บทความนี้ไม่มีการสปอยล์เนื้อหาสำคัญของตัวเกม
เมื่อวันที่ 12- 13 มีนาคมที่ผ่าน แบไต๋ไฮเทค เป็น 1 ใน 4 สื่อของไทย ร่วมกับสื่ออื่น ๆ จากอีกหลายประเทศในกลุ่มเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่ได้รับเชิญจากทาง โซนี่สาขาสิงคโปร์ (SIES) ซึ่งดูแลการตลาดในประเทศไทยด้วย ให้เข้าร่วมงาน God of War Preview Event in Singapore ณ โรงแรม Singapore Marriott Tang Plaza ซึ่งนอกจากจะได้พบกับทีมงานและผู้บริหารของทางโซนี่แล้ว ยังได้ร่วมทดลองเล่นตัวเกมบางส่วนมาด้วย ซึ่งวันนี้จะมาเล่าความประทับใจครั้งนั้นกันครับ
เราได้พบกับ อารอน คอฟแมน (Aaron Kaufman) ตำแหน่ง Senior Community Strategist ของ Sony Santa Monica ผู้พัฒนาเกม God of War ภาคนี้ โดยเขาได้พรีเซ้นต์หลาย ๆ อย่างเกี่ยวกับตัวเกม และเรายังมีโอกาสได้สัมภาษณ์กับคุณอารอนในภายหลังด้วย ซึ่งเราจะขอสรุปส่วนที่สำคัญจากการพรีเซ้นต์และสัมภาษณ์มาเลยครับ ดังนี้
- God of War ในภาคนี้จะใช้เทพปกรณัมนอร์สเป็นหลัก ต่างจากที่ผ่านมาที่เป็นเทพกรีก โดยคุณอารอนยังบอกว่า มันเป็นเรื่องราวที่ต่อมากจากภาคเก่านั่นล่ะ และเครโทสคนนี้ก็คือคนเดิมที่เราเคยเล่นกัน (คือไม่ใช่คนละจักรวาล) และหากมองในแง่เวลาแล้ว นอร์สมันก็อยู่ในช่วงเวลาเดียวกับไตรภาคแรกที่เป็นกรีกนั่นด้วย มันจึงเป็นเหตุผลเพียงพอที่ทีมสร้างจะเลือกนอร์ส
- ความเป็นนอร์สนั้น ถูกนำเสนอไม่เพียงแค่ภูมิทัศน์ภูเขาหิมะ และเหล่าศัตรูต่าง ๆ เท่านั้น มันยังอยู่ในสถาปัตยกรรมต่าง ๆ อาวุธ พลัง ตลอดจนปริศนา เรื่องเล่าทั้งหมดด้วย
- มีเผ่าพันธุ์ในโลกทัศน์นี้ที่เกี่ยวข้องถึง 3 เผ่าเลยทีเดียว เท่าที่เราเห็นแล้วจากเกมคือ เทพนอร์ส และยักษ์
- เรื่องราวจะเน้นเกี่ยวกับ ความสัมพันธ์ ระหว่าง เครโทส กับลูกชายที่ชื่อ เอเทรียส ซึ่งทั้งสองต่างต้องเรียนรู้จากกันและกัน เครโทสจะสอนเอเทรียสให้รู้จักการเป็นเทพและการใช้พลังที่ถูกต้อง ในขณะที่เอเทรียสก็จะทำให้เครโทสได้เรียนรู้การเป็นมนุษย์และการเป็นพ่อ ซึ่งเขาลืมเลือนไปนานแล้ว
- โครงเรื่องหลักคือการเดินทางของเครโทสกับเอเทรียสเพื่อนำอัฐิ “แม่” ของเอเทรียส ไปทำพิธีบนเทือกเขาที่สูงที่สุดในดินแดนนอร์ส ตามที่เราได้เห็นในเทรลเลอร์เนื้อเรื่อง
- ชื่อของภาคนี้ ได้รับการถกเถียงกันในทีมสร้างอย่างเข้มข้น ที่ใช้เพียง God of War เพื่อให้ผู้เล่นสัมผัสถึงการเปิดโลกทัศน์ใหม่ ๆ การเล่นแบบใหม่ ๆ และคิดว่าการกำกับด้วยตัวเลขจะลดทอนความสำคัญของเกมไป
- เกมภาคนี้เป็นการปฏิวัติตัวเกมเดิมใน 3 ส่วนที่สำคัญมากเท่า ๆ กัน คือ เนื้อเรื่อง / ระบบการต่อสู้ / การสำรวจโลกทัศน์ของเกม (ผมขอใช้คำว่า ‘ปฏิวัติ’ ตามความรู้สึกหลังจากการสัมผัสตัวเกมจริงแล้วนะครับ)
- การต่อสู้ถูกปรับปรุงใหม่ทำให้แตกต่างจากภาคก่อน ๆ ชัดเจน จุดสำคัญคือไม่มีปุ่มกระโดดอีกแล้ว
- ซึ่งการที่ไม่มีการกระโดดในเกม ได้ผ่านการทดลองทดสอบมาแล้วว่า การกระโดดทำให้มุมมองของกล้องที่เป็นหัวใจสำคัญในการควบคุมการเล่นแบบใหม่หายไป ทั้งยังการที่ลดปุ่มกระโดดไปยังช่วยเพิ่มปุ่มที่สร้างสรรค์การเล่นแบบใหม่ ๆ ได้มากขึ้นด้วย
- ตัวละครเอเทรียสมีความฉลาดสูงมาก หากเราไม่สั่งอะไรพิเศษ เขาจะตัดสินใจทำสิ่งต่าง ๆ ที่เอื้อประโยชน์กับเรามากที่สุด ทั้งการเดินหยุดในทิศที่เราควรไป หรือการต่อสู้ที่ยิงธนูสนับสนุนได้อย่างดี
- ตลอดการเล่นเราจะสวมบทเป็นเครโทสเท่านั้น
- Dead Stone Mason ที่เคยถูกพูดถึงในวิดีโอเทรลเลอร์ (แถมยังเคยออกมาเป็นชื่ออิดิทชั่นหนึ่งที่ให้สั่งจองเกมด้วย) จะเป็นหนึ่งในส่วนสำคัญของเนื้อหาด้วย
- เนื้อหา Dead Stone Mason ว่าด้วยโศกนาฏกรรมระหว่างยักษ์พ่อ-ลูก ที่ถูกธอร์วางแผนทำลายสัมพันธ์ ยักษ์ตัวพ่อเป็นนายช่างที่ก่อสร้างดินแดนและกำแพงเพื่อป้องกันการรุนรานทำลายของธอร์ ส่วนตัวลูกกลับพิสมัยในการสงคราม ทั้งคู่จึงทะเลาะกันและฝ่ายลูกที่แพ้ก็หนีหายไป ยักษ์ตนพ่อเสียใจตามหาลูกจนมาปะทะกับธอร์ แล้วจึงถูกธอร์ฆ่าตายกลายเป็นสุสานหินยักษ์และทำให้ดินแดนรอบ ๆ กลายเป็นน้ำแข็งจนหมดด้วย (ในฟุตเทจก่อนหน้านี้เราจะเห็นซากยักษ์โบราณที่นอนอยู่ท่ามกลางหิมะ น่าจะคือยักษ์ตัวพ่อนาม Thamur นี่ล่ะครับ – จุดสังเกตเพิ่มเติมคือขวานของตัวลูกที่มีพลังน้ำแข็งของยักษ์อาจจะเกี่ยวข้องกับขวานของเครโทสก็ได้)
Play video - มุมมอง (กล้อง) คือสิ่งที่เราสามารถบังคับได้ และการบังคับมุมมองผ่านอนาล็อกสติ๊กขวาจะมีความสำคัญอย่างยิ่งในการเล่น (อันนี้จริงเลยครับ)
- เกมมีความเป็น Cinematic สูงมาก การเล่นและคัทซีนถูกผสานกันแบบไร้รอยต่อ มันให้อารมณ์เหมือนการดูหนังขนาดยาวตั้งแต่ต้นไปจนจบ (ก่อนหน้าเผยมาแล้วว่าเกมจะยาว 25-35 ชั่วโมงมากกว่าเกมภาคเก่า ๆ ถึง 2 – 3 เท่าเลยทีเดียว)
- เพื่อการพัฒนามุมมองการเล่าเรื่องอย่างมีประสิทธิภาพ ดอรี่ เอราซี่ (Dori Arazi) ผู้กำกับภาพของเกมลงทุนไปเรียนวิชาภาพยนตร์ขั้นสูง (Master Class) โดยทีมสร้างยังศึกษาอาร์ตจากหนังหลากแนวอย่าง Game of Throne หรือภาพยนตร์ออสการ์อย่าง The Revenant (2015) เป็นต้น (จริง ๆ ระหว่างที่เล่นมันชวนให้นึกถึงหนังหลาย ๆ เรื่อง เกมหลาย ๆ เกมที่เราเคยประทับใจด้วยครับ ไม่ใช่ในแง่ความเป๊ะแบบฉากต่อฉาก แต่เป็นในแง่อารมณ์ท่วมท้นที่เกมส่งให้เราได้รับแบบตอนดูหนังนั่นล่ะครับ)
- ดอรี่ ยังได้ปฏิวัติการทำเกมด้วยการทำ โมชั่นแคปเจอร์แบบเรียลไทม์ จากกล้องแฮนเฮลด์ที่สามารถเคลื่อนไปรอบ ๆ นักแสดงโมชั่นแคปฯ ได้ ซึ่งเป็น 1 ใน 3 สิ่งที่ อารอน บอกว่าเขาประทับใจมากที่สุดในการสร้างเกมนี้
- อีก 2 สิ่งที่เป็นความ ว้าว สำหรับอารอน คือการได้เห็นพัฒนาการของเครโทสที่มีมิติอารมณ์ลึกขึ้น เป็นผู้ใหญ่ขึ้น อารอนมองว่าเครโทสกลายเป็นตัวละครที่มีศักยภาพสูงในการต่อยอดอะไรได้อีกมากมายกว่าที่เคยแล้ว ส่วนสิ่งสุดท้ายคือ เทคนิกการแสดงสีหน้าของตัวละครที่สุดแสนสมจริง เรารับรู้ความรู้สึกหม่นเศร้าของเครโทสได้แบบชัดเจนมาก ๆ (นี่ต้องรวมถึง เอเทรียส ด้วยครับ การแสดงสีหน้าสุดแสนซนและน่ารักจะทำให้เราหลงรัก ลูก คนนี้ของเราแบบไม่รู้ตัวแบบที่เคยเป็นกับ เอลลี่ ใน The Last of Us เลยทีเดียว)
- ปริศนายังมีเหลือทิ้งไว้ค่อนข้างเยอะจากพรีเซ้นท์ครับ (และจากการลองเล่นก็บอกได้เลยว่าเพียบ มีอะไรให้ทำเพื่ออัปเกรดทั้งตัวเรา อาวุธ และเนื้อเรื่องเยอะมาก) ก็คงต้องรอเล่นเกมฉบับเต็มถึงจะเคลียร์มากขึ้น และแน่นอนว่ามันคงทำให้การสปอยล์เกมนี้เป็นบาปแน่ ๆ เพราะมันจะเต็มไปด้วยส่วนสำคัญที่ผู้สร้างเขาไม่อยากให้เรารู้ล่วงหน้าก่อนการเล่นนั่นเองครับ (วันจริงใครเล่นจบอย่าเพิ่งมาสปอยล์คนอื่นเน้อ)
ตรงนี้ตัวแทนฝั่งการตลาดได้ออกมาย้ำถึงแพ็กเกจต่าง ๆ ที่จะออกวางขายรวมถึงวันวางจำหน่ายด้วย ซึ่งก็ตรงกับที่เราทราบมาก่อนหน้านี้แล้วคือ
- ชุดพิเศษเกม God of War Collector’s Edition
- ราคา 4,990 บาท
- มาพร้อมของแถม โมเดล Kratos & Atreus Statue สูง 9 นิ้ว (อันนี้ดูของจริงมาแล้วรายละเอียดดี งานสวยมากครับ)
- Huldra Brothers Carvings สูง 2 นิ้ว
- Cloth Map
- Lithograph
- Special Necklace
- กระเป๋า Drawstring
- Death’s Vow Armor (ไอเท็มในเกม)
- Exile’s Guardian Shield (ไอเท็มในเกม)
- Digital Comic
- Digital Art book
- Dynamic Theme
- แบบแผ่น ชุดธรรมดา
- ราคา 1,890 บาท
- ของแถมจะมี สมุดโน้ต God of War (จำนวนจำกัด)
- แบบดิจิทัลดาวน์โหลด
- ราคา 1,790 บาท
- สำหรับสมาชิก PS Plus มีไอเท็มแถมเพิ่ม ดูรายละเอียดได้ในหน้าพรีออเดอร์เลยครับ
- เครื่อง PS4 Pro รุ่นพิเศษ God of War
- ราคาขาย 17,690 บาท
- ตัวเครื่องสีขาว เป็นลายบนขวานของเครโทส โดยแสดงถึงสกิลทรีที่จะได้อัปเกรดเวลาเล่นในเกมด้วย
- จอย DUALSHOCK 4 ลายจากเกม God of War
- แผ่น Blu-ray เกม God of War พร้อม DLC พิเศษ
ทั้งหมดวางขายวันที่ 20 เมษายนนี้
ว้าว ว้าว ว้าว
ตัวเกมมีระบบความยาก 3 ระดับคือ แบบเน้นดูเรื่องราว (ง่าย) / ดูเรื่องราวและมีความท้าทายมากขึ้น (ธรรมดา) / ท้าทายสูง (ยาก) ทั้งนี้ผมได้ลองเล่นแบบธรรมดาไป พบว่าเกมไม่ได้ยากจนเกินไปสามารถเล่นได้แบบหัวไม่ร้อนอะไรนักครับ ความตายส่วนใหญ่ในการเล่นมาจากการยังไม่รู้หรือยังไม่ชินรูปแบบการต่อสู้มากกว่า ซึ่งไอ้ระบบการต่อสู้นี่ล่ะที่ต้องยอมรับเลยว่า มันมือมาก และเรียกร้องสติจากผู้เล่นมากทีเดียว
เพราะนอกจากปุ่ม R1 และ R2 ที่ใช้ขวานฟันโจมตีเบาและหนักตามลำดับแล้ว การขว้างขวานโดยใช้ปุ่ม L2 เล็ง แล้วโยกอนาล็อกสติ๊กขวาเพื่อหาเป้าก็เป็นการโจมตีสำคัญที่ต้องใช้บ่อยครั้งทีเดียว (ขวานมีพลังแช่แข็งศัตรู หรือใช้โจมตีฉากเพื่อเปิดกลไกด้วย) และเมื่อขว้างเสร็จเราก็ต้องกดปุ่ม สามเหลี่ยม สำหรับเรียกขวานกลับมาแบบค้อนธอร์ด้วยจึงจะใช้ขวานต่อไปได้ ไม่เช่นนั้นก็จะกลายเป็นหมัดลุ่น ๆ แทน ส่วนปุ่มอื่น ๆ ก็ถูกใช้แบบไม่มีเปล่าประโยชน์เลยทั้งสิ้น ทั้ง L1 สำหรับการยกโล่ป้องกัน ปุ่ม สี่เหลี่ยม สำหรับสั่งให้เอเทรียสทำการสนับสนุน (ทั้งการแก้ปริศนาและการต่อสู้) ปุ่ม วงกลม สำหรับการปฏิสัมพันธ์กับเกม และปุ่ม กากบาท สำหรับการโยกหลบ
ซึ่งพอเล่นจริงต้องใช้ผสานกันทุกปุ่มมันเลยโคตรมันครับ จังหวะนัว ๆ มีกดพลาดบ้างเหมือนกันในตอนแรก ๆ และที่สำคัญในภาคนี้เรากระโดดไปมาไม่ได้แล้วนะครับ การใช้อนาล็อกเพื่อหมุนตัวไปรอบ ๆ รับทิศทางศัตรูที่ถูกต้องสำคัญมาก เวลามีศัตรูโผล่มาด้านหลังมันจะมีลูกศรขึ้นเตือน มันจะมีอารมณ์เสียวหลังเป็นระยะ ๆ เลย ยิ่งพวกมาเยอะ ๆ แล้วเราอยู่กลางวงนี่ ลุ้นมาก
คอมแบทเกมเพลย์ จากที่ได้ลองเล่นมันคือการไต่ระดับและเรียนรู้ผ่านการต่อสู้จริงเลยล่ะครับ ต้องชื่นชมคนดีไซน์เลเวลเกม รวมถึงการสร้างเหล่าศัตรูหลากหลายชนิด ซึ่งต้องใช้วิธีการต่อสู้เพื่อเอาชนะแตกต่างกันไป จากแรก ๆ ซากศพธรรมดาที่เราฟัน ๆ คอมโบเอาชนะได้สบาย ก็เริ่มมาเป็นหมู่ที่ต้องระวังหลังมากขึ้น ได้เจอสัตว์ป่าที่ว่องไวแต่ก็ยังใช้ระบบการฟันปกติเอาชนะมาได้ มาเจอยักษ์ที่ทำให้เราเรียนรู้การผสานกับเอเทรียสในการต่อสู้จริง ว่าเอเทรียสสามารถช่วยโจมตีตำแหน่งตามที่เราสั่งได้ อาจจะสร้างดาเมจจริง จนถึงแค่ยิงธนูล่อเป็นนกต่อให้เราก็ได้ และต้องยอมรับว่าเอไอของเอเทรียส ทำให้เป็นคู่หูที่มีชีวิตชีวาและฉลาดมาก เรารู้สึกว่ามันคิดเป็นและไม่เป็นภาระเราเลย (แต่ก็อยู่ที่วิธีใช้ของเราด้วยนะ)
ระบบพลังชีวิตของเกมใช้บาร์หลอดเลือด ทั้งของเราและของศัตรู โดยสำหรับศัตรูสีของหลอดเลือดยังบ่งบอกระดับเลเวลของศัตรูด้วย ดังนั้นเจอสีเข้ม ๆ อาจจะต้องชั่งใจจะลุยดุ่ม ๆ ไม่สนเหนือสนใต้ก็ไม่ค่อยดีนักครับ แต่ถามว่าความลื่นไหล คอมโบ ความมันในการต่อสู้หายไปกลายเป็นเกมตระกูลดาร์กโซลเลยมั้ย ไม่ขนาดนั้นครับ ยังเล่นได้มันเหมือนเดิมพริ้วเหมือนเดิม แค่ต้องสังเกตการต่อสู้การป้องกันการโต้กลับให้เจนขึ้นเท่านั้นเอง น่าจะยกระดับการเล่นของผู้เล่นแนว Hack and Slack ให้สูงขึ้นด้วย
หลังจากศัตรูเพื่อการเรียนรู้ผ่านไป ศัตรูก็จะยากขึ้น ๆ เราอาจเจอมินิบอสที่ตายโคตรยาก ที่ทำให้เราต้องฝึกการใช้การหลบหลีกและการป้องกัน รวมถึงสังเกตจังหวะวงกลมสีเหลืองขึ้นเพื่อส่งสัญญาณการปัดป้องให้ตรงจังหวะ ซึ่งจะทำให้สามารถโต้กลับได้อย่างรุนแรงด้วย หรือบางจังหวะที่ศัตรูปางตายจะมีสัญลักษณ์วงกลมสีแดงขึ้น เราจะทำคริติคัลโหด ๆ ใส่แบบภาคเก่า ๆ ได้ด้วยการกด R3 คืออะไรดีอยู่แล้วมันอยู่แล้วก็เก็บไว้ อะไรที่เพิ่มความมันเพิ่มความโหดได้ก็ใส่มามากขึ้น ประทับใจสายโหดมาก ๆ ครับ
พูดถึงการสำรวจโลกในเกมบ้าง โลกทัศน์ในเกมเหมือนดันเจี้ยนแบบเอ้าดอร์ที่มีหลากหลายเส้นทาง แต่ละพาร์ทของเกมสามารถเดินสำรวจเชื่อมไปมาหรือกลับมาจุดเดิมได้ ทั้งยังต้องอาศัยการปีนป่าย การแก้ปริศนากลไกประตูต่าง ๆ ทำให้น่าสำรวจมากขึ้น และในฉากนอกจากเราต้องเก็บไอเท็มกล่องสมบัติเพื่อรับเงิน เลือด และไอเท็มพิเศษเพื่อเปิดท่าใหม่ ๆ (ซึ่งดีงามมาก) แล้ว ยังมีการค้นหาของต่าง ๆ เพื่อเปิดความลับของเนื้อเรื่องและของตอบแทนอีกมากมาย ทั้งการค้นหาแท่นศิลาอักษรรูนให้เอเทรียสอ่านเพื่อไขตำนาน ทั้งการหาต้นไม้ที่มีรอยประทับมือสีทอง (ที่เราเห็นในเทรลเลอร์) และอีกเพียบ บรรยายไม่หมด เพราะเปิดหน้าเมนูก็มีอะไรให้อัปเกรดให้เพิ่มสกิลนู่นนี่นั่น เยอะมากกกก แถมเล่น ๆ ไปจะเจออีเว้นท์ใหม่ ๆ เพิ่มให้ตามหาแบบไม่สิ้นสุดเลย คือระบบการอัปเกรดในเกมลึกและแตกแขนงได้เยอะมากครับ สมกับที่การสำรวจโลกของเกมเป็นหัวใจหลักหนึ่งในการเล่นเลย
และหัวใจสุดท้ายของการเล่นคือ เนื้อเรื่อง ต้องบอกว่า ยังไม่รู้อะไรเลยครับ 5555 ตัวละครปริศนาที่พรั่งพรูกันมาในช่วงต้นก็ชวนให้สงสัยสุด ๆ หรือชื่อของแม่เอเทรียสนั้นที่เหมือนจะเป็นความลับก็มีการหลุดเผยมาในช่วงแรก ๆ ของเกมเช่นกัน ซึ่งถามว่าทำให้รู้เรื่องเลยมั้ย ก็ยังไม่ขนาดนั้นครับ (แต่ใครเซียนตำนานนอร์สอาจเริ่มมีทฤษฎีเกี่ยวกับเนื้อหาส่วนสำคัญได้เหมือนกันนะ ผมเองก็เริ่มมีในใจละ รอเล่นยาว ๆ ว่าจะทายถูกบ้างมั้ย 555) เอาเป็นว่าบอกได้แค่ เนื้อหาสนุก ลุ้นระทึก และเรียกร้องการผจญภัยแบบสุด ๆ ไปเลยครับ
สรุป
สรุปแบบไม่เยิ่นเย้อ หลังจากลองเล่นไปเกือบ 2 ชั่วโมง ยกให้เป็นเกมแอ็กชั่นแห่งปีเลยครับ แฟนเดิมต้องกรี๊ดมาก ๆ อ่ะ บางคนอาจไม่ชอบรูปแบบการต่อสู้ที่ไม่ฉับไว และต้องใช้แท็กติกเยอะขึ้นจากเดิม (ซึ่งผมก็เป็นกลุ่มนี้นะในตอนแรก) แต่บอกเลยครับค่อย ๆ เรียนรู้ไประหว่างเล่น มันไม่ยาก ไม่ง่าย สนุกท้าทายกำลังดี แล้วก็จะเผลอตัวควงจอยโคตรมันมันมาก ๆ แบบหมด 2 ชั่วโมงไม่รู้ตัว เนื้อเรื่อง ปริศนาต่าง ๆ และการสร้างตัวละครที่มิติมาก ๆ ก็ทำให้เราอินสุด ๆ อยากรู้อยากเล่นต่อ ๆ ไปแบบไม่เหน็ดเหนื่อยเลย Day One (ซื้อวันแรก) และ Binge Playing (เล่นต่อเนื่องรวดเดียวจบ) เท่านั้นครับเกมนี้