เนื่องในโอกาสที่ Monster Hunter World กำลังจะวางจำหน่ายในวันที่ 26 มกราคม 2018 นี้ รวมถึงในขณะนี้ก็มีเดโมของเกมนี้ให้ลองเล่นที่งาน TGSBIG 2017 ที่สยามพารากอนจนถึงวันที่ 5 พฤศจิกายนนี้ ผมจึงได้ขอสรุปข้อมูลของระบบย่อยๆที่เพิ่มเข้ามาใหม่จากภาคก่อนๆในเกม Monster Hunter : World ทั้ง 10 ระบบให้ฟังกัน แน่นอนว่านี่เป็นข้อมูลเท่าที่ถูกเปิดเผยมาเท่านั้น อาจจะมีอะไรมากกว่านี้ในเกมจริงก็เป็นได้
โดยข้อมูลนี้อ้างอิงจากคลิปของตา Arekkz Gaming หนึ่งในยูทูปเบอร์สายข้อมูลและเซเลปของคอมมูนิตี้ Monster Hunter ซึ่งได้รับเชิญไปเทสต์ตัวเกมเต็มถึงสองวันเต็มที่ HQ ของแคปคอมในโอซาก้าร่วมกับสำนักข่าวดังๆอย่าง IGN / GameInformer เลยทีเดียว งานนี้พี่แกก็เลยได้เอาข้อมูลมานำเสนอแบบจัดเต็มมากๆครับ
สำหรับใครที่สนใจดูคลิปต้นทางของแกเป็นภาษาอังกฤษ ก็เข้าไปที่ลิ้งค์นี้ได้เลยครับ
1. ระบบเควสต์แบบใหม่ Bounty
ในภาคก่อนๆนั้น เควสใน Monster Hunter จะแบ่งออกเป็น 2 กลุ่มใหญ่ๆคือ เควสโซโล่ซึ่งสามารถลงได้แค่คนเดียว กับเควสมัลติเพลย์เยอร์ที่สามารถพาเพื่อนไปลุยด้วยกันได้ ซึ่งเควสทั้งสองแบบจะแยกหมวดและรับจากคนละที่กัน แต่มาในภาค World นี้ จะไม่มีการแบ่งหมวดแบบนี้อีกแล้ว ทุกๆเควสสามารถลงโซโล่หรือพาเพื่อนไปด้วยได้ทั้งหมด ซึ่งความยากของเควสก็จะสเกลตามตัวเลือกนี้ เหมือนที่ในภาคก่อนๆ ถึงจะเป็นมอนสเตอร์ตัวเดียวกัน แต่ตัวที่อยู่ในเควสมัลติเพลล์เยอร์จะอึดกว่าเควสโซโล่
แต่จุดเปลี่ยนที่สำคัญจริงๆของระบบเควสต์จะอยู่ที่การเพิ่มเข้ามาของระบบ Bounty
โดยเดิมทีนั้น มันจะมีเควสต์ Filler จำพวกที่ให้เราไปหาของมาส่ง หรือไม่ก็ให้เราไปฆ่ามอนลูกกระจ๊อกมาจำนวนเท่านั้นเท่านี้ตัว ซึ่งเควสพวกนี้เป็นเควสที่ไม่ค่อยสนุกแต่ก็ต้องทำเพื่อปลดล๊อคสิ่งต่างๆในเกม มาในภาคนี้ ได้ทำการยกเครื่องเควสพวกนี้ใหม่ โดยจะมาในรูปแบบของเควสที่เรียกว่า Bounty แทน ซึ่งเควส Bounty นี้ เมื่อเรารับมาแล้ว เราจะสามารถทำเมื่อไหร่ ตอนไหน ระหว่างทำเควสไหนก็ได้ และไม่จำกัดว่าต้องทำให้เสร็จในเควสเดียว เช่น เรารับ Bounty ให้ไปหา Herb 10 อันมาส่ง เราก็ไม่จำเป็นต้องลงแมพเพื่อไปหา Herb มาส่งในทีเดียว เราจะไปทำเควสล่าบอสตามที่เราต้องการ แล้วหากเราเดินผ่านกอง Herb ระหว่างล่าบอส เราก็แวะเก็บสะสมไว้เพื่อเอามาส่ง Bounty เมื่อไหร่ก็ได้ เก็บเล็กเก็บน้อยเควสละ 2-3 ชิ้นก็ได้ ครบเมื่อไหร่ก็ค่อยเอามาส่ง ซึ่งระบบนี้ก็ถือว่าช่วยแก้ปัญหาความน่าเบื่อของเควสแบบนี้ได้มากโดยยังคงเป็นการฝึกฝนให้ผู้เล่นรู้จักเก็บของเก็บทรัพยากรตามทางอยู่
นอกจากนี้ก็ยังมีเควสที่เรียกว่า Delivery ซึ่งจะคล้ายคลึงกับระบบเควสที่ชาวบ้านในหมู่บ้านของภาคก่อนๆที่จะมาขอให้เราไปหาไอเทมมามอบให้พวกเขานั่นเอง
2. การแบ่งหมวดหมู่เควสต์
ใน Monster Hunter นั้นเราจะมีสิ่งที่เรีกว่า Key Quest ซึ่งเป็นเควสต์หลักของเกมที่เราต้องทำเพื่อปลดล๊อคเควสระดับสูงๆขึ้นไป โดยในภาคก่อนๆนั้น ตัวเกมจะไม่ระบุ Key Quest มาให้ในเกม หากเราอยากรู้ว่าเควสต์ไหนเป็น Key Quest ก็ต้องหาข้อมูลหรือบทสรุปเอาเอง แต่มาในภาค World นั้นได้มีการแบ่งประเภทของเควสไว้เสร็จสรรพ คือ
- Assigned Quest หรือก็คือ Key Quest ที่ว่าไปนั่นเอง หากสามารถเคลียร์เควสพวกนี้ได้หมด ก็จะปลดล๊อคเควสต์ระดับสูงขึ้นไปได้
-
Optional Quest คาดว่าคงจะเป็นเควสต์เสริมที่จะทำหรือไม่ทำก็ได้ แต่เควสต์ส่วนใหญ่ที่สุดแล้วก็ต้องทำเพื่อปลดล๊อคไอ้นั่นไอ้นี่อยู่ดีนะ!
-
Investigation Quest ระบบเควสแบบใหม่อีกแบบหนึ่งที่ยังไม่มีข้อมูลมากนัก แต่ลักษณะของเควสต์ก็ไม่ต่างอะไรจาก Assigned กับ Optional Quest
-
Event Quest หรือพวกเควสต์ดาวน์โหลดที่จะมาเป็น DLC จากกิจกรรมหรือเทศกาลต่างๆนั่นเอง
3. ระบบ Daily Bonus
คนที่เล่นเกมมือถือน่าจะคุ้นเคยกับระบบแบบนี้ดี โดยในทุกๆวันที่เราเปิดเกมมาขึ้นมา เราจะได้รับรางวัลเป็นไอเทมมาฟรีๆทุกวัน ซึ่งไอเทมพวกนี้ก็จะเป็นของเล็กๆน้อยๆอย่าง Potion, Honey ไปจนถึง Voucher ซึ่งเป็นบัตรที่เอาไว้ใช้ตอนรับเควส เมื่อใช้แล้วจะทำให้เควสนั้นๆมีโอกาสให้ของรางวัลเยอะขึ้นหรือดีขึ้นได้ เหมือนสกิล Mega / Ultra Lucky Cat ในภาคก่อนๆนั่นเอง ดังนั้น ถึงจะไม่มีเวลาเล่นก็อาจจะเปิดมารับโบนัสฟรีๆพวกนี้ทุกวันเฉยๆก็ได้นะ!
4. ระบบ Research Level และ Scoutfly Level
ในเทรลเลอร์ก่อนๆ หลายคนอาจจะคุ้นหน้าคุ้นตากับส่วนที่เป็นเหมือนห้องสมุดหรือศูนย์วิจัยมอนสเตอร์ในหมู่บ้าน Astera อยู่แล้ว ซึ่งเราสามารถคุยกับ NPC ในนี้เพื่อดูเลเวลของระดับความเข้าใจในมอนสเตอร์แต่ละตัวที่เราเคยสู้ได้ ซึ่งมอนสเตอร์แต่ละตัวก็จะมีสองรูปแบบของระดับความเข้าใจที่สามารถเพิ่มได้ ดังนี้
4.1 Scoutfly Level
เมื่อเราใช้ Scoutfly ในการแกะรอยมอนสเตอร์จากรอยเท้าหรือร่องรอยต่างๆจนสามารถตามไปจนพบมอนสเตอร์ตัวนั้นๆได้ Scoutfly ของเราก็จะได้รับประสบการณ์มาเพิ่มประสิทธิภาพในการแกะรอยมากขึ้น โดยจะแบ่งออกเป็นสามเลเวล ดังนี้
- LV.1 สามารถใช้ Scoutfly เพื่อแกะรอยให้มันค่อยๆนำทางเราไปหามอนสเตอร์ได้ตามปกติ
-
LV.2 สามารถใช้ Scoutfly ให้มันพาเราไปหามอนสเตอร์โดยตรงได้เลย ไปต้องแกะรอย
-
LV.3 สามารถใช้ Scoutflt แสดงตำแหน่งของมอนสเตอร์นั้นๆบน Minimap ได้เลย
4.2 Research Level
เมื่อเราสู้กับมอนสเตอร์ตัวเดิมๆซ้ำกันบ่อยๆหรือลองใช้ไอ้นั่นไอ้นี่ใส่มอนสเตอร์ตัวนั้น ระดับความเข้าใจของเราต่อมอนสเตอร์ตัวนั้นๆก็จะเพิ่มขึ้น และจะถูกบันทึกลงเป็นข้อมูลภายในเกมที่เราสามารถไปดูได้ เช่น จุดอ่อนของมอนเสตอร์ ธาตุที่ชนะ-แพ้ หรือแม้กระทั่งของที่ดรอปและโอกาสที่จะได้
5. ระบบบ้านและสัตว์เลี้ยง
เหมือนกับทุกภาคที่เราจะมีบ้านของเราเองเอาไว้สำหรับเซฟ เปลี่ยนอาวุธชุดเกราะ จัดการกล่องไอเทม และอื่นๆ มาในภาคนี้ เมื่อเราตะลุยเควสต์ระดับสูงๆหรือผ่านเนื้อเรื่องไปไกลๆขึ้น เราจะสามารถอัพเกรดไปอยู่บ้านหลังอื่นที่อาจจะใหญ่กว่าหรูกว่าได้ แต่จะมีอะไรที่เพิ่มเข้ามาจากการที่ได้บ้านหลังใหม่รึเปล่านั้น อันนี้ยังไม่ทราบครับ
นอกจากนี้ยังมีระบบใหม่ที่เราสามารถเอาแมลง นก หรือสัตว์ตัวเล็กๆอื่นๆที่เราจับระหว่างลุยเควส มาปล่อยเลี้ยงในบ้านของเราได้ (ปกติจะเอาไว้เป็นวัตถุดิบผสมของหรือทำอาวุธชุดเกราะอย่างเดียว) ซึ่งเท่าที่ทราบนั้นมันยังไม่มีประโยชน์อะไรมากไปกว่าเอาสวยงามครับ
6. Training Room
หรือก็คือห้องฝึกซ้อมนั่นเอง เป็นระบบใหม่ที่เพิ่มาในภาค world ที่ผมว่าแจ่มและเหมาะกับมือใหม่หรือคนที่ต้องการทดลองใช้อาวุธชนิดอื่นๆที่ไม่ใช่อาวุธเมนของตัวเองมากครับ โดยใน Training Room นี้จะมีอะไรให้เราทำได้ครอบคลุมมากๆ ไม่ว่าจะเป็น…
- เป้านิ่งเป็นเสาไม้ขนาดใหญ่ไว้สำหรับฝึกคอมโบ
-
เป้าที่ลังไม้ที่โดนตีแล้วจะไหลไปตามทิศทาง
-
เวลาโจมตีเป้าในนี้ พวกอาวุธที่มีเกจจากการโจมตีต่างๆอย่าง Longsword, Chargeblade ก็จะสามารถชาร์จได้ด้วย
-
หรืออย่างถ้าลอง Insect Glaive เป้าแต่ละอันก็จะให้บัฟ Kinsect คนละสีกันด้วย
-
มีผนังที่ไต่ได้ไว้ลองใช้ท่า Jumping Attack แบบใหม่
-
มีลังที่ตีแล้วจะจับเวลาระเบิดเอาไว้สำหรับเทสต์การหลบหรือการตั้งการ์ด ไปจนถึงฝึก Guard Point สำหรับ Chargeblade ได้
-
แสดงคอมโบที่สามารถกดต่อไปได้ให้ดูบนหน้าจอ เหมือนพวกโหมด Tutorial ของเกมต่อสู้
-
และอื่นๆที่น่าจะมีอีก
7. ระบบ Squads
เป็นระบบที่เหมือนกิลด์หรือแคลนในเกมออนไลน์ ซึ่งเราสามารถตั้งและเปิดรับสมาชิกได้ ซึ่งก็จะมีข้อดีอย่างเช่น สมาชิกของ Squad จะสามารถตั้งล๊อบบี้ออนไลน์สำหรับเฉพาะคนใน Squad ได้ หรือคนที่เป็นผู้นำ Squads จะสามารถส่งข้อความหาถึงสมาชิกทุกคนโดยตรงได้ เป็นต้น โดย Squad นั้นสามารถตั้งชื่อและออกแบบสัญลักษณ์กลุ่มได้ โดยชื่อและสัญลักษณ์ของกลุ่มก็จะปรากฏด้านบนชื่อของตัวละครเวลาไปเล่นออนไลน์และปรากฏบน Guild Card ซึ่งเป็นเหมือนนามบัตรของผู้เล่นด้วย
Squad หนึ่งๆมีสมาชิกได้สูงสุดที่ 50 คน และตัวละครแต่ละตัวสามารถอยู่ใน Squad ได้พร้อมกันสูงสุดที่ 8 Squad โดยหากต้องการให้ชื่อและสัญลักษณ์ของ Squad ไหนปรากฏบนชื่อของเราเวลาออนไลน์ ก็สามารถเข้าไปเซ็ตเปลี่ยน Squad ที่เรา Active อยู่ได้ตลอด
8. งัดข้อ!!!!
ระบบงัดข้อกลับมาแล้วววว!!! ฮ่าๆๆ สำหรับแฟนๆซีรี่ส์นี้ภาคก่อนๆคงคุ้นเคยกันดีกับระบบงัดข้อซึ่งเป็นมินิเกมที่เราสามารถเล่นกับเพื่อนในล๊อบบี้ออนไลน์เอาสนุกๆได้ครับ ระบบนี้หายไปตอนภาค Generation แต่ในภาค World นี้ มันกลับมาแล้ว
9. ระบบ Weapon & Gear Preview
ใน Monster Hunter ภาคก่อนๆนั้นเราจะสามารถดูหน้าตาของอาวุธชุดเกราะก่อนที่จะตีมาใช้จริงได้แบบแยกเป็นส่วนๆเท่านั้น แต่มาในภาคนี้ เราสามารถดูแบบทั้งเซ็ตได้เลย ทำให้เรารู้ล่วงหน้าว่าทำเซ็ตนี้ออกมาแล้วหน้าตาจะเป็นยังไง สำหรับคนที่จริงจังกับความสวยหล่อนี่ก็ถือสบายขึ้นมาก
นอกจากนี้เรายังสามารถดูสายการอัพเกรดของอาวุธล่วงหน้าได้ประมาณ 3 ระดับ ทำให้เราสามารถแปลนได้ยาวขึ้นว่าจะอัพเกรดอาวุธชิ้นไหนไปทางสายไหน รวมถึงยังมีระบบ roll back ที่สามารถตีอาวุธย้อนสายเผื่อต้องการที่จะเปลี่ยนสายการอัพเกรดได้อีกด้วย
10. ระบบ Wish List
ระบบนี้เป็นการเลือกอาวุธหรือชุดเกราะที่เราอยากได้แต่ยังมีวัตถุดิบไม่มากพอจะทำจากในลิสต์ของร้านตีอาวุธ-ชุดเกราะมาใส่ในลิสต์ เพื่อเป็นการบอกให้เกมรู้ว่าเราเล็งจะทำอาวุธชุดเกราะชิ้นนั้นๆอยู่ จากนั้นเวลาเราออกไปทำเควสเก็บของหรือแล่วัตถุดิบจากมอนสเตอร์มา หากเราเก็บไอเทมที่เป็นส่วนประกอบของการตีอาวุธชุดเกราะนั้นๆได้ ตัวเกมก็จะคอยเช็คและเตือนเราตลอดว่าจำนวนถึงพอรึยัง สามารถตีอาวุธชุดเกราะที่ต้องการใน Wish List ได้รึยัง ทำให้เราสะดวกขึ้นเพราะไม่ต้องคอยมาเช็คกับร้านตีอาวุธชุดเกราะบ่อยๆด้วยตัวเองนั่นเองครับ โดยเราสามารถกำหนดของใน Wish List ได้ 6 ชิ้นพร้อมๆกันครับ
ก็จบไปแล้วนะครับ สำหรับ 10 ระบบแสนสะดวกที่เพิ่มเข้ามาใหม่ในเกม Monster Hunter : World เรียกได้ว่าทีมงานนั้นตั้งใจมากๆที่จะทำให้ตัวเกมนั้นเข้าถึงง่ายและเป็นมิตรขึ้นทั้งกับผู้เล่นหน้าเก่าและหน้าใหม่ ใครที่ไม่เคยเล่นแต่สนใจมองๆซีรี่ส์นี้อยู่ คงไม่มีภาคไหนในซีรี่ส์นี้อีกแล้ว ที่จะเหมาะในการทำความรู้จักมากไปกว่า Monster Hunter : World นี้ครับ