เมื่อพูดถึงเกมในซีรีส์ Super Mario เชื่อว่าหลายคนคงจะรู้จักเกมนี้เป็นอย่างดี เพราะไม่ว่าเกมไหนที่มีแปะชื่อหรือมีตัวละคร Mario อยู่ในเกมนั้น มันหมายถึงเกมที่สนุกเพลิดเพลิน เด็กเล่นได้ผู้ใหญ่เล่นดี แถมทุกเกมที่กล่าวมานั้นก็มียอดขายที่สูงชนิดที่เรียกว่าชื่อ Mario ในวงการเกม คือหนึ่งในชื่อที่มีมูลค่าสูงเป็นอันดับต้น ๆ ของโลกเลยทีเดียว แต่ใครจะรู้ว่าภายใต้เงาของความสำเร็จของชื่อ Super Mario นั้นก็มีความล้มเหลวซ่อนอยู่ ขณะที่เรียกว่า Nintendo อยากกลบฝังลืมกันเลยทีเดียว เรามาดูกันว่ามีอะไรบ้างที่เป็น Mario ที่ทาง Nintendo อยากให้เราลืม ถ้าพร้อมแล้วก็ตามมาเลย
Mario Teaches Typing
เริ่มต้นเกมแรกที่ทาง Nintendo อยากให้เราแฟน ๆ เกม Mario ลืม ๆ ไปเสียเกมแรกเลยคือ Mario Teaches Typing เกมที่ถูกพัฒนาบนเครื่อง PC ในปี 1991 โดย Interplay ยุคที่เครื่องคอมพิวเตอร์ยังเป็นของใหม่ในตลาด ทาง Nintendo ที่เล็งเห็นถึงการเติบโตในตลาดคอมพิวเตอร์ จึงสร้างเกม Mario Teaches Typing ขึ้นมาเพื่อสอนเด็ก ๆ และคนที่อยากเรียนการใช้แป้นพิมพ์ของคอมพิวเตอร์ได้ฝึก โดยเราจะได้รับบทเป็น Mario ที่วิ่งในฉากพร้อมกับศัตรูที่มีตัวอักษรติดอยู่ เราก็เพียงแค่กดตัวอักษรให้ทันเพื่อให้ Mario ไปเหยียบศัตรู ซึ่งในยุคนั้นเกมที่สอนการใช้แป้นพิมพ์ถูกสร้างออกมามากมาย และนี่ก็เป็นเพียงแค่หนึ่งในเกมที่ทาง Nintendo ในยุคนั้นต้องการอิงกระแสการตลาดโดยใช้ตัวละครของตัวเองในการขายของ เห็นแบบนี้ก็เถอะเกมมีถึง 2 ภาคเชียวนะ จึงไม่น่าแปลกใจว่าทำไม Nintendo ถึงอยากให้เราลืมเกมนี้ไป เพราะมันค่อนข้างน่าอายที่อดีต Nintendo ต้องเกาะกระแสตลาดที่กำลังเป็นที่นิยมเพื่อขายของ
ถ้าอยากเล่นตอนนี้ จัดไป Mario Teaches Typing ฉบับเล่นบนเว็บ กดไปเล่นได้เลย
Donkey Kong
มาต่อกันที่เกมซึ่งเรียกได้ว่าเป็นเกมเปิดตัวครั้งแรกของ Mario ที่ในตอนนั้นยังชื่อในวงการว่า Jump Man ในเกม Donkey Kong ช่วงปี 1981 ที่เราจะได้รับบทเป็นหนุ่มช่างไม้นาม Jump Man ไปช่วยแฟนสาวนาม Lady (ปัจจุบันถูกแก้ไขเป็นเพื่อนสาวและเปลี่ยนชื่อเป็น Pauline) ซึ่งสิ่งที่ทาง Nintendo ยากให้เราลืมเกี่ยวกับ Mario ไม่ใช่เพราะเขาเป็นช่างไม้หรือชื่อ Jump Man ที่ไม่น่าจดจำ แต่สิ่งที่ Nintendo อยากให้เราลืมก็คือรูปตัวของ Jump Man ในตอนนั้น ที่ถูกวาดออกมาใน Super Sticker Nintendo นั้นตัว Mario เหมือนตัวร้ายมากกว่าพระเอก และที่สำคัญที่สุดคือ ตัวของ Jump Man หรือ Mario ของเรานั้นหัวล้าน(เพราะแบบนี้จึงใส่หมวก) นั่นจึงเป็นสิ่งที่ Nintendo อยากให้แฟนเก่าลืม ๆ มันไป และจดจำ Mario คนใหม่ที่ถูกสร้างขึ้นมา เอาจริง ๆ คงไม่มีใครจำได้หรอก แต่เราเอามาพูดถึงกันเองมากกว่า
Mario’s Game Gallery
ยังคงอยู่บนเกมบนเครื่อง PC ที่ครั้งนี้ Nintendo ยังคงคิดจะเจาะตลาดเกมบนเครื่อง PC และหนึ่งในความพยายามนั้นก็คือเกม Mario’s Game Gallery เกมที่รวมเกม 5 เกมที่เล่นสนุกอย่าง Checkers, Backgammon, Go Fish, Dominoes และ Yacht ซึ่งเราไม่ขอเจาะรายละเอียดว่าเกมเหล่านี้คืออะไรบ้าง เพราะในบ้านเราบางเกมนั้นจัดอยู่ในหมวดหมู่การพนัน และต้องบอกก่อนว่าเกมนี้ไม่ได้ถูกสร้างโดย Nintendo แต่เป็นการขายสิทธิ์ในการสร้างเกมเท่านั้น ตัวเกมก็เหมือนเป็นโลกคู่ขนานที่เราจะได้รับบทเป็นผู้เล่นเกมต่าง ๆ ที่มี Mario เป็นเจ้ามือ ซึ่งแน่นอนว่าเกมนี้มันไม่ได้สร้างชื่อเสียงที่ดีให้กับ Mario เลย จึงไม่น่าแปลกใจว่าทำไม Nintendo ถึงไม่อยากนับเกมนี้ในซีรีส์เป็นหนึ่งในเกมของ Mario เพราะมันจะทำให้ภาพของ Mario เสื่อมเสียนั่นเอง
Mario Clash
สำหรับเกม Mario Clash นั้นจะโทษว่าเป็นที่ตัวเกมเราก็คงจะพูดได้ไม่เต็มปากนัก เพราะเกมนี้คือหนึ่งในความรีบร้อนและพยายามอยากค้นหาความแตกต่างกับเทคโนโลยี 3D ที่ในยุคนั้นมันยังไม่ใช่สิ่งที่พร้อมสำหรับยุคนั้น ซึ่งแม้แต่ในยุคนี้เทคโนโลยี 3D ที่สร้างภาพสามมิติที่นูนออกมา(หรือลึกลงไป) ก็ยังเป็นอะไรที่หลายคนรับไม่ได้ แต่ทาง Nintendo ก็เข็นเครื่อง Virtual Boy ออกมาทั้งที่มันเป็นแค่เกมที่แสดงผลหน้าจอ (ในเครื่อง) แค่สีแดงกับสีดำ และถึงแม้จะเข็นเกมระดับแม่เหล็กอย่าง Mario ลงไปก็ไม่ช่วยให้ยอดขายดีขึ้น ขณะที่ตัวเกม Mario Clash นั้นจัดว่าเป็นเกมที่เล่นสนุกเลยทีเดียว เพราะเราจะได้รับบทเป็น Mario เจ้าเก่า ที่ต้องเอาเต่าในฉากมากำจัดศัตรูให้หมด ตัวเกมมีทั้งหมด 20 ด่านที่มีมิติลึกและเล่นสนุกเพลินเลยทีเดียว และเกมนี้ก็เป็นหนึ่งในเกมที่เราอยากให้เอาลงเครื่อง 3DS ซึ่งเคยมีการประกาศสร้างแต่ไม่มีเกมจริง ๆ ออกมานับว่าน่าเสียดายมาก ๆ
Hotel Mario
ถ้ามีการจัดอันดับเกมในซีรีส์ Mario ที่ทาง Nintendo อยากลืมมากที่สุดต้องมีเกม Hotel Mario อยู่ในอันดับต้น ๆ อย่างแน่นอน เพราะทั้งตัวเกมที่ถูกสร้างออกมาซึ่งเล่นได้ไม่สนุกเลยแล้ว ตัวเครื่องเกมที่ทาง Nintendo เลือกลงให้ก็เป็นหนึ่งในความผิดพลาดครั้งใหญ่ที่สุดของ Nintendo เพราะเกม Hotel Mario นั้นลงบนเครื่อง Philips CD-i เครื่องเกมที่ทาง Nintendo หักหลัง Sony แล้วไปจับมือกับ Phillips เพื่อสร้างเครื่องเกมตัวใหม่ในตลาด และเกม Hotel Mario คือหนึ่งในเกมที่เปิดตัวมาพร้อมกับเครื่อง Phillips CD-i ที่ตัวเกมเปิดมาด้วยภาพการ์ตูนของ Mario ที่สวยงาม ก่อนที่จะตัดเข้าสู่ตัวเกมที่เราจะได้รับบทเป็น Mario ที่ต้องทำการปิดประตูในฉากให้หมดก็จะผ่านด่าน ตัวเกมไม่มีอะไรพิเศษหรือน่าสนใจเลย จึงนับเป็นเกมที่สร้างรอยด่างให้กับ Nintendo และชื่อ Mario มากที่สุดเกมหนึ่งเลยทีเดียว แบบนี้ต้องเรียกว่าน่าอายทั้งเครื่องที่ทำลงและตัวเกมเลยทีเดียว
Mario Is Missing
ย้อนกลับไปในช่วงปี 1988 Nintendo ได้ออกใบอนุญาตในการสร้างเกมสำหรับงานทางด้านการศึกษา และเกม Mario Is Missing คือหนึ่งในเกมที่เกิดขึ้นมาจากโครงการนี้ ที่พัฒนาและเผยแพร่โดย The Software Toolworks ในปี 1993 ที่ลงทั้งเครื่องเกมของ Nintendo และ PC รวมถึงเครื่อง Macintosh โดยเกม Mario Is Missing เราจะได้รับบทเป็น Luigi ตัวละครน้องชายที่เปิดเกมมาเราก็จะเห็น Mario หล่นลงมาจากฟ้าตกลงมาที่หน้าปราสาทของ Bowser ที่ Luigi กับ Yoshi ยืนอยู่ ก่อนที่ Mario จะหล่นลงไปในหลุมอีกครั้ง Luigi จึงต้องบุกปราสาทเพื่อช่วยพี่ชาย และอย่างที่เราบอกไปตอนต้น ว่าเกมนี้ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อการศึกษา แต่คนที่ซื้อไปยุคนั้นคงจะไม่ทราบ เพราะตัวเกมแทบไม่มีอะไรเลย นอกจากการเดินไปตามเมืองต่าง ๆ ทั่วโลก เพื่อพูดคุยหาเบาะแสเกี่ยวกับสถานที่สำคัญประวัติศาสตร์ในสถานที่นั้น ๆ และก็เปิดทางไปต่อ ดังนั้นเลิกคิดถึงความสนุกไปได้เลย และเมื่อมันวางจำหน่ายกระแสตอบรับจึงค่อนข้างแย่จนทาง Nintendo อยากจะลบเกมนี้ออกไปจากความทรงจำของตนเอง และนี่ก็เป็นครั้งแรกที่ Luigi เป็นตัวเอกในซีรีส์ Mario เต็มตัวครั้งแรกอีกด้วย
Mario’s Time Machine
Mario’s Time Machine ก็เป็นอีกหนึ่งเกมที่ทาง Nintendo ให้บริษัทภายนอกสร้างเกมในชื่อ Mario เพื่องานทางด้านการศึกษา และเมื่อตัวเกมถูกสร้างมาเพื่อวางจำหน่ายบนเครื่องเกม มันจึงถูกนับเป็นเกมไปในทันที โดยในครั้งนี้เราจะได้รับบทเป็น Mario ที่ไปบุกปราสาท Bowser ที่ได้ขโมยวัตถุโบราณที่มีอยู่จริง ๆ ทั่วโลกไปเก็บไว้ เราในฐานะฮีโร่จึงต้องเดินทางข้ามเวลาไปในยุคสมัยที่มีของชิ้นนั้นอยู่ เพื่อเรียนรู้ประวัติศาสตร์ผ่านทางตัวหนังสือว่ามีอะไรเกิดขึ้นบ้าง และอย่างที่บอกไปในเกมที่แล้วว่าตัวเกมภาคนี้คือเกมเพื่อการศึกษา แต่ในเมื่อมันคือเกมจึงมีการควบคุมตัวละคร(เป็นการเดินทางข้ามเวลา) ที่เราจะได้ควบคุม Mario เก็บของและเดินไปมาในฉาก และแน่นอนว่าคนที่ซื้อเกมนี้เพราะมันคือ Mario ต่างก็คงจะบ่นว่ามันเล่นไม่สนุกเอาเสียเลย
Super Mario Bros 2
สำหรับเกม Super Mario Bros 2 ในฉบับภาษาอังกฤษนั้น ไม่ถือว่าเป็นเรื่องเลวร้ายที่ไม่น่าจดจำของซีรีส์ Mario แต่มันก็เป็นหนึ่งในรอยด่างเล็ก ๆ ของเกมในซีรีส์นี้ ที่ตัวเกมมันไม่ได้พัฒนาเกมใหม่ลงวางขาย แต่เป็นการเอาเกมอื่นมาเปลี่ยนตัวละครเพื่อวางขาย ซึ่งเรื่องนี้เกิดขึ้นมาจากทาง Nintendo อเมริกาเห็นว่าตัวเกม Super Mario Bros 2 ของฉบับญี่ปุ่นนั้นแทบไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปจากภาคแรกเลย จนกลัวว่าแฟน ๆ เกมชาวมะกันจะไม่ชอบ ทาง Nintendo เลยเอาเกม Yume Kojo Doki Doki Panic มาดัดแปลงเป็นเกม Super Mario Bros 2 โดยเปลี่ยนชื่อตัวละครจาก Imajin, Mama, Lina และ Papa เป็น Mario, Luigi, Princess Toadstool และ Toad ที่ในฐานะตัวพ่อของวงการเกม การเอาเกมอื่นมาทับแล้วแปะเครดิตเป็นเกมตัวเองมันดูเป็นอะไรที่ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ เกมนี้จึงเป็นหนึ่งในเกมที่ทาง Nintendo ไม่อยากจดจำเสียเท่าไหร่
Super Mario Bros The Movie
ปิดท้ายด้วยความเลวร้ายที่เกี่ยวกับ Mario ที่ทาง Nintendo อยากลืมมากที่สุดนั้นไม่ได้มีแค่เกมเพียงอย่างเดียว แต่ยังมีภาพยนตร์ที่ถูกสร้างขึ้นมาในช่วงปี 1993 นำแสดงโดย Bob Hoskins รับบทเป็น Mario และ John Leguizamo รับบท Luigi ที่เรื่องราวจะกล่าวถึงสองพี่น้องที่ออกเดินทางช่วย Princess Daisy จาก President Koopa อันโหดเหี้ยม ที่ไม่ว่าจะตีลังกาดูหรือไปยืนมองจากดาวอังคาร เราก็ไม่เห็นว่าตัว Koopa ในหนังจะเหมือนในเกมเลยแม้แต่ปลายเล็บ นี่ยังไม่นับเนื้อเรื่องฉากที่ถ้าไม่แปะชื่อว่า Super Mario Bros เราคงคิดไปว่ามันคือหนังแอคชั่นทั่วไปในท้องตลาด ซึ่งเรื่องนี้ใช้ทุนสร้างสูงถึง 48 ล้านเหรียญ แต่กลับได้มาเพียง 20.9 ล้านเหรียญ แถมยังโดนด่ากระจาย เพราะถึงจะไม่ใช้ชื่อ Super Mario Bros ตัวหนังก็ไม่มีความสนุกอะไรเลยอยู่ดี จนได้รับชื่อเสียงว่าเป็นหนึ่งในภาพยนตร์ที่แย่ที่สุดเท่าที่เคยสร้างมา ใครคิดไม่ออกให้นึกถึงภาพยนตร์ Dragonball Evolution ประมาณนั้นเลย จึงไม่น่าแปลกใจว่าทำไม Nintendo ถึงอยากให้เราลืม ๆ มันไป
ก็จบกันไปแล้วกับเรื่องราวต่าง ๆ ที่ทาง Nintendo ไม่อยากให้เราจดจำที่เกี่ยวกับ Mario เพราะแต่ละเรื่องที่เราเอามานำเสนอนั้นไม่ใช่ความผิดพลาดของการทำเกม แต่มันคือสิ่งที่ไม่เหมาะสมกับสิ่งที่ไม่น่าจะเอามาทำ เมื่อเทียบกับสิ่งที่เกม Mario มีและเป็นตอนนี้ ที่ตัวเกม Mario เรียกว่าเป็นตัวพ่อของวงการเกมที่แม้แต่คนที่ไม่ได้เล่นเกมก็ยังรู้จัก ดังนั้นสิ่งที่เราเอามานำเสนอจึงเหมือนจุดด่างพร้อยเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่เหมือนการเดินทางในวงการก่อนจะมีชื่อเสียงของดาราอะไรแบบนั้น ยังไงก็อย่าไปจริงจังมากอ่านกันเอาสนุกก็พอ ส่วนครั้งหน้าจะเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับอะไรก็ติดตามกันได้