สวัสดีท่านผู้อ่านทุกท่านครับ ในงาน CES 2019 ที่เพิ่งผ่านมาเมื่อเช้านี้ Nvidia ได้มีการเปิดตัวการ์ดจอรุ่นใหม่ ที่ช่วงหลังๆ มีข่าวหลุดออกมา นั้นก็คือ GeForce RTX 2060 นั้นเอง แน่นอนว่าตัวการ์ดนั้นจะต้องมีความแรงที่มากกว่า GTX 1060 และราคาต้องไม่สูงจนเกินไป เนื่องจากว่าเป็นการ์ดจอระดับกลางๆ แต่จากข้อมูลที่ได้มาในงานเปิดตัว ดูเหมือนว่าเจ้า RTX 2060 นั้นจะมีความแรงที่ไม่น้อยหน้าไปกว่าการ์ดรุ่นใหญ่ๆอย่าง GTX 1080 กันเลยทีเดียว
นอกจากนั้นแล้วภายในงาน CES 2019 ก็ยังมีการเปิดตัว Gaming Laptops รุ่นใหม่ที่จะใช้เจ้า GeForce RTX เป็นขุมพลัง และมีการ Update ให้จอทั่วๆ ไปที่ใช้ Free Sync สามารถใช้ G-Sync ได้อีกด้วยครับ
GeForce RTX 2060 นั้นมาพร้อมกับ 1,920 CUDA cores, 240 Tensor Cores, 30 RT Cores, 52 Teraflops, 6GB GDDR6 และมี Clock Speed สูงสุดอยู่ที่ 1.68 GHz โดยมาพร้อมกับเทคโนโลยีใหม่ Deep Learning Horsepower ที่จะทำให้การเล่นเกมไหลลื่นยิ่งขึ้นขณะเปิดโหมด RTX นั้นก็คือ Deep Learning Super Sampling หรือ (DLSS) นั้นเองครับ
โดยเจ้า DLSS นั้น สำหรับคนที่ไม่รู้ก็คือ การใช้หน่วยประมวลผล Tensor Core ที่มีอยู่ในการ์ดจอ RTX ที่ใช้สถาปัตย์ Turing โดยมันจะทำการปรับความละเอียดภาพที่ในหลายๆ เฟรมให้มีความสวยงาม และคมชัดยิ่งขึ้นโดยใช้ AI ทำให้ภาพสวยงามแต่ไม่ใช้ประสิทธิภาพมากจนเกินไป และดูเหมือนว่า Nvidia จะได้นำเอา 2 ฟีเจอร์นี้มาใช้ร่วมกัน ทำให้ถ้าหากเราเปิด RTX และ DLSS พร้อมๆ กัน ก็จะทำให้ภาพที่สวย และ Frame Rate ที่ดีขึ้นครับ
โดยเกมแรกๆ ที่จะใช้ DLSS นั้นก็เป็นเจ้า Battlefield V ตามเคย แน่นอนว่าทาง DICE ได้ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี โดยจะมีการปล่อย Update ให้ตัวเกมรองรับการใช้ DLSS เร็วๆ นี้ จากผลทดสอบที่ Nvidia ได้อ้างไว้ ก็คือสามารถเล่นเกม Battlefield V โดยใช้ RTX 2060 เปิดโหมด RTX On และ DLSS ทำให้ได้ Frame Rate พอๆ หรือเท่ากันแบบ RTX Off เลยทีเดียว งานนี้จะจริงหรือโม้ ก็ต้องรอดูกันครับ
มาพูดถึงเจ้า RTX 2060 กันบ้าง ตอนนี้ยังไม่มีสเป็คที่ออกมาอย่างเป็นทางการแบบเต็มหน้ากระดาษให้เราได้เปรียบเทียบกันนัก แต่ Nvidia ได้พูดเลยว่า RTX 2060 นั้น แรงกว่า GTX 1070Ti เสียอีก ซึ่งไอ่เจ้า 1070Ti นี่ความสามารถมันก็เท่ากับ GTX 1080 เลยหากทำการ Overclock เพิ่มขึ้นไปนิดหน่อย แบบนี้จะพูดว่า RTX 2060 แรงกว่า GTX 1080 ก็อาจจะพอได้อยู่บ้าง
แต่ช้าก่อน ในเมื่อ Nvidia บอกว่า RTX 2060 มันแรงว่า GTX 1070Ti ผมก็ขอนำเอาสเป็คของเจ้า 2 ตัวนี้มาเปรียบเทียบกันนิดหน่อย GTX 1070Ti มี CUDA Core อยู่ที่ 2,432 แต่ RTX 2060 นั้นมี 1,920 แต่ แน่นอนว่า 1070Ti ไม่มี RT Core หรือ Tensor Core แถม RTX 2060 ยังมีแรม GDDR6 และแน่นอนราคาที่ถูกกว่ามาก งานนี้จะเรียกว่าแรงกว่าก็คงไม่ผิดนัก
Tensor Core มันคืออะไร สำหรับคนที่ยังไม่รู้ มันก็คือเทคโนโลยีใหม่ของ Nvidia โดยที่จะใช้ GPU ทำหน้าที่ “deep learning (หรือ AI)” โดยจะช่วยประมวลผลภาพออกมาโดยใช้ AI เป็นตัวช่วยเหลือ ซึ่งตรงนี้มันจะมีผลมากกับงานประเภท Video Graphics ต่างๆ แต่สำหรับวงการเกมถือว่ายังใหม่อยู่มากๆ และเจ้า DLSS ก็ถือว่าเป็นเทคโนโลยีการใช้ AI ช่วยเหลือในการประมวลผลภาพใน Video Game เลยล่ะครับ โดย เจ้า GeForce RTX จะมีเทคโนโลยีใหม่ๆทั้งหมดที่ว่ามา ด้วยการที่เทคโนโลยีนี้มันยังใหม่มากๆ เราจึงไม่ค่อยเห็นบทบาทมันสักเท่าไรในวงการเกม ณ เวลานี้
นอกจากนั้นแล้วภายในงานก็มีการเปิดตัว Gaming Laptops รุ่นใหม่ๆที่จะใช้ GeForce RTX เป็นการ์ดจอหลัก โดย Nvidia ได้บอกไว้เลยว่า Gaming Laptop ตัวใหม่ที่ใช้ RTX 2080 จะสามารถเล่น Battlefield V RTX On โดยมี Frame Rate ที่มากกว่า 60FPS สามารถ 6K RED Video Editing ได้ และยังทิ้งท้ายไว้อีกกว่า แรงกว่า PS4 Pro 2 เท่าอีกด้วย ภายในงานมีการนำเอาเจ้า MSI GS65 Stealth ออกมารัน Battlefield V RTX On โชว์แบบสดๆกลางเวที โดยจุดที่น่าสนใจก็คือตัวเครื่องมันบางมากๆครับ
นอกจากนี้แล้ว G-Sync เองก็จะได้รับการ Update เช่นกัน หากยังจำกันได้ เทคโนโลยี G-Sync นั้นจะถูกใช้โดยหน้าจอ Monitor ที่รองรับการใช้งาน G-Sync เท่านั้น ซึ่งมันก็มีราคาที่แสนแพงเอาเสียมากๆ จนในระยะหลังๆ ได้มีจอ FreeSync โผล่ออกมามากมาย โดยมีความสามารถคล้ายๆ กัน แต่มีราคาที่ถูกกว่ามากๆ แต่ล่าสุดวันนี้ Nvidia ได้ประกาศจะ Update Monitor FreeSync อื่นๆให้รองรับการใช้งาน G-Sync ครับ โดย Nvidia จะทำการออก Driver มาในวันที่ 15 มกราคม 2019 โดยขณะนี้ทำการทดสอบไปแล้ว 400 ตัว มีอยู่ 12 ตัวที่ผ่านการทดสอบแบบไม่มีปัญหาใดๆ แต่ Nvidia ก็จะสามารถให้ผู้ใช้งานสามารถเปิดใช้ G-Sync ผ่าน Driver ได้อยู่ดี
และนี่คือทั้งหมดของงาน CES 2019 ครับ GeForce RTX 2060 ได้ประกาศวางจำหน่ายโดยมีราคาที่ไม่สูงมาก 349$ หรือ 11,200 เท่านั้น เปรียบเทียบกับ GTX 1070Ti ที่มีราคาอยู่ที่ 449$ หรือ 15900 บาท ตรงนี้ผมค่อนข้างเซอร์ไพรส์เล็กน้อย ด้วยราคาระดับนี้ งานนี้สาวกค่ายเขียวอาจจะถูกใจกันบ้าง อีกทั้งตัวการ์ดยังแพคคู่มาพร้อมกับ Battlefield V หรือ Anthem อีกด้วย !!
ตัวการ์ดจะวางขายวันที่ 15 มกราคม 2019 นี้ หากมีผลทดสอบออกมาอย่างเป็นทางการเมื่อไร ทาง Beartai จะรีบมารายงานให้ทันทีครับ