สวัสดีผู้อ่านทุกท่าน !! วันนี้เป็นวันที่ 3 แล้วที่พวกเราทีมงาน Beartai.com ได้เข้าร่วมมหกรรมเกมโชว์ที่ยิ่งใหญ่ระดับโลกอย่าง Taipei Game Show 2019 หลังจากที่เราได้ลอง Demo The Division 2 กันไปแล้ว คราวนี้ก็มาถึงตาสัมภาษณ์ทีมงาน Development กันบ้าง !!
พวกเรา Beartai.com ได้รับเชิญจาก Ubisoft ให้เข้าสัมภาษณ์คุณ James Norris Senior Game Designer ของ Tom Clancy’s The Division 2 โดยมีทีมงานจากเว็บเว็บไซต์ GamingDose และ Thaigamewiki เข้าร่วมการสัมภาษณ์ในครั้งนี้พร้อมๆกัน
จากบทสัมภาษณ์ คุณ James ได้ให้ข้อมูลใหม่ๆมากมายและคลายข้อสงสัยที่อัดอั้นใจมานาน อีกทั้งตัวเขาเองยังเป็นแฟนเกมนี้ตัวยง ก่อนที่จะได้รับโอกาสจาก Ubisoft ให้มาพัฒนาภาคต่อของเกมที่เขารัก The Division 2
“ผมเคยลาหยุดงานไป 3 วันเพื่อมานั่งเล่น The Division อย่างหนัก ก่อนที่ Ubisoft จะเข้ามาชื้อบริษัทผม และทำให้ผมมีส่วนในการพัฒนา The Division 2 ผมตื่นเต้นมากๆเลยล่ะ” James Norris
สำหรับ The Division 2 นั้น คุณ James Norris ได้ยืนยันว่าจะมีคอนเทนต์ใหม่ๆเข้ามา และแก้ไขสิ่งปรับปรุงจากตัวเกมภาคแรกอย่างแน่นอน เรื่องแรกก็คือการที่ตัวเกมจะใช้หน้าร้อนของ Washington DC เป็นสถานที่เล่าเรื่อง โดยเรื่องราวทั้งหมดจะเกิดขึ้นหลังจากเหตุการณ์ในภาคแรก 7 เดือน โดยคุณที่เป็น The Division Agent จะต้องหาทางยึดเมืองคืนมาให้ได้
และทำไมถึงต้องเป็น Washington DC ??
คุณ James ได้บอกว่า Washington DC นั้นเป็นสถานที่สำคัญของชาวอเมริกา มันมีสถานที่ชื่อดังอยู่มาก และมันน่าจะสร้างบรรยากาศให้ผู้เล่นรู้สึกได้ถึงอเมริกามากที่สุด จากเดิมนั้นในเกมภาคแรก New York เองก็เป็นสถานที่ Iconic อยู่เช่นกัน โดยทีมงานได้นำเอาตัวเมืองมาปรับแต่งให้ดูวินาศสันตะโรตามความน่าจะเป็นของเหตุการณ์ Outbreak ในเกมภาคแรก
แต่ Washington DC ใน Division 2 นั้นจะเป็นมากกว่าคำว่าวินาศสันตะโรครับ เพราะครั้งนี้ตัวเกมดำเนินเรื่องอยู่ในช่วงฤดูร้อน ด้วยฉากที่กว้างกว่าเดิม ผู้คนต่างใช้ชีวิตแบบไม่สนกฎหมาย ระบบนิเวศที่พังทลาย ไม่มีการดูแลตัวเมืองอีกต่อไป มีต้นไม้ขึ้นมากมาย และมีน้ำขังอยู่ในเมือง ทั้งหมดนี้ทีมงานคิดว่ามันจะมอบประสบการณ์ใหม่ๆให้ผู้เล่นได้อย่างแน่นอน
เป็นที่ยืนยันว่ามีศัตรูฝ่ายใหม่ถูกเพิ่มเข้ามาแน่นอน เริ่มต้นที่ฝ่าย True Sons ที่เคยเป็นทหาร JTF มาก่อน โดยมีอุดมการณ์ที่ต้องการจะฟื้นฟูระบบสังคมหรือระบบนิเวศของมนุษย์ขึ้นมาใหม่จากเหตุการณ์ในภาคแรก แต่พวกเขาตัดสินใจที่จะเทกโอเวอร์ทั้งหมดแทน ฝ่าย Outcasts คือผู้ที่ติดเชื้อไวรัสที่ถูกนำตัวไปรักษาที่เมือง แต่กลับเกิดเรื่องผิดพลาดขึ้น ทำให้พวกเขาไม่พอใจเป็นอย่างมาก
และฝ่ายสุดท้ายก็คือฝ่าย Hyena พวกเขาเป็นพวกชอบขโมยของคนอื่น และพวกเขาจะฆ่าทุกๆคน รวมไปถึงคุณ พวกเขาไม่สนใจอะไรเลย นอกจากความสนุกก็เท่านั้น
แน่นอนว่าแต่ละฝ่ายนั้นจะมีความสามารถทางการต่อสู้ที่แตกต่างกันไป และจากใน Demo ที่พวกเราได้ลองเล่นกันนั้น เราได้เห็นอาวุธชนิดใหม่ของฝ่าย True Sons ที่ต้องบอกว่าโคตรขี้โกงมากๆ ผู้เล่นต้องปรับใช้แผนการต่อสู้ให้เข้ากับสถานการณ์อยู่ตลอดเวลา และแน่นอนว่าคลังแสงของผู้เล่นก็ถูกปรับปรุงขึ้นเช่นกัน
และอย่างที่รู้ๆกันว่านอกจาก The Division แล้ว มันยังมีเกมแนวๆเดียวกันอยู่อีกมากมาย ถ้าจะให้ยกตัวอย่าง ก็เช่นพวก Destiny หรือ Warframe และอะไรคือสิ่งที่ The Division 2 นั้นแตกต่างและโดดเด่นมากกว่าเกมอื่นๆ
โดยคุณ James ได้แสดงความคิดเห็นถึงเรื่องนี้ว่า
“ผมคิดว่าจุดเด่นของเราก็คือ Dark Zone ที่ทำให้แตกต่างจากเกมอื่นๆ”
โดยในภาคนี้เราจะมี Dark Zone แบ่งออกไปเป็น 2 แบบ อย่างแรกคือ Dark Zone ที่จะรวมเอาผู้เล่นมาอยู่ด้วยกัน โดยทำการ Sync Gear Level เข้าหากัน ทำให้ไม่มีใครได้เปรียบกว่า และต้องใช้ Skill Play ล้วนๆ
กับแบบที่สอง นั้นคือ Dark Zone ที่เป็นแบบดั้งเดิม สำหรับผู้ที่ชอบความโหดและท้าทาย จะไม่มีการ Sync Gear อะไรกันทั้งสิ้น แต่เราก็ยังไม่ได้รับการยืนยันอะไรจากคุณ James มาว่าแล้วทั้ง 2 โหมดจะมีอัตราการดรอป Item ที่เท่ากันหรือไม่ เพราะอย่างไรก็ตาม DZ แบบ Sync Gear Level มันจะ Fair Play มากกว่า
ในเกมภาคแรก สิ่งที่ผู้เล่นหลายคนบ่นกัน ก็คือเรื่อง End Game Content ที่ออกแบบมาให้ Grinding เสียส่วนมาก ตรงนี้คุณ James ได้ยืนยันเลยว่า End Game Content ของ Division 2 นั้นจะถูกปรับปรุงขึ้นจากเกมภาคแรกอย่างแน่นอน เมื่อผู้เล่นไต่ไปถึง Level 30 ตัวเกมจะมอบประสบการณ์ช่วง End Game ให้ผู้เล่นตั้งแต่ Day 1 เลยทีเดียว
ก็อย่างที่รู้กันว่าใน The Division 2 นั้นตัวเกมได้เพิ่มระบบ Specialization เข้ามา ทำให้สร้างความหลากหลายในการเล่น และคุณ James ยังทิ้งท้ายไว้อีกว่าในภาคนี้จะมี Raid ที่จะต้องร่วมทีมกับผู้เล่นคนอื่นๆในการทำภาระกิจให้สำเร็จ สำหรับใครที่เล่น MMO มาบ้าง ก็จะรู้กันเลยว่า Raid คือ Content ที่ MMO ทุกเกมควรมี และมันเป็น Content ระดับ Hardcore อีกด้วย
“คุณสามารถจบเนื้อเรื่องและส่วนอื่นๆของเกมได้ทั้งหมด ในแบบ Solo”
มีหลายคนที่ชอบเล่น The Division แบบ Solo ตรงส่วนนี้คุณ James ได้ยืนยันว่าผู้เล่นสามารถเข้าถึง Content ทุกอย่างในเกมได้ด้วยตัวคนเดียว แต่ยกเว้น Raid ที่แน่นอนว่ามันยากเกินไป แถมยังบอกอีกว่า ตัวเขาเองก็ชอบเล่น Solo เช่นกัน เพราะฉะนั้นจึงมั่นใจได้เลยว่าใน The Division 2 นั้นจะเป็นมิตรกับ Solo Agent แน่นอนครับ
แล้วผู้เล่นหน้าใหม่ล่ะ
คุณ James เข้าใจถึงเรื่องนี้ดี ไม่ว่าคุณจะเคยเล่นเกมภาคแรกหรือไหม คุณก็สามารถสนุกกับ The Division 2 ได้ ตัวเกมจะมีระบบ Tutorial ที่จะสอนพื้นฐานให้ผู้เล่นเข้าใจก่อนเริ่มเกม และแน่นอนคือระบบ Clan ที่ถูกเพิ่มเข้ามาใหม่ที่จะช่วยสร้างสังคมใหม่ๆ และคอยช่วยเหลือผู้เล่นหน้าใหม่ๆที่เพิ่งเข้ามาเล่นในเกม และแน่นอนว่ายังมีระบบ Clan Reward ที่ยังไม่ได้เปิดเผย ณ เวลานี้อีกด้วย
มาพูดถึงเรื่อง DLC กันบ้าง ก่อนหน้านี้ Ubisoft ได้ออกมาบอกแล้วว่า Year 1 Content ของตัวเกมทั้งหมด จะปล่อยให้ผู้เล่นทุกคนอย่างฟรีๆ โดยคาดว่าคนที่ชื้อ Year 1 Pass ก็จะมีสิทธิ์เข้าถึง Content เหล่านั้นก่อน 2 สัปดาห์ และได้รับสิทธิ์ VIP Premium ซึ่งตรงนี้มันก็เหมือนกับ Rainbow Six Siege ที่ใช้แผนการตลาดแบบนี้ และประสบความสําเร็จเป็นอย่างมาก
ในตัวเกมภาคแรกนั้น DLC ที่ผู้เล่นชอบเป็นอย่างมาก นั้นก็คือ Survival และ Underground เราจึงได้ยิงคำถามไปว่า จะพอมีโอกาสที่จะได้เห็นโหมดเหล่านั้นกลับมาใน Division 2 หรือไม่
คุณ James ได้บอกว่าตัวเขาเองยังไม่สามารถยืนยันได้ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่ามันจะเป็นไปไม่ได้ แต่สิ่งที่เขายืนยันได้ก็คือ ใน Year 1 Content นั้นตัวเกมจะประกอบไปด้วย 3 Expension ใหญ่ๆ ที่จะถูก Update เข้าไปในเกมแบบฟรีๆ แต่เขาไม่สามารถพูดถึงมันได้มากนัก ณ เวลานี้ และยังทิ้งท้ายว่าเขาจะสนับสนุน The Division 2 ไปอีกนาน ตราบใดที่มันประสบความสำเร็จครับ
แล้ว Loot Box ล่ะ ??
ใน Division ภาคแรกนั้น ระบบ Loot Box มันไม่ได้เป็นตัวปัญหาอะไรมากมาย เพราะเอาเข้าจริงมันก็คือ Cosmetic Item ที่ไม่ส่งผลต่อการเล่นอะไรหรอกครับ
คุณ James ก็ยืนยันว่าใน Division 2 จะมีระบบนี้เช่นกัน แต่สบายใจได้ เพราะจะไม่มีการนำเอา Item ที่เพิ่มความสามารถให้ตัวละครมาขายเพิ่มเป็นเงินจริง หรือเอาไปใส่ Loot Box แน่นอน
และว่าด้วยเรื่อง Cosmetic ตัวเกมภาคแรกนั้นค่อนข้างจำกัดในเรื่องการแต่งตัว และแน่นอนการสร้างตัวละคร ตรงนี้คุณ James ได้ให้ความเห็นว่าเขาต้องการให้ตัวเกมยังคงความรู้สึกสมจริงอยู่ หากตัวละครสามารถใส่อะไรได้มากเกินไป มันก็คงจะไม่ถูกหลักมากนัก และโดยรวมแล้วระบบการสร้างตัวละคร หรือ การแต่งตัวก็น่าจะเป็นแบบเดิมในภาคแรกครับ
The Division นั้นเป็นเกมที่มีปัญหาใหญ่ๆอยู่ 2 เรื่อง นั้นก็คือ Server และ Hacker ตรงนี้คุณ James ได้ให้ความเห็นไว้น่าสนใจมาก
พวกเขามีการปรับปรุงโครงสร้างของเกมใหม่ โดยต่อไปนี้ตัวเกมจะทำการส่ง Data ทั้งหมดโดยใช้ระบบ Server to Client ไม่ใช่ Client to Server แบบเกมภาคแรก นั้นหมายความว่าต่อไปนี้การกระทำทุกอย่างที่เกิดขึ้นภายในเกมจะถูกคำนวนโดย Server และส่งเข้ามาที่ Client ของผู้เล่น ทำให้ง่ายต่อการตรวจจับการโกงได้นั้นเอง
“เรารู้ว่าเรื่องพวกนี้มันเป็นปัญหาในตัวเกมภาคแรก เราได้เรียนรู้และพยายามจะแก้ไขมันใน Division 2” James Norris
นอกจากเรื่อง Server และ Hacker แล้ว สิ่งที่ผู้เล่นหลายๆคนบ่นเข้ามา ก็คือเรื่องความไม่ยุติธรรมของการต่อสู้ใน Dark Zone มีผู้เล่นส่วนมากที่ถูกจัดการโดยไร้ทางสู้ ตรงนี้ทีมงานได้มีการปรับรูปแบบ Dark Zone ใหม่
อย่างแรกเลยคือ ระบบ Sync ที่ได้พูดถึงไปแล้วก่อนหน้านี้ และทีมงานได้ทำการปรับฉากให้แคบลง พร้อมกับจำกัดจำนวนผู้เล่นให้เหลือ 12 คนต่อ 1 Session และเรื่อง Gear ใน Dark Zone ที่ต่อไปนี้ผู้เล่นมีโอกาสจะได้รับ Item ที่ไม่เปื้อนเชื้อโรค และไม่จำเป็นต้องเอาไป Extraction ก่อนที่จะเอามาใช้ได้ครับ
และเรื่องสุดท้ายที่คิดว่าหลายๆคนน่าจะอยากรู้มากที่สุด ก็คือตัวเกมจะมีโหมด Battle Royale มาให้เราได้เล่นกันหรือไม่ และจากส่วนตัวผมแล้วรู้สึกว่า เทรนเกม Battle Royale มันเริ่มจะอยู่ในช่วงขาลงมากกว่า
คุณ James ก็ได้ให้ความคิดเห็นไว้ว่า “ยังไม่มีแผนสำหรับ Battle Royale ใน The Division 2” ลำพังแค่โหมดการเล่น PVP , PVE , Raid และระบบอื่นๆมากมาย ก็น่าจะมอบความหลากหลายที่ทำให้ผู้เล่นพอใจกันได้แล้ว หรือเอาง่ายๆก็คือไม่มีนั้นแหล่ะ
แรงบันดาลใจที่จะสร้าง The Division 2 ของคุณ James นั้น ได้บอกไว้ว่ามันเป็นเรื่องราวที่น่าสนใจมากๆ เป็นคุณจะทำยังไงหากเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นมันกลายเป็นเหตุการณ์จริง และยังมีอีกมากมายที่คงพูดได้ไม่หมด เพราะเวลาคงไม่พอ หากจะพูดถึงแรงจูงใจที่ทำให้เขาสร้างโลกออกมาแบบนี้ครับ
จากนั้นสื่อไทยได้ตั้งคำถามสุดท้ายไปว่า “มีอะไรจะฝากถึงแฟนๆชาวไทยหน่อยไหม” แล้วคุณ James ก็เงียบไปสักพัก ก่อนที่จะพูดว่า