นอกเหนือจากระบบการเล่น เนื้อเรื่อง และงานภาพแล้วนั้น “ความคุ้มค่า” หรือระยะเวลาที่ผู้เล่นจะได้คลุกคลีกับคอนเทนท์ทั้งหลายในเกม ก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ใช้ตัดสินใจในการเลือกซื้อ/เล่นผลงานเกมต่างๆ
ด้วยเหตุนี้ผู้เขียนจึงได้เรียบเรียง 10 อันดับเกมที่ใช้เวลาในการเล่นจบครบสมบูรณ์ (เคลียร์เนื้อเรื่อง, เควสเสริม, ความลับของเกม ฯลฯ) จาก How Long to Beat เว็บไซต์ที่นำเสนอข้อมูลสถิติของเกมต่างๆ ว่าใช้เวลาเท่าไหร่ในการเล่นจบ มาให้ผู้อ่านสายเกมเมอร์ได้รับทราบกัน ซึ่งมันจะมีเกมอะไรกันบ้างนั้น ตามดูต่อกันได้เลย!
10. The Witcher 3: Wild Hunt (Game of the Year Edition) – 188 ชั่วโมง
เกมแอกชั่น – อาร์พีจีแห่งปี 2015 (แต่ผู้เขียนยกให้เป็นแห่งยุคเลย!) ที่แค่ดำเนินเนื้อเรื่องอย่างเดียวก็ปาเข้าไปหลาย 10 ชั่วโมงแล้ว แล้วไหนจะเควสเสริม, การตามเคลียร์รังมอนสเตอร์, หาชุดเกราะเทพ ฯลฯ อีก บอกเลยครับว่าเยอะ!
9. Adventure Capitalist – 213 ชั่วโมง
เกมแนวคลิกเกอร์ คลิกมันเข้าไป คลิกไปเรื่อยๆ เพื่อให้เห็นธุรกิจของเราเติบโต คลิกไปเรื่อยๆ เพื่อจ้างคนมาช่วย และก็คลิกมันอยู่อย่างนั้นแหละ! (ผู้เขียนไม่เคยเล่นนะเกมนี้ ใครเคยเล่นบ้าง ไปไกลขนาดไหนแชร์กันหน่อยสิ)
8. The Elder Scroll V: Skyrim – 224 ชั่วโมง
อีกหนึ่งเกมแอกชั่น – อาร์พีจี ที่โด่งดังด้วยเป็นไวรัลทั่วอินเทอร์เน็ตจากคำพูดที่ตัวละครของเราเปล่งออกมายามใช้สกิลอย่าง Fus Ro Dah! โดยนอกเหนือจากความดังและเอามายำล้อในไวรัลดังกล่าวแล้ว ตัวเกมค่อนข้างมีกิจกรรมมากมายให้ทำครับ ไล่ตั้งแต่ บุกดันเจี้ยนล่าสกิล, ชุดเกราะและอาวุธเทพๆ ตามกวาดล้างมังกร คราฟท์ไอเทม เที่ยวไล่ทำกิจกรรมที่เพิ่มค่าทักษะทั้งหลายให้แก่ตัวละครผู้เล่น ฯลฯ
7. Fallout 4: Game of the Year – 228 ชั่วโมง
ผลงานเกมค่ายเดียวกันกับ Skyrim (Bethesda) ที่ในภาคนี้ได้ปรับปรุงระบบการคราฟท์ให้เป็นรูปธรรมและสำคัญกับการเล่นมากกว่าภาค 3 (ที่ซ้ำก็ยังเป็นการยกระบบคราฟท์ไอเทมมาจาก Skyrim อีกที) โดยเนื้อเรื่องหลักนั้น แม้จะดูน่าติดตามและเร้าผู้เล่นมากกว่าภาคก่อนๆ แต่เชื่อได้เลยละว่านานาเควสเสริมของเกม จะฉุดและเชื้อเชิญให้ผู้เล่นได้แวะข้างทางก่อนแน่นอน ซึ่งกว่าจะรู้ตัวอีกทีชั่วโมงเล่นก็อาจจะปาไปแล้วถึง 10 ชั่วโมงเลยก็เป็นได้ (มันเกิดเหตุการณ์แบบนี้กับผู้เขียนมาแล้ว…)
6. Xenoblade Chronicle X – 285 ชั่วโมง
สารภาพตามตรงว่าผู้เขียนไม่เคยเล่น แต่ข้อมูลที่หามา ตัวเกมเหมือนจะมีระบบการต่อสู้ที่คงขนบธรรมเนียมเกมอาร์พีจีจากแดนปลาดิบที่มีฟีเจอร์รวบรัดตัดตอนองค์ประกอบเกมแนวอาร์พีจีเพื่อให้ผู้เล่นได้ตื่นเต้นกับการต่อสู้ อีกทั้งตัวเกมยังมีระบบมัลติเพลย์เยอร์ด้วยนะ
5. Animal Crossing: New Leaf – 388 ชั่วโมง
เกมที่ผู้เล่นจะได้ทิ้งดิ่งตัวเองลงไปยังโลกที่มีแต่ตัวละครน่ารักน่าหยิก พร้อมกิจวัตรหลากหลายให้ทำ ทั้งแต่งบ้านเมือง, ตีสนิทกับเหล่ามิตรในหมู่บ้าน ตกปลา จับแมลง อัพเกรดบ้าน สร้างเฟอร์นิเจอร์ ฯลฯ เข้าใจแล้วว่าทำไมติดอันดับนี้ได้…
4. Monster Hunter 4 Ultimate – 397 ชั่วโมง
คงไม่ต้องอธิบายอะไรมาก เพราะหลายคนก็น่าจะรู้กิตติศัพท์ของซีรีส์นี้เป็นอย่างดี จุดเด่นของเกมนั้นคือการต่อกรกับมอนสเตอร์ทั้งหลายที่มีท่าโจมตี และจังหวะในการรับมือแตกต่างกันไปและนำเศษซากของพวกมันมาทำเป็นอาวุธและอุปกรณ์ที่ทยอยไล่เรียงความเท่และน่าเกรงขามขึ้นไปเรื่อยๆ ตามระดับของแต่ละตัว! ฟันฟาร์มคราฟท์วนไปค่ะ!
3. The Elder Scroll III: Morrowind Game of the Year – 399 ชั่วโมง
ซีรีส์เดียวกันกับ Skyrim หากแต่เป็นภาคที่ออกมาก่อนตั้งแต่ 2002 โดยจุดเด่นของเกมที่เด่นชัดสุดคือผู้เล่นสามารถพาตัวละครของเราสำรวจในดินแดน Morrowind นี้ได้ “ทุกซอกทุกหลืบ” ของฉากแผนที่
2. Monster Hunter Freedom Unite – 411 ชั่วโมง
เกมล่าแย้ที่ลงให้กับบนเครื่องเล่น PSP ที่เพิ่มฟีเจอร์สดใหม่ต่างๆ (ในยุคนั้น) ให้ผู้เล่นได้ขลุกอยู่กับเกมมากกว่าเดิมทั้งอาวุธใหม่, ภารกิจใหม่, มอนสเตอร์ตัวใหม่ ฯลฯ
1. Monster Hunter 3 Ultimate – 693 ชั่วโมง
เกมล่าแย้ที่แรกเริ่มได้ลงให้กับเครื่องเล่น Wii ฉะนั้นกราฟิกที่ผู้เล่นได้รับจึงถูกอัพเกรดขึ้นจากฉบับเครื่องเล่นเกมพกพา (Handheld) มาพอสมควร แถมในภาคนี้ผู้เล่นยังสามารถต่อสู้กับมอนสเตอร์ในน้ำได้อีกด้วย
Credit: How Long to Beat