หลายคนมองว่าเกมเป็นเครื่องเล่นที่มีไว้สำหรับเด็กเท่านั้น ทำให้ผู้ใหญ่หลายๆ คนต้องหันหลังให้กับเครื่องเล่นเกมแล้วก้าวเข้าสู่กิจกรรมอื่น แต่คุณรู้หรือไม่ว่าความจริงแล้วยังมีผู้ใหญ่อีกหลายคนที่เค้ายังคงนั่งเล่นเกมกันอยู่!
ในปัจจุบันนี้ความก้าวหน้าของอุตสาหกรรมเกมทำให้เกมมีความสมจริง ภาพ สี เสียง และการเคลื่อนไหวต่างๆ ดูมีชีวิตชีวาและน่าเล่นมากยิ่งขึ้น จึงไม่แปลกใจหากยุคสมัยนี้จะกลายเป็น Golden Age ของเกม งานวิจัยจาก Entertainment Software Association (ESA) พบว่าผู้ใหญ่ชาวอเมริกา 65% ยังคงเล่นเกมอยู่ นั่นหมายความว่าผู้ใหญ่ 164 ล้านคนในอเมริกา (3 ใน 4 ของประชากร) มีเครื่องเล่นเกมอย่างน้อยหนึ่งอย่างอยู่ที่บ้านของพวกเขา และ 93% มีเกมอยู่ในโทรศัพท์มือถือของพวกเขา
tanley Pierre-Louis ผู้บริหาร และ ดำรงค์ตำแหน่งแทนประธาน ESA กล่าวว่า วีดีโอเกมในยุคนี้ถูกพัฒนาให้มีความสนุก และ สมจริงมากยิ่งขึ้น การเล่นช่วยเพิ่มประสบการณ์ เชื่อมความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างมนุษย์และเทคโนโลยี ไม่เพียงเท่านั้นวัฒนธรรมชาวอเมริกัน พวกเขาเล่นเกมสามารถแก้เครียด และ กระชับความสัมพันธ์ภายในครอบครัวได้เป็นอย่างดี
งานวิจัยยังนำเสนอเรื่องจริงที่น่าสนใจอีกอย่าง คือ ผู้ที่เล่นเกมเป็นประจำมีแนวโน้มสมองเสื่อมได้น้อยกว่าคนที่ไม่เล่นเกม รวมถึงความเข้าใจในเกมของผู้ปกครองที่เปลี่ยนไป ผู้ปกครอง 90% รู้ว่าเด็กๆของพวกเค้าเล่นเกมอะไรอยู่ 74% คิดว่าเกมเป็นเรื่องของเด็ก 80% ของผู้ปกครองเข้าใจเรื่องการจัดอันดับเกม และ 46% ของผู้เล่นเกมเป็นผู้หญิง
กลุ่มเป้าหมายที่เปลี่ยนไป และช่วงอายุของผู้เล่นเกมที่มากขึ้นจะยิ่งส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมการผลิตเกมเป็นอย่างมาก แต่ถึงอย่างนั้น การที่คุณโตเป็นผู้ใหญ่นั่นไม่ได้หมายความว่าคุณจะต้องวางคอนโซลเกมลงแล้วเก็บมันไว้ให้ลูกๆ หลานๆ เท่านั้น กลับไปหยิบมันขึ้นมาแล้วปล่อยให้เกมช่วยให้สุขภาพจิตใจของคุณดีขึ้นเถอะ!