องซื้อมาติด เพราะเวลาเราเอาตัวเครื่อง Switch ใส่กลับไปที่ Dock ทำให้เกิดรอยบนหน้าจอเพราะเกิดการเสียดสีกันกับช่องพลาสติก บริเวณด้านข้างของตัวเครื่อง ทำให้มันกลายเป็นของจำเป็นขึ้นมาทันที ส่วนราคาแผ่นกันรอยของ Hori ราคาจะอยู่ที่ 500-600 บาท
2. สมัคร Nintendo Account
ถ้าคุณยังไม่มี Nintendo Account ก็ต้องสมัครก่อน เพื่อซื้อของออนไลน์ และสร้าง User ID แล้วนำมาเชื่อมต่อกับ Nintendo Switch ของคุณเท่านี้ก็เรียบร้อย และเรายังสามารถเชื่อมต่อกับ twitter และ Facebook ได้ด้วย ทำให้เราแชร์ภาพการเล่น ผ่านโซเชียลมีเดีย ได้ง่ายดาย แนะนำเวลาสมัครต้องเลือกโซน อเมริกา , ญี่ปุ่น หรือ ยุโรป เพราะร้านค้าออนไลน์ e-shop จะเชื่อมต่อกับโซนที่เราเลือกเท่านั้น (ห้ามสมัคร Country/region of residence เป็นประเทศไทยเพราะเมื่อเราเข้า e-shop มันจะขึ้นว่าไม่รองรับ)
3. อย่าลืมรับเหรียญรางวัลจาก My Nintendo
อีกหนึ่งบริการจากปู่นินที่เป็นระบบและของรางวัล คล้ายกับ Club Nintendo สมัยก่อน โดยเกมบน Switch จะไม่ต้องมานั่งใส่รหัสแลกของให้ยุ่งยากเพียงแค่กดปุ่ม + หรือ – ที่เมนูหน้าจอเข้าสู่เกมจะมีตัวเลือกที่เขียนว่า my nintendo rewards ให้เรากดรับเหรียญรางวัลจำนวน 12 เหรียญทอง แต่คุณต้องเชื่อมต่อ Nintendo Account กับเครื่อง Switch ก่อน
4. ซื้อ Micro SD card โดยด่วน
อย่างที่เคยบอกไปว่า ความจุของ Nintendo Switch มีเพียง 32GB และใช้กับระบบไปเหลือให้เราใช้แค่ 25GB และที่เก็บข้อมูลของ รูปภาพที่ Capture ภาพ , เก็บ Save ในเกม ,และตัวเกมระบบดาวน์โหลดทั้ตัวเต็มๆและเดโม ความจุที่เหลือไม่พอใช้แน่นอน ดังนั้นต้องไปซื้อ MicroSD card มาใช้โดยด่วน แนะนำความจุ 64GB ขึ้นไปเลยจะได้ไม่ต้องซื้อกันบ่อยๆ
5. อย่าลืมต่อ Net เพื่อดาวน์โหลดตัวอัพเดท FW ของเครื่อง
สิ่งที่ต้องทำหลังจากเปิดเครื่องคือเชื่อมต่อกับ อินเทอร์เน็ต และอัพเดท FW ของระบบให้เรียบร้อยโดยเวอร์ชั่นล่าสุดจะเป็น 2.0.0 แม้ว่าจะไม่มีการระบุอย่างเป็นทางการว่าได้เพิ่มอะไรไปบ้าง แต่มีผู้พบว่าหลังอัพเดทการเชื่อมต่อกับ Joy-con ทำได้ดีไม่มีสะดุด หลังจากก่อนหน้านี้มีหลายคนพบว่า Joy-con ด้านซ้ายมีปัญหาการเชื่อมต่อเมื่อมีสิ่งของไปบังเช่นมือคน ซึ่งผู้เขียนไม่พบปัญหานี้เลยทุกอย่างปรกติดี