PlayStation 4 Pro ก็คือเครื่องเล่นคอนโซล PlayStation 4 ที่มีการอัพสเปคในส่วนของ APU จากเดิม 1.6 GHz 1.84 TFLOP มาเป็น 2.1 GHz 4.2 TFLOP ที่เปิดตัวเมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2016 และเริ่มวางจำหน่ายในวันที่ 10 พฤศจิกายน ปีเดียวกัน ก็นับเป็นเวลา 2 ปีกว่าๆ แล้วที่เครื่อง PS4 Pro โลดแล่นอยู่ในวงการเกมคอนโซลทั้งในบ้านเราและในต่างประเทศ
แต่วันนี้ผมจะมากล่าวถึง 3 ความเชื่อผิดๆเกี่ยวกับ PS4 Pro กันครับ
ถ้าไม่มี TV 4K จะไม่สามารถใช้งาน PS4 Pro ได้
ฟังดูเหมือนเป็นเรื่องตลก แต่ก็มีคนจำนวนไม่น้อยที่ยังมีความเชื่อว่า ถ้าที่บ้านไม่มี TV ระดับ 4K HDR อะไรพวกนี้ จะไม่สามารถใช้งาน PS4 Pro ได้เลย ซึ่งความจริงแล้ว TV อะไรก็ตามที่มีพอร์ต HDMI และความละเอียดแค่ระดับ FullHD 1080p ก็สามารถใช้งานกับ PS4 Pro ได้แล้วครับ และเอาจริงๆ PS4 Pro เองไม่ได้แสดงผลได้ระดับ 4K แท้ แต่เป็นการ UpScale เท่านั้น (บางเกมก็เป็น 4K แท้นะครับ เช่นเกมฟุตบอลตระกูล FIFA หรือ PES) แต่การใช้งานกับ TV 4K นั้นมันจะให้รายละเอียดภาพได้ดีกว่า (แต่ต้อง TV 4K ตัวท็อปๆด้วยนะ OLED ด้วยยิ่งดีเยี่ยม) อีกทั้งถ้า TV รองรับระบบ HDR หรือ High Dynamic Range คือการสร้างภาพให้แสงระหว่างความมืดและความสว่างให้มันมีความสมดุลอยู่ในภาพเดียวกัน ก็จะให้ภาพที่สวยงามเพิ่มขึ้นไปอีก
PS4 Pro ร้อนมาก ถ้าเล่นเกมหนักๆ จะพังได้
จริงๆ ความร้อนเป็นเรื่องปกติของอุปกรณ์ใดๆก็ตามที่มีการประมวลผลอยู่แล้ว ซึ่งในเครื่อง PS4 Pro จะมีพัดลมระบายความร้อนขนาดใหญ่อยู่ภายในตัวเครื่องอยู่แล้ว และทำงานตามอุณหภูมิ ความร้อนยิ่งสูง พัดลมก็ยิ่งหมุนเร็ว เพื่อไล่ความร้อนไม่ให้สะสมในตัวเครื่อง แต่ก็แลกมาด้วยเสียงพัดลมที่ดังขึ้น (เรื่องปกติอีกเช่นกัน) ซึ่งระบบระบายความร้อน ทางวิศวกรคงคำนวณมาแล้วล่ะครับ วางใจได้ว่าไม่พังแน่นอน แต่อยู่ที่การตำแหน่งการจัดวางของท่านมากกว่า ว่ามีเหมาะสมหรือมีอากาศถ่ายเทหรือไม่ บางคนเอาไปซุกอยู่ในตู้ที่ด้านหลังทึบๆ จนความร้อนจากเครื่องระบายออกไม่ได้ แบบนั้นก็พังสิครับ!!
PS4 Pro กราฟิคไม่ต่างจาก PS4 รุ่นปกติหรือ Slim
อันนี้อยากให้มองเป็นเกมๆ ไปครับ บางเกมไม่ต่าง แต่บางเกมก็ต่างกันอย่างสิ้นเชิง โดยเฉพาะวัตถุระยะไกลๆ PS4 Pro จะให้รายละเอียดที่ชัดเจนกว่า และบางเกมก็ได้เฟรมเรตที่แตกต่าง ซึ่งเกม PS4 ในยุคหลังๆ นั้นจะมีโลโก้ PS4 Pro Enhanced ซึ่งเราสามารถที่จะเลือกได้ว่า คุณเลือกที่จะ “เน้นเฟรมเรต” หรือ “เน้นความละเอียดของกราฟิคเป็นหลัก” ซึ่งเป็นข้อแตกต่างที่ชัดเจนระหว่าง PS4 Pro กับ PS4 รุ่นปกติหรือ Slim ครับ เพราะตัวปกติกับ Slim จะไม่มี Option ดังกล่าว นอกจากนี้ PS4 Pro ยังมีโหมด Super Sampling สำหรับคนที่ใช้จอต่ำกว่า 2K เพื่อให้รายละเอียดที่คมชัดมากขึ้น
ดังนั้นคุณอย่าเพึ่งไปเชื่ออะไรจากคำบอกเล่า จนกว่าคุณจะได้ลองซื้อ แล้วสัมผัสด้วยตัวคุณเองครับ!!
ที่มา: Loftgame